พิธีตักบาตรพระ 1,384 รูป ทำบุญเมืองฝางครบ 1,383 ปี
คณะสงฆ์อำเภอฝาง หน่วยงานราชการ พ่อค้าประชาชนอำเภอฝาง คณะกัลยาณมิตรฝาง แม่อาย ไชยปราการ และธุดงคสถานลุ่มน้ำฝาง ได้ร่วมจัดงานบุญตักบาตรพระ1,384 รูป ทำบุญเมืองฝางครบรอบ 1,383 ปี ประจำปีพุทธศักราช 2567 ซึ่งอาหารแห้งส่วนหนึ่งที่ได้จากการตักบาตรจะนำไปช่วยเหลือพุทธบุตร 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้
พิธีตักบาตรพระ1,384 รูป ทำบุญเมืองฝางครบ 1,383 ปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ถนนหน้าที่ว่าการอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยภายในงานได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระราชกิตติสุนทร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเฉลิมพระเกียรติ เป็นประธานสงฆ์ ,ว่าที่ร้อยตรีนพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอฝาง ประธานในพิธี ได้เปิดกรวยสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งจุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย และถวายพานธูปเทียนแพ และพานดอกไม้ แด่ท่านประธานสงฆ์
นอกจากนี้กัลยาณมิตรฐิติรัตน์ ณัฎฐปภาไชย เป็นผู้แทนพุทธศาสนิกชนน้อมถวายพานธูปเทียนแพ พานดอกไม้ แด่ท่านประธานสงฆ์ พร้อมทั้งได้นำกล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เพื่อแสดงถึงความเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง ในส่วนของคณะสงฆ์ก็ได้เจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้นได้ทำพิธีเปิดงานทำบุญตักบาตรพระ โดยมีนายฐานิศร์ กมลรัตนา นายกเทศมนตรีตำบลเวียงฝาง เป็นผู้แทนคณะกรรมการจัดงานกล่าวให้การต้อนรับพุทธศาสนิกชน, นายพิบูลย์ สิงหสันติ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอฝาง กล่าวรายงาน ก่อนที่ว่าที่ร้อยตรีนพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอฝาง จะได้กล่าวเปิดงาน และได้ทำพิธีมอบป้ายข้าวสารอาหารแห้งช่วยเหลือคณะสงฆ์ 323 วัด ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีกัลยาณมิตรจินดา สุรนันทะวงศ์ เป็นผู้แทนคณะสงฆ์ 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ยังได้มอบให้นายกกิ่งกาชาดอำเภอฝาง เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ในอำเภอฝาง
ทั้งนี้ก่อนที่เจ้าภาพจะได้นำกล่าวคำถวายต่างๆ คณะสงฆ์พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันปฏิบัติธรรม ด้วยการน้อมนำใจมาหยุดนิ่ง กลั่นกายและใจให้บริสุทธิ์ เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะแก้วใส ในการรองรับมหากุศลครั้งใหญ่ ที่กำลังจะบังเกิดขึ้นในพิธีตักบาตรพระ ตามเสียงเทปนำนั่งของหลวงพ่อธัมมชโย จากนั้นเป็นพิธีกล่าวคำอัญเชิญเทวดา,พิธีกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน,พิธีกล่าวคำถวายจตุปัจจัยไทยธรรม,พิธีกล่าวคำถวายกองทุนการศึกษาพระบาลี, พิธีกล่าวคำถวายกองทุนพระภิกษุอาพาธ, พิธีกล่าวคำถวายคิลานเภสัช, พิธีกล่าวคำถวายค่ายานพาหนะ,พิธีกล่าวคำถวายระเบียบดอกไม้,พิธีกล่าวคำถวายผ้าไตร และพิธีกล่าวคำอธิษฐานจิต เพื่อตั้งเป็นผังสำเร็จ จากนั้นได้มีการถวายปัจจัยสนับสนุนการศึกษาพระบาลีแด่โรงเรียนพระปริยัติธรรมใน 3 อำเภอ ประกอบด้วยอำเภอฝาง,อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ จำนวน 5 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดท่าตอน, วัดเจดีย์งาม, วัดป่าไม้แดง, วัดศรีบุญเรือง และโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดพระบาทอุดม นอกจากนี้ยังได้ถวายจตุปัจจัยสมทบทุนพระภิกษุสงฆ์อาพาธอำเภอฝาง โดยมีพระครูสุจิตตานุรักษ์ (ดร.) เจ้าคณะอำเภอฝาง เป็นผู้แทนรับถวาย และในส่วนของหัวหน้าส่วนราชการ ก็ได้น้อมถวายผ้าไตรจีวรแด่คณะสงฆ์ ส่วนท่านเจ้าภาพผู้มีบุญ ก็ได้น้อมไทยธรรมถวายแด่คณะสงฆ์ นับเป็นภาพแห่งความปลื้มปีติสุขเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับการจัดตักบาตรในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งในโครงการตักบาตรพระ 2 ล้านรูป 77 จังหวัด ทุกวัดทั่วไทย ในการส่งกำลังใจช่วยเหลือคณะสงฆ์ 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการสร้างบุญใหญ่ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอฝางและใกล้เคียง นำความปลื้มปีติมาสู่ใจของทุกๆท่าน เพราะสิ่งดีงามที่เกิดขึ้นในวันนั้น จะเป็นแบบอย่างในการทำความดีให้กับเด็กและเยาวชนคนรุ่นหลังได้ยึดถือเป็นแนวทางสร้างความดีทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ภาพมหากุศลที่เกิดขึ้นจะทำให้อนุชนคนรุ่นหลังรู้สึกภาคภูมิใจและนึกหวงแหนพระพุทธศาสนาไว้ตราบนานเท่านาน ดังนั้นเราชาวพุทธทุกคนต้องมาร่วมกันสร้างค่านิยมที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นในทุกชุมชน ทุกสังคม ดังเช่นการตักบาตรมหากุศลในที่อำเภอฝางครั้งนี้ ที่ได้สร้างกระแสตื่นตัวในการสร้างความดี จะเห็นได้ว่าประชาชนในแต่ละหมู่บ้านในเมืองฝางต่างรวมกลุ่มชักชวนกันมาสร้างบุญกันอย่างคึกคัก บางท่านก็มากันเป็นครอบครัว อุ้มลูกจูงหลานมาสร้างทานบารมีกันอย่างมีความสุข
ทั้งนี้การทำบุญตักบาตรต่อพระภิกษุสงฆ์ สามเณร สาวกแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นอริยประเพณีที่สืบต่อกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน เป็นการให้กำลังแก่พระภิกษุ สามเณร ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ เป็นแบบแผนอันดีของบรรพบุรุษไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งยังเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ฟื้นฟูวัฒนธรรมชาวพุทธให้เข้มแข็งและเป็นการรวมพุทธบริษัท 4 ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ยอยกพระพุทธศาสนาให้สูงเด่นในจิตใจของประชาชนทุกหมู่เหล่า นับเป็นประวัติศาสตร์แห่งการร่วมทำความดี สร้างมหากุศลใหญ่ ที่ควรถูกบันทึกไว้ในพระพุทธศาสนาและเมืองฝางอีกครั้งหนึ่ง