"ตอนที่มาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ตอนนั้น บวชได้ประมาณ ๑ พรรษา ก็มาสร้างมาพัฒนา วัดนี้เลยมีการขู่ฆ่า ทำร้ายต่างๆ นานาจากผู้มีอิทธิพลศาสนิกอื่น เขาต้องการขับไล่ให้ออกไปจากพื้นที่ พระรูปใดมาอยู่ที่นี่ ก็มักอยู่ไม่ได้นาน วัดจึงร้างไป เวลาฉันภัตตาหารก็ต้องระมัดระวังมาก เพราะช่วงนั้นมีการวางยาบ่อยมาก อาตมาต้องอดทนมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาตมาก็ได้แสดงออกถึง ความตั้งใจจริงในการมาบวช ทำงานพระศาสนา ศาสนิกอื่นๆ ก็เริ่มยอมรับและอยู่ร่วมกันได้ ตอนนี้เมื่อเขามีอะไร ไม่สบายใจ สบายกาย ก็มาพึ่งพา อย่างถูกงูกัดเขาก็มาให้อาตมาช่วยเหลือ ดึกดื่นเที่ยงคืน เขาก็มาให้ช่วย ให้เขารอดปลอดภัย เราช่วยเอาบุญไม่หวังเอาคุณ บางคนมาบอกอาตมาว่า ตัวเขาโดนคนที่ไม่เข้าใจ ห้ามไม่ให้มาคบกับพระ เขาก็ตอบไปว่า หลวงพ่อท่านไม่ดี ตรงไหน ท่านช่วยสร้างโน่นสร้างนี่ให้พวกเรา ท่านทำดีทุกอย่าง ดึกๆ ดื่นๆ ท่านก็ยังทำงานคุมงานก่อสร้าง และศาสนาพุทธสอนให้รู้แจ้ง เห็นจริง เขาว่าอย่างนั้น เขาดูเหมือนสับสน ว่าเขาควรทำอย่างไรดี "
อาจารย์ประชุม เสน่หา ผู้อำนวยการโรงเรียนคลอง ๒๔ ได้กล่าวถึงหลวงพ่อว่า "ท่านมีแต่การให้ ให้ทุกศาสนา ที่มาหาท่าน ท่านช่วยทั้งนั้น โรงเรียนท่านก็ช่วยสร้างให้ ช่วยอบรม ศีลธรรมให้นักเรียน อาหารกลางวันท่าน ก็ให้การสนับสนุนมาตลอด ท่านมีเมตตามากๆ"พร้อมๆ ไปกับการพัฒนาวัด พัฒนาพื้นที่ หลวงพ่อท่านให้ความสำคัญ กับการพัฒนาบุคคล นอกเหนือจากการจัดตั้งโรงเรียน และให้การอบรมนักเรียนแล้ว ท่านยังจัดอบรม ส่งเสริมการศึกษาพระธรรมแก่พระภิกษุ สามเณร จนกระทั่งวัดแห่งนี้มี ผลการสอบที่ดีมาก ของอำเภอองครักษ์ ในจังหวัดนครนายก
หลวงพ่อท่านเป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่ง ที่ติดตาม ชมจานดาวธรรม ช่อง DMC มาตลอด
ท่านได้ปรารภเรื่องนี้ว่า "น่าภูมิใจที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย วัดพระธรรมกาย ท่านได้สร้างวัด และสร้างสื่อ ที่ดีนี้อยู่ในเมืองไทย อยู่ในบ้านในเมืองของเราให้ผู้คนได้พบเห็นแสงสว่าง ได้ปฏิบัติธรรม คนไม่ดี คนติดยาเสพติดต่างๆ ก็เลิกได้ เกิดคนดีขึ้นมากมายเป็นล้านๆ คน ท่านทำไว้เพื่อประเทศชาติ และศาสนา นับว่าได้ช่วยแบ่งเบา ภาระของรัฐบาลไม่ใช่น้อยเลย เวลาอาตมาไปวัดพระธรรมกาย ก็จะเอาพระไปทั้งหมด มีเท่าไรก็ชวนกันไป ส่วนญาติโยมก็นั่งรถบัสไปด้วย เพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษาสิ่งดีๆ เหล่านี้ ก็ขออนุโมทนากับ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อธัมมชโยด้วย ขอให้ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นที่พึ่งพา เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรทางจิตใจ ของปวงชนทั้งหลายสืบต่อไป"
แม้จะได้รับมอบหมาย ให้มาอยู่ในพื้นที่ ที่แสนทุรกันดาร รอบล้อมด้วย พี่น้องผองไทย
ที่มีความเชื่อ ที่หลากหลาย ต้องพานพบอุปสรรคนานัปการ แต่ด้วยความหยัดสู้ ทุ่มเทชีวิตจิตใจของ พระแท้รูปนี้ จึงสามารถพลิกฟื้นวัดที่เคย ร้างให้กลับมารุ่งเรือง เป็นแหล่งเนื้อนาบุญ ของพุทธบริษัท ๔ ได้อีกครั้ง ขอกราบอนุโมทนาบุญกับ พระครูพิศิษฏ์กิจจาธร ที่ท่านได้หยัดสู้ ทำหน้าที่พุทธบุตร อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เป็นขวัญกำลังใจ ของพุทธบริษัท ๔
ภาพของพุทธบุตรที่หยัดสู้ ยอยกพระพุทธศาสนาให้สูงเด่น พร้อมอุทิศตนโดย เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ภาพที่งดงามเช่นนี้ จะเกิดเป็นแรงบันดาลใจอันสำคัญที่ทำให้พุทธบริษัท ๔ ที่ได้พบเห็นมาช่วยกัน ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง ไม่ให้มีวัดร้างหลงเหลืออยู่เลยในยุคนี้ และยุคต่อๆ ไป สมดังคำของ พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หลวงพ่อธัมมชโย ที่ท่านได้กล่าวไว้ว่า "พุทธบริษัท ๔ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว"