|
มหาวาณิชชาดก |
|
|
:: สาเหตุที่ตรัสชาดก :: |
....พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงพระปรารภ พวกพ่อค้าชาวพระนครสาวัตถี
โดยพ่อค้าเหล่านั้นก่อนจะไปค้าขาย ได้ถวายมหาทานแด่พระศาสดา แล้วกราบทูลว่า
ถ้าพวกตนกลับมาได้ จะกลับมาเข้าเฝ้าพระองค์อีก แล้วออกเดินทางไปกับเกวียน ๕๐๐ เล่ม
....ครั้นเมื่อถึงแดนกันดาร พากันหลงทางอยู่ในป่า ขาดน้ำขาดอาหาร เห็นต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งมีพวกนาคยึดครองอยู่
ก็ชวนกันปลดเกวียนนั่งอยู่ที่โคนต้น พวกนั้นเห็นไทรใบเขียวชอุ่ม กิ่งไทรก็เหมือนอิ่มด้วยน้ำ จึงคิดกันว่า
ในต้นไม้นี้ น่าจะมีน้ำอยู่ จึงพากันตัดกิ่งด้านทิศตะวันออก
....เมื่อตัดกิ่งขาด ท่อน้ำขนาดลำตาลไหลพรั่ง พวกนั้นพากันอาบพากันดื่ม แล้วพากันตัดกิ่งทางใต้
โภชนะมีรสเลิศต่าง ๆ ก็พรั่งพรูออกมา พากันบริโภค แล้วตัดกิ่งตะวันตก เหล่าสตรีผู้แต่งกายงดงาม พากันออกมาจากกิ่งนั้น
พากันอภิรมย์กับหมู่สตรีนั้น แล้วตัดกิ่งทางเหนือ แก้ว ๗ ประการหลั่งไหลออกจากกิ่งนั้น พวกพ่อค้าพากันเก็บแก้วเหล่านั้นบรรทุก
เต็มเกวียนทั้ง ๕๐๐ เล่ม กลับมาสู่พระนครสาวัตถี เก็บทรัพย์แล้ว จึงชวนกันมาเข้าเฝ้าพระศาสดา ทูลนิมนต์ถวายมหาทานในวันรุ่งขึ้น
....ครั้นเมื่อถวายมหาทานในวันรุ่งขึ้นเสร็จแล้ว ก็พากันให้ส่วนบุญแก่รุกขเทวดา ผู้ให้ทรัพย์แก่พวกตน
พระศาสดาตรัสถามว่า พวกเธอให้ส่วนบุญแก่รุกขเทวดาองค์ไหน
พวกพ่อค้าพากันกราบทูลเหตุที่พวกตนได้ทรัพย์ในต้นไทรแด่พระตถาคต
....พระศาสดาตรัสว่า พวกเธอมิได้ ลุอำนาจตัณหา เพราะเป็นผู้รู้จักประมาณจึงได้ทรัพย์ แต่ในครั้งก่อน พวกที่ลุอำนาจตัณหา
เพราะไม่รู้จักประมาณ พากันละทิ้งเสียทั้งทรัพย์และชีวิต พ่อค้าเหล่านั้นพากันกราบทูลอาราธนา จึงทรงนำมหาวาณิชชาดกมาแสดงดังนี้
.....๑.
ความโลภไม่รู้จักประมาณ มีแต่จะนำความเดือดร้อนมาให้
.....๒. การมีสติตั้งมั่น ไม่ปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำ ย่อมนำประโยชน์สุขมาให้
.....๓. คนเราต้องรู้จักบุญคุณของผู้มีพระคุณ แม้แต่ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ก็ไม่ควรหักรานกิ่งก้านของต้นไม้นั้น เปรียบดังบุคคลย่อมไม่ทำร้ายผู้เป็นมิตร
|