รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบสีสดใส ข้อคิดจากชาดก นิทานชาดกภาษาอังกฤษ วีดีโอนิทาน

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

นิทานชาดก : ชฎิลเศรษฐีผู้มีภูเขาทองเกิดขึ้นด้วยอำนาจบุญ

เรื่องจากพระไตรปิฎก
เรื่อง : มาตา

 

เรื่องจากพระไตรปิฎก

 

เรื่องจากพระไตรปิฎก

ชฎิลเศรษฐี
ผู้มีภูเขาทองเกิดขึ้นด้วยอำนาจบุญ

เรื่องจากพระไตรปิฎก

          ในบรรดาประชากรโลกประมาณ ๗,๐๐๐ ล้านคน มีคนที่เป็นเศรษฐีอยู่ไม่มากนัก ทั้ง ๆ ที่การเป็นเศรษฐีไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็นแต่อย่างใด หากรู้วิธีการ

          การศึกษาเรื่องราวของเศรษฐีตัวจริงในพระไตรปิฎก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราได้เรียนรู้วิธีเป็นเศรษฐี เพื่อนำมาใช้ออกแบบชีวิตให้สมบูรณ์พร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ และเมื่อสมบูรณ์พร้อมด้วยทรัพย์แล้ว เราจะได้ใช้ทรัพย์นั้นในการสร้างความดีได้อย่างสะดวกสบาย เช่น เกื้อกูลหมู่ญาติและเพื่อนมนุษย์ บำเพ็ญบุญกุศลแปรเปลี่ยนทรัพย์นั้นให้เป็นอริยทรัพย์ เก็บไว้เป็นเสบียงบุญหล่อเลี้ยงตนเองไปทุกภพทุกชาติจนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพาน

          เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องของชฎิลเศรษฐี ซึ่งเป็น ๑ ใน ๕ ของเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในครั้งพุทธกาล

 

เรื่องจากพระไตรปิฎก


          ในสมัยพุทธกาล ณ กรุงพาราณสี มีลูกสาวเศรษฐีคนหนึ่งเป็นหญิงที่สวยงามมาก บิดาของนางหวงแหนนางมาก ถึงขนาดไม่อยากให้ใครเห็นนางเลย จึงให้นางขึ้นไปอาศัยอยู่บนปราสาทชั้นที่ ๗ พร้อมกับคนรับใช้อีก ๑

           คนอย่างไรก็ตาม ต่อมานางได้อยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยากับวิทยาธรที่เหาะผ่านมาและตั้งครรภ์ขึ้น เรื่องที่นางคบค้ากับวิทยาธรและตั้งครรภ์ไม่มีใครรู้เลยนอกจากคนรับ

          ใช้เวลาผ่านไป ๑๐ เดือน นางคลอดลูกออกมาเป็นเด็กผู้ชาย ด้วยความกลัวว่าบิดามารดาจะรู้นางจึงสั่งให้คนรับใช้อุ้มเด็กใส่ในภาชนะ ปิดฝาจนแน่น เอาพวงดอกไม้วางไว้ข้างบน แล้วนำไปลอยที่แม่น้ำคงคาในระหว่างทาง เวลามีคนถามว่ามีอะไรอยู่ในภาชนะนั้น คนรับใช้ตอบว่า “เป็นพลีกรรมของนายหญิงของฉัน”

          ทารกน้อยแรกเกิดที่นอนอยู่ในภาชนะ ลอยไปตามกระแสน้ำโดยไม่รู้ชะตากรรม จนกระทั่งไปถึงท่าน้ำแห่งหนึ่ง

          วันนั้นมีหญิง ๒ คน กำลังอาบน้ำอยู่ในแม่น้ำคงคา ทั้งสองมองเห็นภาชนะที่ถูกกระแสน้ำพัดมา หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ภาชนะนั้นเป็นของฉัน” ส่วนหญิงอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “สิ่งที่อยู่ในภาชนะนั้นเป็นของฉัน”

          ครั้นช่วยกันเปิดถาดออกดู ก็เห็นทารกเพศชายหน้าตาน่ารัก ทั้งคู่อยากได้เด็กไปเลี้ยงแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงกราบทูลเรื่องราวให้พระราชาทรงตัดสิน

พระราชาทรงวินิจฉัยให้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นอุปัฏฐากของพระมหากัจจายนะเป็นฝ่ายได้เด็กไป นางตั้งชื่อให้ทารกน้อยว่า ชฎิล (แปลว่า รุงรังยุ่งเหยิง) เพราะผมของเด็กรุงรังยุ่งเหยิง เนื่องจากเมื่อคลอดออกมาแล้วไม่มีใครช่วยทำความสะอาดผมให้เกลี้ยง

