หน้าแรกกัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร สื่อธรรมะ กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร
กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร

 

 

 

 

 

 






ภาพ  ป๋องแป๋ง
ลงสี  ปูเป้

 ในอดีตกาล ณ กรุงพาราณสี
มีพระราชาพระองค์หนึ่ง ทรง
พระนามว่า พระมหาสีลวราช
พระองค์ทรงเป็นผู้มีพระปรีชา
สามารถ มีน้ำพระทัยเปี่ยมไป ด้วยพระเมตตากรุณา
  ทรงปกครองแผ่นดินโดย
ธรรม ทรงโปรดการทำทาน ยิ่งนัก ทรงให้สร้างโรงทาน ไว้ถึง ๖ แห่งคือที่ประตูเมือง
ทั้ง ๔ ด้าน ที่กลางพระนคร และที่ประตูพระราชวัง เพื่อ
เป็นทานแก่คนยากจน คน
กำพร้า และคนเดินทาง 

  ครั้งนั้นมีอำมาตย์ชั่วคนหนึ่งเห็นพระราชามีน้ำพระทัยเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา จึงคิดเหิมเกริมถึงขนาดลักลอบเข้าไปในเขต พระราชฐานชั้นในหลายครั้ง จนมีผู้มากราบทูลฟ้องร้องและพระองค์ก็ทรงทราบด้วยพระองค์เอง    ถึงแม้การกระทำนั้นมีความผิดถึงขั้นประหารชีวิต แต่พระองค์ทรงมีพระกรุณา จึงทรงเพียงว่ากล่าว และขับไล่ไปจากพระนคร

เมื่ออำมาตย์ชั่วถูกขับไล่
ออกจากเมืองก็โกรธแค้น พระเจ้ามหาสีลวราช จึง
อพยพครอบครัวไปอยู่ที่
เมืองโกศล

 เนื่องจากอำมาตย์ผู้นี้ นอกจากจะเป็นผู้ที่มีฝีมือในการทำงานแล้ว ยังเป็นคนประจบสอพลอ ในที่สุดก็ได้รับการไว้วาง พระราชหฤทัยจากพระเจ้าโกศล

อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่เหล่าเสนาอำมาตย์ปรึกษาหารือเกี่ยวกับ
งานราชการ อำมาตย์ชั่วจึงได้สบโอกาสที่จะหาทางแก้แค้น
พระเจ้าโกศลฟ้งแล้วก็ยังไม่เชื่อทันทีเพราะทราบมาว่า
อำมาตย์ชั่วผู้นี้เคยอยู่เมืองพาราณสีมาก่อน

   พระเจ้าโกศลยังไม่เชื่อใจนัก แต่เห็นว่าอำมาตย์ชั่วกล่าวอย่างแข็งขัน จึงได้ลองทำตามที่อำมาตย์พูดสักครั้ง โดยส่งทหารปลอมตัวไปปล้นชาวบ้าน ที่อยู่ชายแดนในเมืองพาราณสี

 เหตุการณ์ก็เป็นไป
ตามที่อำมาตย์ชั่วพูด
เพราะเมื่อโจรปลอม
ที่พระเจ้าโกศลส่งไป
นั้น เมื่อถูกจับแล้ว
พระเจ้ามหาสีลวราช
ก็ได้ทำการไต่สวน
อย่างมีเมตตาธรรม

 เมื่อพระเจ้ามหาสีลวราช
ปล่อยตัวพวกโจรแล้ว
พวกโจรก็ได้ไปรายงาน
ให้พระเจ้าโกศลทราบ
ทันที

เมื่อพระเจ้าโกศลได้รับรายงานแล้ว ก็หลงเชื่อคำยุยงของอำมาตย์ชั่ว แต่เพื่อความแน่พระทัยจึงได้ให้ทหารปลอมตัว ไปปล้นชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ พระนคร

  เหตุการณ์ก็เป็นไป
อย่างคราวแรก
หลังจากที่พวกโจร
ถูกจับได้ พระเจ้า
มหาสีลวราช ก็ทรง
ปล่อยตัวไป พร้อม
กับมอบทรัพย์ให้ไป
จำนวนหนึ่งเพื่อให้
ไปตั้งตัว

   หลังจากที่พระเจ้า
มหาสีลวราช ได้ปล่อย
ตัวโจรแล้ว พระเจ้าโกศล
ก็ยังไม่แน่พระทัยว่าหาก
ถูกแย่งชิงราชสมบัติแล้ว
จะไม่มีการต่อสู้ จึงได้ส่ง
โจรไปปล้นชาวบ้านที่อยู่
ในเมืองอีก ปรากฎว่่า
เหตุการณ์ก็เป็นดังเดิม

   พระเจ้าโกศลเกิดความลำพองใจ คิดว่าพระเจ้ามหาสีลวราชคงไม่กล้าทำสงคราม จึงได้ยกทัพไปล้อมเมืองพาราณสี
  กรุงพาราณสีมีเหล่าเสนาอำมาตย์ แม่ทัพ ที่มีความสามารถไม่มีใครเทียบได้จำนวนพันนาย เมื่อพระเจ้าโกศลยกทัพ มาปิดล้อมเมืองพาราณสี นักรบเหล่านั้นก็ขออาสาออกไปทำศึกสงคราม และจะจับพระเจ้าโกศลมาลงโทษให้ได้ แต่พระเจ้ามหาสีลวราชก็ทรงห้ามไว้
ด้วยเหตุนี้พระเจ้าโกศลจึงได้ใจ ยกทัพเข้ามาประชิด เมืองหลวงได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ
 แม้เหล่าเสนาอำมาตย์ แม่ทัพ อยากจะออกรบ แต่ก็ห้ามใจไว้ เพราะเคารพต่อพระเจ้ามหาสีลวราช ที่มีคุณธรรมยอดเยี่ยม

  เมื่อพระเจ้าโกศล
ยกทัพเข้ามาประชิด
เมืองพาราณสีอย่าง
ง่ายดาย จึงเกิด
หวาดระแวงว่า
พระเจ้ามหาสีลวราช
จะวางกลอุบายไว้
หรือเปล่า จึงได้ส่ง
พระราชสาส์นมาทูล
ถามว่าจะยอมยก
พระราชสมบัติให้
หรือว่าจะรบ

     จากนั้นพระเจ้ามหาสีลวราช จึงได้รับสั่งให้ทหารเปิดประตูเมือง พระองค์ก็ทรงประทับอยู่บนบัลลังก์ เหล่าเสนาอำมาตย์ แม่ทัพทั้งพันคนก็อยู่ในอาการสงบ
เมื่อพระเจ้าโกศลยึดเมืองพาราณาสีได้แล้ว ก็จับพระเจ้ามหาสีลวราช พร้อด้วยเสนาอำมาตย์ แม่ทัพทั้งพันนายมัดไว้ 
แล้วนำไปฝังในป่าช้าผีดิบ โดยให้ขุดหลุมลึกฝังลำตัวเหลือไว้แต่ศรีษะ เพื่อรอให้สุนัขป่าและสัตว์ร้ายมากัดกินเป็นอาหาร
Copyright © Dhammakaya Foundation. All rights reserved.
 
 
ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระภาวนาวิริยคุณ  


Home  | นิทานชาดก