กฐินธรรมชัย ๒๕๕๖
ร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี สืบทอดพุทธประเพณีที่ยาวนานกว่าสองพันปี
ประเพณีทอดกฐินถือกำเนิดมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นความสำคัญในการผลัดเปลี่ยนจีวรเก่าของพระสงฆ์ จึงทรงมีพุทธานุญาตให้พระสงฆ์รับผ้ากฐินเพื่อผลัดเปลี่ยนจีวรเก่าได้ และเกิดเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาสองพันกว่าปีจนกระทั่งปัจจุบัน
กฐินทานเป็นทานที่มีความพิเศษหลายประการ คือ
๑. ต้องถวายผ้ากฐินภายในกำหนด ๑ เดือน นับแต่วันออกพรรษาเป็นต้นไป
๒. ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น ไม่เฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
๓. พระภิกษุผู้รับผ้ากฐินต้องจำพรรษาที่วัดนั้นโดยไม่ขาดพรรษา และต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า ๕ รูป
๔. แต่ละวัดรับกฐินได้เพียงปีละ ๑ ครั้งเท่านั้น
๕. ผ้าที่ถวายต้องถูกต้องตามลักษณะที่สงฆ์กำหนดไว้
๖. เมื่อพระภิกษุรับผ้ากฐินแล้ว ต้องกรานกฐินให้เสร็จภายในวันนั้น
๗. ในการทอดกฐินนั้น ผู้รับและผู้ให้
ต่างได้อานิสงส์ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย คือ ผู้รับ (ฝ่ายสงฆ์) ได้รับอานิสงส์ตามพระวินัย ทำให้ได้รับความสะดวกในการบำเพ็ญสมณกิจในช่วงเวลาที่ออกพรรษาแล้ว ผู้ให้ (ฝ่ายฆราวาส) เมื่อทอดกฐินแล้วย่อมได้รับผลบุญอันยิ่งใหญ่จากการสงเคราะห์พระภิกษุผู้จำพรรษาให้ได้ผ้านุ่งผ้าห่มใหม่ และได้บุญจากการทะนุบำรุงพระศาสนาด้วย
ที่สำคัญการทอดกฐินยังถือเป็นสังฆทาน ซึ่งการถวายสังฆทานด้วยจิตที่บริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยศรัทธานั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวว่ามีผลมาก แม้แต่พระองค์เองก็ยังไม่ทรงเห็นที่สุดของอานิสงส์จากการถวายสังฆทาน
จึงขอเรียนเชิญท่านสาธุชนทั้งหลายไปร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้โดยทั่วหน้ากัน เพื่อสั่งสมบุญกุศล
กำหนดการพิธีทอดกฐินสามัคคี
วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖
พิธีภาคเช้า
๐๖.๓๐ น. พิธีตักบาตร
๐๙.๓๐ น. ปฏิบัติธรรม / บูชาข้าวพระ
๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหาร
พิธีภาคบ่าย
๑๓.๓๐ น. พิธีทอดกฐินสามัคคี / ปฏิบัติธรรม
๑๕.๓๐ น. เสร็จพิธีทอดกฐิน
๑๘.๐๐ น. คณะสงฆ์ทำพิธีกรานกฐิน