ประธานสมัชชามหาคณิสสร รับถวายปัจจัยสนับสนุนการสอบพระอุปัชฌาย์จากเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
ประธานสมัชชามหาคณิสสร รับถวายปัจจัยสนับสนุนการสอบพระอุปัชฌาย์จากเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานสมัชชามหาคณิสสร กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เมตตารับถวายปัจจัยจำนวน 100,000 บาทเพื่อสนับสนุนโครงการฝึกอบรมหรือสอบความรู้พระสังฆาธิการทั่วประเทศ เพื่อแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ รุ่นที่ 58 ครั้งที่ 1 ประจำปีพุทธศักราช 2568 จากพระครูปลัดรัตนวีรวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ณ ศาลาอบรมสงฆ์ วัดสามพระยาวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ในการนี้มีพระสังฆาธิการจากวัดพระธรรรมกายในทวีปอเมริกา ยุโรป และเอเชีย เข้าอบรมสอบความรู้เพื่อรับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์จำนวน 10 รูป
ต่อมาพระครูปลัดรัตนวีรวัฒน์ได้เข้าถวายปัจจัยจำนวน 30,000 บาทแด่พระเดชพระคุณพระพรหมดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร เพื่อกิจการคณะสงฆ์และบำรุงพระอาราม จากนั้นได้นำคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเปิดโรงทานถวายก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเพื่อเป็นกำลังเรี่ยวแรงแด่พระสังฆาธิการผู้เข้าอบรมอีกด้วย
ในการนี้เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เมตตาประทานโอวาทความตอนหนึ่งว่าพระอุปัชฌาย์มีความสำคัญยิ่งทางพระธรรมวินัย เพราะนอกจากเป็นประธานรับผิดชอบในการบรรพชาอุปสมบท กลั่นกรองผู้จะเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้ว จะต้องมีหน้าที่ปกครอง ดูแล สัทธิวิหาริกของตน ให้เป็นพระ เณร ที่ประพฤติปฏิบัติดี ตามพระธรรมวินัย เหมือนบิดาที่ต้องดูแล อบรม สั่งสอนบุตร ในจริยาพระอุปัชฌาย์ระบุว่าต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และรู้อย่างชำนาญ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจด้วย จะรู้เพียงหน้าที่พระอุปัชฌาย์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้ถึงทุกหน้าที่ในการประกอบพิธีการบรรพชาอุปสมบทด้วย หน้าที่ของพระอุปัชฌาย์มีรายละเอียดที่ระบุไว้ชัดเจนแล้ว สิ่งที่พระอุปัชฌาย์พึงปฏิบัติเป็นเครื่องทำให้พระอุปัชฌาย์กับสัทธิวิหาริกให้ความเคารพกัน ผูกพันกันแม้จากกันไปนานแล้ว นั่นก็คือสัทธิวิหาริกวัตร