          หญิงคนนี้เลี้ยงทารกน้อยด้วยความรักและตั้งใจว่าจะถวายเด็กน้อยแด่พระมหากัจจายนะเพื่อให้บวชในสำนักของท่าน

         วันหนึ่ง พระมหากัจจายนะไปบิณฑบาตที่บ้านของหญิงผู้นี้ ตอนนั้นเด็กน้อยชฎิลอายุราว๗ ขวบ นางจึงถวายเด็กน้อยให้ไปบวชเป็นสามเณรในสำนักของพระมหากัจจายนะ แต่พระมหากัจจายนะเห็นด้วยญาณทัสสนะว่า เด็กคนนี้เป็นผู้มีบุญมาเกิด เมื่อโตขึ้นจะได้ครอบครองสมบัติในเพศคฤหัสถ์เสียก่อนแล้วจึงจะบวช

      ดังนั้น แทนที่จะให้ชฎิลบวชเป็นสามเณรท่านจึงพาเด็กน้อยไปฝากไว้ที่บ้านของอุบาสกผู้เป็นอุปัฏฐากคนหนึ่งในกรุงตักสิลา ซึ่งอุบาสกคนนี้เลี้ยงดูเด็กน้อยเสมือนบุตรชายของตน

         อุบาสกคนนี้มีอาชีพค้าขาย เขามีสินค้าจำนวนมากที่สะสมมาเป็นเวลานานถึง ๑๒ ปีเพราะขายไม่ออก วันหนึ่ง อุบาสกมีธุระ เขาจึงฝากสินค้าเหล่านี้ไว้กับชฎิล ด้วยมหาทานบารมีที่ชฎิลเคยสั่งสมมาในกาลก่อน เทวดาผู้รักษาพระนครจึงบันดาลให้ผู้คนพากันหลั่งไหลไปซื้อสิ่งของที่พ่อค้าเก็บไว้นานถึง ๑๒ ปี หมดเกลี้ยงภายในวันเดียว

         ตอนเย็น อุบาสกกลับมาไม่เห็นสินค้าแม้แต่ชิ้นเดียว ก็ตกใจมาก เขาถามชฎิลว่า “เจ้าทำสินค้าเสียหายหมดแล้วหรือ” แต่พอทราบว่าเด็กชายชฎิลขายสินค้าได้หมด เขาก็บังเกิดความตื่นเต้นยินดีและอัศจรรย์ใจ และรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นผู้มีบุญมาเกิด

          ต่อมา เมื่อชฎิลเติบโตเป็นหนุ่ม อุบาสกจึงยกบุตรสาวให้ และสั่งให้บริวารสร้างบ้านหลังใหญ่โตมโหฬารให้ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ชฎิลและภรรยาก็เตรียมตัวย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่ในทันทีที่ชฎิลก้าวข้ามธรณีประตูแล้วเหยียบลงที่พื้นบ้านด้วยเท้าเพียงข้างเดียว เหตุมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น คือ มีภูเขาทองประมาณ ๘๐ ศอกแทรกแผ่นดินขึ้นมาบริเวณหลังบ้าน

           ภูเขาทองคำนี้เป็นสมบัติอจินไตยที่เกิดขึ้นสำหรับชฎิลและลูกชายคนเล็กเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครขุดเอาทองออกมาได้นอกจากชฎิลกับ
ลูกชายคนเล็ก คนอื่นแม้มีกำลังมหาศาลเพียงใดหรือใช้วัตถุที่แข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่สามารถขุดได้แต่สำหรับชฎิลนั้น เมื่อไรที่ต้องการทองคำ เขาก็ใช้จอบเพชรด้ามทองขุดทองขึ้นมาได้เลย

          ภูเขาทองคำที่เกิดขึ้นอย่างเป็นอัศจรรย์นี้สร้างความแตกตื่นแก่มหาชนทั้งหลาย และเมื่อพระราชาทรงทราบว่ามีภูเขาทองคำบังเกิดขึ้นที่บ้านของชฎิล ก็ทรงแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งเศรษฐี พร้อมทั้งพระราชทานฉัตรประจำตำแหน่งเศรษฐีให้

