ราธชาดก ว่าด้วย พูดเพ้อเจ้อเพราะความเขลา
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภการเล้าโลมของภรรยาเก่า(ของภิกษุรูปหนึ่ง) จึ่งตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดนกแขกเต้า พราหมณ์ผู้หนึ่งในแคว้นกาสี เลี้ยงพระโพธิสัตว์และน้องชายไว้ในฐานะเป็นลูก ในนกทั้งสองนั้น พระโพธิสัตว์ได้นามว่า โปฏฐปาทะ น้องชายได้นามว่า ราธะ แต่ภรรยาของพราหมณ์เป็นหญิงไม่มีมรรยาท ทุศีล เมื่อพราหมณ์จะออกเดินทางไปค้าขาย ก็สั่งเสียนกทั้งสองพี่น้องไว้ว่า ดูก่อนพ่อทั้งสอง ถ้าพราหมณี แม่ของเจ้าจะประพฤติไม่ดีไม่งาม ละก้อ เจ้าคอยห้ามเขานะ. นกพระโพธิสัตว์กล่าว ครับคุณพ่อ ถ้าสามารถห้ามได้ ผมก็จักห้าม ถ้าห้ามไม่ได้ ก็ต้องนิ่ง. พราหมณ์มอบนางพราหมณีแก่นกแขกเต้าทั้งสองอย่างนี้แล้ว ก็เดินทางไปค้าขาย.
ตั้งแต่วันที่พราหมณ์จากไป พราหมณีก็เริ่มประพฤตินอกใจ ทั้งคนที่เข้าไปและคนที่ออกมา หาประมาณมิได้ นกราธะเห็นกิริยาของนาง ก็กล่าวกะพระโพธิสัตว์ว่า พี่ครับ คุณพ่อของเราสั่งไว้ก่อนไปว่า ถ้าแม่ของเจ้าทั้งสอง ประพฤติไม่ดีไม่งามละก็ เจ้าคอยห้ามนะ ดังนี้แล้วจึงไป บัดนี้เล่า นางกำลังจะประพฤติไม่ดีไม่งาม เราช่วยกันห้ามนางเถิด. พระโพธิสัตว์กล่าวเตือนว่า "น้องรัก เจ้าพูดด้วยความโง่ เพราะความไม่ฉลาดเฉลียวของตนแท้ๆ ขึ้นชื่อว่า มาตุคาม แม้บุคคลจะคอยอุ้มไว้พาไป ก็ยังไม่อาจรักษาไว้ได้เลย ไม่สมควรที่เราจะทำสิ่งที่ไม่สามารถจะกระทำได้ ในเมื่อแม่โกสิยานี หมดความรักในบิดาของเราเสียแล้ว"
ครั้นพระโพธิสัตว์ประกาศอย่างนี้แล้ว ไม่ยอมให้นกราธะน้องชายพูดกะนางพราหมณี นางก็ประพฤติชั่วได้ตามใจชอบ ตราบเท่าเวลาที่พราหมณ์ยังไม่กลับมา พราหมณ์มาแล้ว ถามนกโปฏฐปาทะว่า พ่อคุณ แม่ของเจ้าทั้งสองเป็นอย่างไร? พระโพธิสัตว์บอกเรื่องตามเป็นจริงทั้งหมดแก่พราหมณ์ แล้วกล่าวว่า คุณพ่อครับ หญิงประพฤติชั่วอย่างนี้ คุณพ่อเลี้ยงไว้ทำไม แล้วกล่าวต่อไปว่า คุณพ่อครับ นับแต่เวลาที่กระผมทั้งสองกล่าวโทษของคุณแม่แล้ว ก็ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้ กราบเท้าพราหมณ์แล้ว ก็บินเข้าป่าไป.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสประกาศสัจจะ เมื่อจบสัจจะ ภิกษุผู้กระสัน ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล แล้วทรงประชุมชาดกว่า
พราหมณ์และพราหมณีในครั้งนั้น ได้มาเป็นคนทั้งคู่นี้แหละ
นกราธะได้มาเป็น อานนท์
ส่วนนกโปฏฐปาทะได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.