หน้าแรกกัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร สื่อธรรมะ กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร
กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร

 

 

 

 

 



    ในอดีตกาล สมัยพระเจ้าพรหมทัต ครอง ราชสมบัติ ณ กรุงพาราณสีในครั้งนั้นมเหสี ทรงมีพระราชโอรสพระองค์แรกทรงพระนามว่า มหิสสาสกุมาร

    ต่อมาเมื่อ มหิสสาสกุมาร ทรงเจริญวัย ทรงวิ่งเล่น ไปไหนมาไหนได้แล้วพระมเหสีก็ทรงให้กำเนิดพระราช โอรสองค์ที่สอง ทรงพระนามว่าจันทกุมาร

   ต่อมามเหสีทรงเสด็จสวรรคตในขณะที่พระราชโอรส ยังทรงพระเยาว์ พระเจ้าพรหมทัตทรงมีพระมเหสีใหม่ ซึ่งเป็นที่โปรดปรานมาก ต่อมาไม่นานพระมเหสีองค์ใหม่ ทรงมีพระราชโอรสทรงพระนามว่า สุริยกุมาร

อยู่มาวันนึงพระเจ้า-
พรหมทัต
เห็นมเหสี
พระองค์ใหม่อุ้มสุริย -
กุมาร
ด้วยความรักใคร่ จึงได้ถามมเหสีองค์ใหม่ ว่าจะมอบสิ่งใดให้กับ
สุริยกุมาร
ด้วยความ
เจ้าเล่ห์ของมเหสีองค์ใหม่
จึงได้ตอบบ่ายเบี่ยง

   ต่อมาไม่นานมเหสี
องค์ใหม่จึงได้เข้าเฝ้า
พระเจ้าพรหมทัต
เพื่อทวงสัญญาที่จะมอบ ให้กับ สุริยะกุมาร
ในตอนประสูติหากมเหสี องค์ใหม่ร้องขอ

    เมื่อพระเจ้าพรหมทัต
ได้ยินเช่นนั้นถึงกับไม่สบาย
พระทัยเพราะสิ่งที่มเหสี
องค์ใหม่ขอนั้นผิดพระราช - ประเพณี เพราะระเบียบตาม ราชประเพณีนั้นผู้สืบทอด
ราชสมบัตินั้นต้องเป็นของ พระโอรสองค์โตและองค์รอง แต่ถ้าไม่ยกให้ก็จะเสียสัตย์

        เมื่อพระเจ้าพรหมทัต ได้ยินมเหสีองค์ใหม่ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะขอราชสมบัติให้กับสุริยะกุมาร
ทั้งๆ ที่ ราชบัลลังก์นั้นเป็นของพระโอรสองค์โตและองค์รอง พระเจ้าพรหมทัตจึงจำยอมยกให้ เพราะเกรงว่า หากไม่ยอมยกให้ มเหสีองค์ใหม่อาจจะลอบทำร้ายพระกุมารทั้งสองแน่

     พระเจ้าพรหมทัต จึงตัดสินใจ
เล่าความจริงให้กับพระกุมารทั้งสอง
และบอกความวิตกกังวลว่า หากไม่ยก
ราชสมบัติตามที่มเหสีร้องขออันตราย
ก็จะเกิดกับพระกุมารทั้งสองได้

เมื่อพระกุมารทั้งสองได้ยินเช่นนั้น
ก็ปลอบพระทัยพระเจ้าพรหมทัต
และยินดีทีจะปฏิบัติตามคำสั่งสอน
ทุกประการ

   เมื่อพระเจ้าพรหมทัตได้
ยินเช่นนั้นจึงสวมกอดพระ
กุมารทั้งสองด้วยความรัก
    วันรุ่งขึ้น ในระหว่างที่สุริยะ กุมารวิ่งเล่นในบริเวณ
พระราชวังนั้นเองได้เห็น
พระเชษฐาทั้งสองกำลัง
จะเดินออกไปนอกพระราชวัง

จึงได้รับสั่งให้นางสนมกลับ
ไปก่อนส่วนพระองค์ก็จะวิ่ง
ไปหาพระเชษฐาทั้งสอง

   พระกุมารทั้งสองได้
ยินเสียงเรียกของ
สุริยะกุมารจึงได้หยุด
มองดูด้วยความแปลก
ใจ

มื่อสุริยะกุมารวิ่งมา
ทันพระเชษฐาทั้งสอง
แล้วจึงได้ไต่ถามว่า
จะไปไหนกัน พระเชษฐา ทั้งสองจึง
ได้เล่าความจริงให้ฟัง
ว่าทำไมถึงต้องไปเรียน
ศิลปวิทยา

    เมื่อสุริยะกุมารได้
้ทราบความจริงจึงเกิด ความเสียใจ แต่ด้วย ความรักความผูกพันธ์
ระหว่างพี่น้องต่างมาร-
ดา
มหิสสาสกุมาร
จึงได้ปลอบใจและ
เดินทางจากไปพร้อม
กับจันทกุมาร

    ในระหว่างที่พระ
กุมารทั้งสองกำลัง
เดินออกพ้นจาก
ประตูพระราชวัง
นั้น พระสุริยะกุมา
จึงได้วิ่งตามพระ
เชษฐาทั้งสอง

   เมื่อสุริยะกุมารวิ่งไปทัน
พระเชษฐาทั้งสองจึงได้
ร้องขอไปด้วย มหิสสา- สกุมาร เกิดเป็นห่วงขึ้น
จึงได้ห้ามปรามเพราะกลัว
จะมีอันตราย แต่ สุริยะ - กุมารยังคงยืนยันว่า
จะไปให้ได้

   เมื่อมหิสสากุมารเห็นว่าสุริย-
กุมาร
มุ่งมั่นจะไปให้ได้จึงยินยอม ให้ไปด้วย ในที่สุดพระกุมารทั้งสาม
จึงเดินทางไปเรียนศิลปวิทยา
กับอาจารย์ในป่า

     เมื่อพระกุมารทั้งสามเดิน
ทางมาได้สักระยะหนึ่งจึงได้ เตรียมหาที่พัก มหิสสาส-
กุมาร
ได้มอบหมายให้
จันทกุมารถางหญ้าเพื่อ เตรียมสร้างเพลิงสุริยะกุมาร จะขอช่วยด้วยมหิสสาสกุมาร
เห็นว่ายังเด็กจึงให้ไปตักน้ำใส่
กระบอกเพื่อใช้สำหรับดื่ม

เมื่อสุริยะกุมารได้รับมอบหมายให้ไปตักน้ำดื่ม จากนั้นไม่นานก็ได้พบสระน้ำที่ใสสะอาด
Copyright © Dhammakaya Foundation. All rights reserved.
 
 
ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระภาวนาวิริยคุณ  




Home  | นิทานชาดก