ลำดับเหตุการณ์ของความเสื่อม

วันที่ 04 ธค. พ.ศ.2562

ความเสื่อมของจักรวาล

 ลำดับเหตุการณ์ของความเสื่อม

                                        เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเห็นความเสื่อมที่เกิดขึ้นโดยลำดับ จึงขอนำลำดับเหตุการณ์ของความเสื่อมที่เกิดขึ้นมากล่าวถึงในที่นี้ แม้ว่าจะเคยกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ ไปบ้างแล้ว แต่การกล่าวถึงนั้น เป็นลักษณะของลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นในโลกและจักรวาลตลอดจนสังคมมนุษย์ ทำให้เรามองไม่เห็นลักษณะของความเสื่อมที่ปรากฏขึ้น ทั้งที่ความเสื่อม เกิดขึ้นควบคู่มากับความเปลี่ยนแปลง

 

                                         โดยจะได้ลำดับเหตุการณ์ของความเสื่อมที่เกิดขึ้นในที่นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากที่กล่าวแล้วในตอนต้นว่า ความเสื่อมปรากฏขึ้นตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว โดยเริ่มปรากฏเมื่อมนุษย์เริ่มมีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม และความเสื่อมนั้นเกิดขึ้นทั้งแก่สิ่งแวดล้อมและตัวมนุษย์เองดังที่ได้กล่าวไปแล้ว

 

                                          ต่อจากนั้นความเสื่อมก็ปรากฏขึ้นเรื่อยมาดังนี้หลังจากที่มนุษย์มีผิวพรรณต่างไปจากเดิม เพราะเหตุที่บริโภคง้วนดินเข้าไป โดยที่บางพวกมีผิวพรรณดี บางพวกผิวพรรณหยาบกร้าน ความที่มนุษย์มีผิวพรรณต่างกัน ทำให้มนุษย์เกิดมานะถือตัวจึงดูถูกดูหมิ่นผู้อื่นในเรื่องผิวพรรณ ต่างก็ว่าตนมีผิวพรรณดีกว่าผู้อื่น ผู้อื่นมีผิวพรรณเลวกว่าตน เพราะความมานะถือตัวจนกระทั่งดูถูกผู้อื่นนี้เอง ง้วนดินซึ่งเป็นอาหารชนิดแรกที่มนุษย์บริโภคจึงหายไป

 


                                          เมื่อง้วนดินได้อันตรธานหายไป ก็ได้ปรากฏอาหารชนิดอื่นขึ้นมาแทน คือ กระบิดิน (สะเก็ดดิน)และเครือดิน ตามลำดับสิ่งเหล่านี้ล้วนมีรสโอชา แต่น้อยกว่าง้วนดิน อีกทั้งมีลักษณะของความเป็นธาตุหยาบมากขึ้น ดังนั้นเมื่อมนุษย์บริโภคเข้าไปผิวพรรณจึงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมตามลำดับ ยิ่งบริโภคมากเท่าไรก็ยิ่งเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นผิวพรรณของมนุษย์จึงหยาบกร้านมากขึ้นเกิดความแตกต่างระหว่างผู้ที่มีผิวพรรณดีกับผิวพรรณเลวมากยิ่งขึ้น

 

                                          จึงส่งผลให้เกิดมีมานะถือตัวและการดูถูกดูแคลนมากขึ้นตามไปด้วย และเพราะการดูถูกกัน ทั้งกระบิดินและเครือดินก็ได้อันตรธานหายไป เมื่อกระบิดินและเครือดินหายไปตามลำดับแล้ว ได้ปรากฏข้าวสาลีขึ้น แต่เดิมข้าวสาลีนั้นมีลำต้นสูงใหญ่ มีเมล็ดใหญ่ ไม่มีเปลือก มีคุณค่าทางอาหาร  รสอร่อยขึ้นได้ทั่วไป เมื่อเก็บเกี่ยวไปแล้วก็สามารถงอกออกมาดังเดิมไม่มีวันหมดสิ้น

 

 

                                          แต่ครั้นต่อมามนุษย์เกิดความเกียจคร้านขึ้นไม่อยากออกมาเก็บเกี่ยวบ่อยๆ เมื่อออกมาจึงนำไปครั้งละมากๆ ข้าวสาลีจึงเปลี่ยนไปจากเดิม เริ่มมีรำข้าว มีเปลือกปรากฏขึ้น เมื่อเก็บไปแล้วก็ไม่งอกขึ้นมาดังเดิม ค่อยๆ ลดจำนวนหายไป จากที่มีขึ้นทั่วไป ก็ปรากฏเพียงเป็นหย่อมๆ เมล็ดและต้นข้าวสาลีมีขนาดเล็กลง คุณค่าทางอาหารและรสได้เสื่อมลงตามลำดับ

 

 

                                            เมื่อข้าวสาลีไม่ได้หาได้ง่ายดังเดิม มนุษย์จึงจับจองกำหนดเขตของตนขึ้น แต่มีมนุษย์บางกลุ่มบางคนเกิดความโลภ ไม่นำข้าวสาลีของตนมาบริโภค แต่กลับไปลักขโมยข้าวสาลีของผู้อื่น ครั้นเจ้าของจับได้ก็ว่ากล่าวตักเตือน แต่ครั้นปล่อยไปแล้วก็ยังคงลักขโมยอีก เมื่อจับได้ก็กล่าวเท็จปฏิเสธ จึงทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท ด่าว่า และทำร้ายร่างกายกันด้วยมือ ก้อนดิน และท่อนไม้ นับแต่นั้นมามนุษย์ก็เริ่มใช้ความรุนแรงต่อกันเรื่อยมา ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป

 

จากหนังสือ DOU
           วิชา GL 101 จักรวาลวิทยา
                                 กลุ่มวิชาเป้าหมายชีวิต

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0015353997548421 Mins