บวชนี้ดีอย่างไร
1. ได้ประพฤติความดีอย่างสูงส่ง อย่างน้อยก็สูงกว่าคฤหัสถ์ ฉะนั้น ญาติโยมจึงกราบไหว้เคารพบูชา
ถ้าประพฤติเสมอกัน เขาก็ไม่จำเป็นต้องกราบไหว้ เช่น พ่อแม่กราบลูกผู้บวชแล้ว เพราะถือว่าทรงเพศ และมีความประพฤติที่ดีสูงส่ง
2. ได้ทำสิ่งที่ได้รับนิยมยกย่องว่าดี สิ่งทั้งหลายที่นิยมว่าดีนั้น ถ้าได้ประสบพบผ่านก็เป็นลาภของตนแต่ละอย่าง
3. ได้เข้าใกล้ชิดพระธรรมวินัย ได้เข้าเนื่องในพระสังฆรัตน์ ได้เป็นพุทธศาสนิกชนจริงๆ ได้สืบอายุพระพุทธศาสนาเพราะได้ปฏิบัติดี
เพราะถ้านับถือพระพุทธศาสนา แต่ว่าไม่ได้ปฏิบัติธรรมในศาสนาแต่อย่างใด หรือปฏิบัติธรรมที่ศาสนาอื่นๆ ก็มี
ยังไม่ได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริง เมื่อได้ปฏิบัติธรรมที่เป็นส่วนพิเศษอันมีเฉพาะในพระพุทธศาสนา
จึงชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริง
ที่ชื่อว่าได้สืบต่อพระพุทธศาสนา ก็เพราะพระพุทธศาสนาสืบต่อมาได้ด้วยมีผู้ออกบวช ปฏิบัติสืบต่อกันมา ถ้าไม่มีผู้ออกบวช
พระพุทธศาสนาก็คงจะหายไป
ถ้ามีคำถามว่า ถ้าเรียนรู้และปฏิบัติอย่างคนสามัญทั่วไปก็ได้ ทำไมต้องบวช ตอบว่าก็ได้บุญอย่างคนทั่วไป แต่ไม่ได้เหมือนผู้บวช
เหมือนการตัดลำต้นไม้ทิ้ง ในที่สุดจะไม่มีกิ่ง แม้การบวชชั่วคราว ก็ชื่อว่ารักษาศาสนาได้ เพราะเข้ามาสืบต่อรักษาลำต้นไว้
4. ได้ทำความปลื้มปีติและเพิ่มพูนบุญกุศลให้พ่อแม่ ญาติพี่น้อง มารดาบิดาที่เป็นพุทธศาสนิกชน โดยมากเมื่อมีบุตรก็มักปรารถนาให้ได้บวช
หรืออย่างน้อยก็รู้ว่าอาจจะได้บวชลูก และเมื่อได้บวชก็มีความปลื้มปิติ เพราะได้สำเร็จสมประสงค์ในการที่เรียกว่าเป็นบุญอย่างสูง
และได้ให้อริยทรัพย์ (ทรัพย์ที่ประเสริฐ) แก่ลูกของตน
5. ได้รับประกันว่าตนเองสามารถประพฤติความดีได้ เพราะการบวชที่เป็นการบวชที่ดี ต้องประพฤติพระธรรมวินัยอย่างประณีต
เมื่อบวชแล้วประพฤติดีได้ในระยะเวลาหนึ่ง ก็ชื่อว่า เป็นผู้ที่พระพุทธเจ้ารับประกันความดีให้แล้ว
6. ได้เข้ามาสร้างนิสัยอุปนิสัยที่ดี เพราะการบวชเป็นการอบรมบ่มนิสัยให้ดี มีพระธรรมวินัยเป็นเครื่องอบรม มีพระอุปัชฌาย์อาจารย์
เป็นผู้ช่วยอบรม และดำรงตนเองอยู่ในแวดล้อมของเพื่อนที่ประพฤติธรรมร่วมกัน ช่วยห้ามไม่ให้ตกไปสู่สิ่งที่ไม่ดี
7. ได้ปฏิบัติหน้าทีของลูกผู้ชาย เพราะลูกผู้ชายในประเทศไทยต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ 2 อย่าง คือ เป็นทหารรับใช้ประเทศชาติ
ป้องกันชาติของตนเอง และบวชในพระพุทธศาสนา เพื่ออบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดี