|
อารามทูสกชาดก |
|
|
:: สาเหตุที่ตรัสชาดก :: |
.....พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุสงฆ์ เสด็จจาริกไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในแคว้นโกศล คหบดีผู้หนึ่งได้นิมนต์พระพุทธองค์และพระภิกษุสงฆ์เพื่อถวายภัตตาหาร หลังจากภัตตาหารแล้ว พระภิกษุทั้งหลายได้เดินชมสวนอันร่มรื่นนั้น ขณะชมสวนท่านได้สังเกตเห็นบริเวณหนึ่งเป็นที่โล่งเตียน ไม่มีต้นไม้ขึ้นเลย จึงถามคนดูแลสวน ได้ความว่าเมื่อเริ่มปลูกต้นไม้ในสวนนี้ เด็กทำสวนคนหนึ่ง ได้ถอนต้นไม้ที่เพิ่งปลูกขึ้นมาดูความยาวของรากก่อนจะรดน้ำ ต้นไม้จึงตายหมด ที่ตรงนั้นจงโล่งเตียนไปอย่างที่เห็น
.....หลังจากชมสวนแล้ว พระภิกษุทั้งหลายจึงพากันไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบทูลให้พระพุทธองค์ทรงทราบ พระบรมศาสดาทรงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสนุสติญาณ แล้วตรัสว่า
.....ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เด็กคนนั้นไม่ได้เป็นคนทำลายสวนแต่ชาตินี้เท่านั้น แม้ในชาติก่อนก็เคยทำลายสวนมาแล้วเหมือนกัน ตรัสแล้วพระพุทธองค์ทรงนำ อารามทูสกชาดก มาตรัสเล่า
.....๑. ผู้ที่ไม่ฉลาดในประโยชน์ แม้คิดว่าจะทำประโยชน์
ก็มักจะเป็นการทำให้เสียประโยชน์แทน คนเช่นนี้ มักไม่คิดถึงผลได้ผลเสีย
มักจะเสนอโครงการอะไรต่ออะไร ซึ่งเมื่อปฏิบัติไปแล้วแทนที่จะเกิดผลดี
กลับเป็นผลเสีย เช่นเสนอให้คนพกอาวุธได้ โดยอ้างว่า เพื่อไว้ใช้ป้องกันตัว
แต่เมื่อคนเราต่างมีอาวุธไว้ในครอบครองก็มักฮึกเหิม ใช้อาวุธทำร้ายกันเอง
ตัดสินกันด้วยอารมณ์ และอาวุธแทนที่จะใช้ปัญญาระงับปัญหา หรือเสนอให้ตั้งสถานเริงรมย์ แหล่งอบายมุข เพื่อดึงดูดเงินตราเข้าประเทศ
ข้อเสนอนี้ ดูเผินๆ แล้วอาจเห็นว่าดี เพราะจะได้เงินตราจากต่างประเทศ
แต่ถ้ามองให้ลึกๆ แล้ว กลับเป็นการทำให้คนเกียจคร้าน เป็นแหล่งเพาะนักเลงการพนัน
นักเลงสุรา นักเลงผู้หญิง ฯลฯ ประเทศชาติก็เหมือนตกอยู่ในความมืดมน
.....๒. ผู้ใดที่ลูกน้องที่ไม่ฉลาด หากจะมอบหมายงานให้ทำ ควรกำหนดตารางงานให้
อย่าปล่อยให้ตัดสินใจวางแผนเอง เพราะหากเกิดผิดพลาด กลายเป็นผลเสียหาย
ยากแก่การแก้ไข
.....๓. ผู้นำที่ฉลาดแต่มีลูกน้องโง่ แสดงว่า ในอดีตชาติ
แม้ตนจะไม่ดื่มสุรา ไม่เสพยาเสพติด แต่ก็มีส่วนสนับสนุนผู้อื่นบ้าง
ฉะนั้น ผู้นำที่ดี จึงควรฝึกลูกน้องให้มีสติอยู่เสมอ ไม่ตกเป็นทาสของสิ่งมึนเมา
และอบายมุขทั้งปวง จะได้เกิดเป็นคนฉลาด |