          นับแต่นั้นมา นายชฎิลผู้มีบุญก็กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีสมบัติอันมหาศาลยิ่งกว่าใคร ๆในแคว้นนั้น มหาชนจึงพากันเรียกขานเขาว่า  “ชฎิลเศรษฐี”

          ชฎิลเศรษฐีใช้ชีวิตอยู่ในเพศคฤหัสถ์ท่ามกลางสมบัติอันมหาศาลเรื่อยมา จนวันหนึ่งท่านเกิดความเบื่อหน่ายในการครองเรือน ท่านเห็นว่า การบวชคือหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ชีวิตพบความสุขสงบได้อย่างแท้จริง ท่านจึงคิดหาทางที่จะออกบวชเรื่อยมา

          ต่อมา เมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่เหมาะสมท่านจึงไปทูลขอพระบรมราชานุญาตออกบวช เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว ชฎิลเศรษฐีจึงเรียกลูกชายทั้ง ๓ คนมา เพื่อมอบทรัพย์สมบัติให้

          ก่อนอื่น ท่านให้ลูกทั้งสามทดลองขุดภูเขาทองคำ ปรากฏว่า ลูกคนโตและคนรองขุดไม่ได้ ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด แต่ลูกชายคนเล็กกลับขุดได้ง่ายราวกับขุดดินเหนียว ท่านจึงมอบภูเขาทองคำให้ลูกชายคนเล็ก แล้วบอกกับลูกอีก ๒ คน ว่า “ภูเขาทองลูกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อพวกเจ้า และไม่ใช่ของสาธารณะแก่คนทั่วไป แต่เกิดขึ้นเพื่อพ่อและน้องคนเล็ก หากลูกทั้งสองต้องการทอง ก็จงขอจากน้องเถิด”

         เมื่อกล่าวให้โอวาทและอบรมสั่งสอนลูกเรียบร้อยแล้ว ชฎิลเศรษฐีก็ก้าวออกจากเรือนไปบวชเป็นพระภิกษุโดยปราศจากความอาลัยในทรัพย์สมบัติ ท่านตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม ในเวลาเพียง ๒-๓ วันเท่านั้น ก็สามารถทำพระนิพพานให้แจ้ง บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พร้อมด้วยคุณวิเศษทั้งหลาย

 

เรื่องจากพระไตรปิฎก


          ส่วนสาเหตุที่ท่านถูกแม่สั่งให้คนเอาไปลอยน้ำ สาเหตุที่มีภูเขาทองเกิดขึ้นหลังบ้าน และสาเหตุที่ลูกชายคนเล็กขุดทองจากภูเขาทองได้มีความเป็นมาดังต่อไปนี้...

          ย้อนไปเมื่อหนึ่งพุทธันดรที่ผ่านมา ในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งนั้น ชฎิลเศรษฐีมีอาชีพเป็นช่างทอง

          ภายหลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานแล้ว มหาชนได้ร่วมกันสร้างพระเจดีย์ทองคำเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระภาคเจ้า เจดีย์นี้มีความสูง ๑ โยชน์สร้างโดยใช้หรดาลมโนศิลาแทนดินเหนียว ใช้น้ำมันแทนน้ำ แล้วก่อด้วยอิฐทองคำ

          มหาชนทั้งหลายต่างช่วยกันสร้างพระเจดีย์อย่างเต็มที่เต็มกำลัง แต่ทองคำก็ยังไม่พอ เมื่อพระอรหันต์องค์หนึ่งทราบข่าว ท่านจึงอาสานำข่าวบุญไปแจ้งแก่ชาวเมือง

          ท่านเดินแจ้งข่าวให้ชาวเมืองทราบโดยทั่วกันว่า ทองคำไม่พอสร้างเจดีย์ เมื่อเดินไปถึงบ้านนายช่างทอง ท่านก็แวะแจ้งข่าวให้นายช่างทองทราบว่า ทองสำหรับสร้างพระเจดีย์ยังไม่พอ ปรากฏว่าขณะนั้นนายช่างทองกำลังทะเลาะกับภรรยาอยู่ เขาอารมณ์ไม่ดี จึงตวาดออกไปโดยไม่ทันยั้งคิดว่า “ท่านจงโยนพระศาสดาของท่านลงในน้ำ แล้วจงไปเสีย”

          ภรรยาของเขาตกใจมาก กล่าวว่า  “ท่านทำกรรมหนักเสียแล้ว ท่านโกรธดิฉัน ก็ควรจะด่าหรือเฆี่ยนตีดิฉัน เหตุไฉนท่านจึงสร้างเวรกับพระพุทธเจ้าทั้งหลายเล่า”

