ณัฐกมล ชัยเจริญสุข

วันที่ 29 มิย. พ.ศ.2558

 

ณัฐกมล ชัยเจริญสุข

รักษามะเร็ง ด้วยบุญสร้างพระ

 

 

 

       ที่พวกเราต่างก็ช่วยกันทำ มีทุกอย่างในชีวิตที่ลงตัว ใช้ชีวิตอย่างนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งมีอาการ ผิดสังเกตเกิดขึ้นกับร่างกาย คือเวลาถ่ายจะมีเลือดเป็นลิ่มๆ ออกมาด้วย ตอนนั้นคิดว่าคงเป็นริดสีดวง ธรรมดาๆ เพราะไม่มีอาการปวดท้อง ไม่มีอาการ อย่างอื่นเลย สามารถกินได้นอนหลับดีเป็นปกติ จึงปล่อยไว้นานถึงสองสามเดือนจนผิดสังเกต คือเลือดเริ่มออกมากขึ้นๆ เรื่อยๆ สุดท้ายจึงตัดสินใจไปหาหมอ ทำให้ทราบว่าเราเป็นเนื้องอกขนาด ครึ่งเซนติเมตรในลำไส้ใหญ่ ตอนนั้นหมอบอกว่าเราเป็นแค่เนื้องอกธรรมดาๆ ก็สบายใจ คิดว่าคง ไม่เป็นอะไรมาก แต่หมอแนะนำให้ผ่าตัดเอาออก เพราะมันทำให้เลือดไหลไม่หยุด ซึ่งก่อนผ่าก็ได้ใช้เครื่องสแกนทั้งตัว สำรวจว่านอกจากเนื้องอกตรงจุดนี้ แล้วมีอาการผิดปกติอย่างอื่นไหม ปรากฏว่าเจอเนื้องอกที่ตับขึ้นมาอีก หมอจึงตัดสินใจผ่าออกพร้อมกันทีเดียว แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะต้องเสียเลือดเยอะมาก เพราะต้องผ่าท้องเปิดแผลยาวถึงฟุตครึ่ง หมอต้องเตรียมเลือดถึง ๔ ถุง พอทราบอย่างนี้ ยอมรับเลยว่าค่อนข้างไม่สบายใจ จึงได้ไปทำบุญถวายปัจจัยพิเศษกับหลวงพ่อ อธิษฐานให้บุญช่วย อาราธนาให้หลวงปู่วัดปากน้ำท่านช่วยให้เรารอดปลอดภัย ซึ่งก็ปลอดภัยจริงๆ แถมไม่ต้องใช้เลือด ทั้ง ๔ ถุงที่เตรียมไว้เลย ซึ่งหมอเองก็อัศจรรย์ว่าเป็นไปได้อย่างไร

 

       หลังจากออกจากห้องผ่าตัด ต้องอยู่ ICU และพักฟื้น ๑ อาทิตย์ และก่อนกลับบ้านก็มาทราบข่าวร้ายจากคุณหมอว่า เราเป็นมะเร็งระยะที่ ๔ แล้ว ถ้าเป็นคนไข้คนอื่นเขาคงร้องไห้โฮออกมาตรงนั้น แต่ด้วยความที่เราเข้าวัดตั้งแต่อายุไม่ถึง ๒๐ ปี ได้นั่งสมาธิ พอจะทราบถึงเรื่องกฎแห่งกรรมจึงมีสติและตอบหมอไปอย่างนิ่งๆ ว่า มันคงเป็นวิบากกรรม เก่า เราไม่คิดอะไรมาก แล้วหมอก็บอกว่า นับจากนี้ ต้องรักษาโดยการให้คีโมแล้วนะ ราคาประมาณ เข็มละ ๑๒๐,๐๐๐ บาทซึ่งก็โอเค เพราะว่าไม่มีปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว เพียงขอให้หาย นับจากนั้นอีกประมาณ ๒ อาทิตย์ หมอก็นัดไปฉีดคีโมครั้งที่ ๑ หลังจากให้คีโมประมาณ ๑ อาทิตย์ ร่างกายก็เริ่มผิดปกติ คือ ข้างในร้อนไปทั้งตัว มี แผลร้อนในขึ้นในปาก ๑๐ กว่าแผล เจ็บคอเหมือนมีกระดูกมาขวางที่คอตลอดเวลา กินอะไรไม่ได้เลย ผมก็ค่อยๆ ร่วงจนหมดทรมานเหลือเกิน กินไม่ได้ นอนไม่ได้ อารมณ์ก็ไม่ดี เหมือนกับคีโมมันทำลายเซลล์ดีๆ ในร่างกายของเราไปด้วย จนเรายืนยันกับตัวเองว่าจะไม่เลือกวิธีนี้รักษาอีกแล้ว ซึ่งพอไปปรึกษากับหมอ หมอก็ยืนยันกลับมาว่าอาการของเราต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นถึงจะยืดอายุได้ แต่เราก็ปฏิเสธ จนคนในครอบครัวเขาไม่สบายใจไปด้วย ต่างคนต่างขอร้องให้ไปให้คีโมต่อ เพราะกลัวว่ามะเร็งจะลาม กลัวเราจะไปเร็ว จนมีประโยคหนึ่งจากคุณแม่ถามเรา ว่า จะให้แม่ทำอย่างไรถึงจะทำให้ลูกมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก

 

     ตอนนั้น..เราคิดออกแต่ว่า บุญเท่านั้นที่จะต่ออายุเราได้ จึงขอให้แม่มาเช่าคอนโดที่อยู่ติดวัดให้เรา อยู่ เพื่อจะได้มาวัดทุกวัน ตะลุยสร้างบุญกันอย่างเดียว คือ ตื่นเช้ามาก็นั่งสมาธิ ไปถวายภัตตาหารพระที่หอฉัน ตอนสาย ตอนบ่าย ก็ไปนั่งสมาธิที่ห้องปัญญา ซึ่งปัจจุบันก็ได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวให้กับตัวเองทุกๆ เดือน เดือนละ ๑ องค์ และบุญที่ทำ มานานแล้วอย่างต่อเนื่องไม่ได้ขาด ก็คือ การสร้าง พระประธานถวายให้กับศูนย์สาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ จนถึงปัจจุบันประมาณ ๘๐ กว่าองค์แล้วแล้วก็ยังทำบุญสร้างพระ ไปถวายประเทศศรีลังกา คือคนในครอบครัวรวมถึง ตัวเราเอง จะชอบทำบุญประเภทสร้างพระมากๆ เพราะคิดว่าเป็นบุญใหญ่ เพราะถือวˆาเป็นการสร้างพุทธปฏิมากรแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อมีคน มากราบไหว้ เขาก็จะระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขามีความทุกข์มาขนาดไหน พอมาเจอที่พึ่ง จิตใจเขาก็จะดีขึ้น แม้ว่าเราตายไปแล้ว องค์พระที่จารึกชื่อเราบนเจดีย์ก็ยังคงอยู่อีกเป็นพันปี บุญก็ยังส่งผล ต่อเนื่องถึงเราตลอด ได้ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ไปทุกภพทุกชาติ และจะเวียนว่ายอยู่แต่ในสุคติภูมิอย่างเดียวทุกวันนี้อยู่ได้ก็เพราะบุญจริงๆ เพราะไม่ได้ให้ คีโมแล้ว ไม่ได้กินยาอะไรจากหมอด้วย จะยอมกินก็แค่เห็ดหลินจือที่เป็นเเคปซูลเท่านั้น เพราะกินง่าย อีกทั้งยังกินอาหารทุกอย่างเหมือนคนปกติ ไม่ได้จำกัดว่ากินโน่นกินนี่ไม่ได้ แต่เราอาศัยที่ว่าทำใจ ให้สบาย ทำกายให้สงบ ตะลุยทำทุกอนุวินาทีให้เป็นบุญ ซึ่งปรากฏว่าหลังจากที่ทำแบบนี้ อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไปตรวจเลือดกับหมอผลปรากฏว่า ไม่มีการแพร่ของเซลล์มะเร็งเพิ่มขึ้น ผลเลือดปกติอย่างน่าประหลาดใจ จนทำให้เราเองรู้สึกทึ่งในบุญ รู้สึกว่าเรามาถูกทางแล้วทุก

 

      วันนี้..ก็รู้นะว่ามะเร็งขั้นนี้รักษาให้หายขาดยากมากๆ แต่ตอนนี้เราต่อเวลาของชีวิตออกไปได้อีก แถมยังเป็นชีวิตที่ไม่ทรมาน สภาพจิตใจเราก็ดี มีความสุข อยู่ในบุญ ถ้าแม้เวลาของเราในโลกนี้ต้องหมดไปจริงๆ เราก็เชื่อมั่นว่าต้องไปดี เพราะบุญที่เราทุ่มเททำมาทั้งหมด แถมยังรู้สึกโชคดี ที่ได้รู้จักวัดทำให้เราได้สร้างบุญต่ออายุ และโชคดีที่เรามาเกิดในครอบครัวที่เข้าใจเรื่องบุญ รักการสร้างบุญ ให้โอกาสเราในการสร้างบุญและให้กำลังใจมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เราสู้ เพื่อให้คนที่เขาห่วงเรา ให้กำลังใจเรารู้สึกว่าสิ่งที่เขาให้มาไม่สูญเปล่า

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0082216501235962 Mins