          เมื่อนายช่างทองได้ยินคำพูดของภรรยาก็ได้สติสำนึกผิด และเกิดความร้อนใจในการกระทำของตน เขาจึงเข้าไปขอขมาพระอรหันต์รูปนั้น แต่พระอรหันต์กล่าวว่า “ท่านไม่ได้ล่วงเกินอาตมาเลย ท่านล่วงเกินพระบรมศาสดาต่างหากท่านจงขอให้พระศาสดายกโทษให้เองเถิด”พร้อมทั้งแนะนำให้นายช่างทองทำหม้อดอกไม้ทองคำ ๓ ใบ บรรจุไว้ภายในพระเจดีย์ แล้วไปกราบขอขมาพระศาสดาต่อหน้ามหาเจดีย์กรรมหนักจะได้กลายเป็นเบา

 

เรื่องจากพระไตรปิฎก


           นายช่างทองตัดสินใจที่จะทำตามคำแนะนำของพระอรหันต์ เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลูกชายทั้งสามฟังว่า เขาได้กล่าวถ้อยคำล่วงเกินพระบรมศาสดา และตอนนี้กำลังจะทำหม้อดอกไม้ทองคำไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์ เพื่อเป็นการขอขมาพระองค์

          นายช่างทองชวนลูก ๆ ทั้ง ๓ คน ให้มาช่วยกันทำหม้อดอกไม้ทองคำ แต่ลูกชายคนโตและคนรองปฏิเสธ มีเพียงลูกคนเล็กเท่านั้นที่ตกลงทำบุญนี้กับพ่อ

          นายช่างทองและลูกคนเล็กใช้ทองคำจำนวนมากทำหม้อดอกไม้ทองคำขนาดหนึ่งคืบ๓ ใบ ด้วยฝีมือที่ละเอียดประณีต งดงาม เสร็จแล้วก็พากันนำหม้อดอกไม้ทองคำทั้ง ๓ ใบ ไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์ แล้วไปกราบขอขมาพระบรมศาสดา น้อมระลึกถึงพระคุณอันไม่มีประมาณของพระพุทธองค์ ณ เบื้องหน้าพระเจดีย์นั้น

          ด้วยวิบากกรรมที่กล่าวคำดูหมิ่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้นายช่างทองถูกทิ้งลงแม่น้ำมาแล้วถึง ๗ อัตภาพ ตลอดหนึ่งพุทธันดรและด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (บุคคลบริสุทธิ์) ด้วยการถวายหม้อดอกไม้ทองคำที่ล้ำค่าและวิจิตรงดงาม (วัตถุบริสุทธิ์) เพื่อกราบขอขมาและระลึกถึงพระคุณอันไม่มีประมาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า(เจตนาบริสุทธิ์) ทำให้ภูเขาทองคำสูง ๘๐ ศอกบังเกิดขึ้นสำหรับช่างทองและลูกชายคนเล็กเป็นอัศจรรย์

          ภูเขาทองที่เกิดขึ้นกับชฎิลเศรษฐีอย่างอัศจรรย์เป็นเรื่องจริงที่ปรากฏขึ้นด้วยอำนาจบุญและถูกบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก เป็นตำนานแห่งความดีงามสืบต่อกันมาจนกระทั่งปัจจุบัน

 

เรื่องจากพระไตรปิฎก


หล่อหลวงปู่ทองคำ
องค์ที่ ๗ สำเร็จทุกอย่าง

๑๐

          ในเรื่องของการถวายทานด้วยวัตถุอันเลิศนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า  “เมื่อให้ทานในวัตถุอันเลิศ บุญอันเลิศ อายุวรรณะ ยศ เกียรติ สุข และกำลังอันเลิศก็เจริญ”

         ชฎิลเศรษฐีถวายทานด้วยวัตถุที่เลิศล้ำเลอค่า คือ ทองคำ โดยนำมาจัดทำเป็นหม้อดอกไม้ทองคำที่ละเอียดประณีตและงดงาม บุญที่ถวายทานด้วยวัตถุอันเลิศ จึงส่งผลให้สมบัติอจินไตย คือ ภูเขาทองคำสูง ๘๐ ศอกบังเกิดขึ้นเป็นอัศจรรย์ ทำให้ท่านกลับกลายจากคนธรรมดาสามัญไปเป็นเศรษฐีระดับ TopFive คือ เป็น ๑ ใน ๕ ของเศรษฐีที่รวยที่สุดในครั้งพุทธกาล

         แม้เราทุกคนก็เช่นกัน หากวัตถุทาน คือปัจจัยหรือทองคำที่นำมาหล่อหลวงปู่องค์ที่ ๗ของเราได้มาด้วยความบริสุทธิ์ และนำมาหล่อด้วยเจตนาบริสุทธิ์ บุญที่เกิดขึ้นก็สามารถส่งผลให้เรามีสมบัติที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน เพราะพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเป็นพระภิกษุที่มีความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เปี่ยมด้วยคุณธรรมและคุณวิเศษ หากใครทำบุญกับท่านอย่างเต็มที่เต็มกำลังจนกระทั่งบุญเต็มเปี่ยมอย่าว่าแต่ภูเขาทองเลย แม้สมบัติอจินไตยต่าง ๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งเรื่องนี้มิได้กล่าวลอย ๆ ในพระไตรปิฎกก็มีหลักฐานบันทึกไว้ว่า คนที่รวยกว่าชฎิลเศรษฐีหรือคนที่มีสมบัติยิ่งใหญ่กว่าภูเขาทองคำนั้นมีอยู่จริง ๆ ซึ่งสมบัติทั้งหลายจะเกิดขึ้นตามกำลังบุญที่แต่ละคนเคยสั่งสมมาเท่านั้น..หล่อหลวงปู่ทองคำองค์ที่ ๗ สำเร็จทุกอย่าง

นิทานชาดก เรื่องเดียวกันหน้าอื่นๆ
รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

ธัมมัสสวนมัยจิตผ่องใสได้ฟังธรรม

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

วันรวมใจกตัญญู...บูชาครูวิชชาธรรมกาย

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

อัญเชิญรูปหล่อขึ้นสู่แท่นประดิษฐาน สาธุการอนุโมทนา

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

ชฎิลเศรษฐีผู้มีภูเขาทองเกิดขึ้นด้วยอำนาจบุญ

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

โครงการอุปสมบทหมู่พระธรรมทายาทนานาชาติรุ่นที่ ๑ ทวีปยุโรป

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

พิธีเจริญพระพุทธมนต์พิเศษเนื่องในวันธรรมชัยและพิธีมุทิตาสักการะเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

ย้อนรอยสู่คำสอนดั้งเดิม

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

จงปลดตนเองออกจากพันธนาการแห่งความปรารถนา

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

สองประสาน ทุกงานสำเร็จ

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

นักโทษแห่งวัฏสงสาร

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

ความสะอาด มีความสำคัญต่อการเข้าวัดปฏิบัติธรรมอย่างไร?

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

ขัดสัคเค... ผริตฺวาน เมตฺตํ...

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

รวยฝ่าวิกฤต

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

Case Study : โรงงานฆ่าสัตว์ ๑๕ เมษายน ๒๕๔๗

รูปนิทานชาดกฉบับที่ ๑๓๒ เดือนตุลาคม ๒๕๕๖

เวลาว่าง

คำค้น :: นิทานชาดก มิใช่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อสอนคุณธรรม แต่นิทานชาดก คือ เรื่องในอดีตชาติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิทานธรรมะที่พระองค์ทรงแสดงไว้แล้วอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีนิทานภาษาอังกฤษ วีดีโอนิทาน คลิปนิทาน การ์ตูนสุภาษิต ให้ศึกษา เพื่อให้เป็น นิทานเยาวชน นิทานเด็ก นิทานสอนใจ นิทานคุณธรรมเพื่อจรรโลงจิตใจ ผู้ศึกษาให้รักในคุณงามความดี นิทา,นิทานชาดก,นิทานชาดกพร้อมรูปภาพประกอบ,นิทาน, นิทานชาดก, นิทานไทย, นิทานธรรมะ, นิทานธรรมะไทย, นิทานเด็ก, คุณธรรม, การ์ตูนธรรมะ, การ์ตูนไทย, การ์ตูนภาพ, การ์ตูนช่อง, การ์ตูนนิทาน, การ์ตูนเด็ก, การ์ตูนสีขาว, นิทานธรรมะออนไลน์, นิทานธรรมะสอนคุณธรรม พระโพธิสัตว์,นิทานชาดกออนไลน์,นิทานชาดกเรื่องสั้น,นิทานชาดก หมายถึง,นิทานชาดกและคติสอนใจ,นิทานสองภาษา,นิทานสำหรับเด็ก,นิทานก่อนนอน
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -
 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล