หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๑) ฝึกให้สังเกต
ก่อนที่จะเข้ามาอยู่กรุงเทพ อาตมาเป็นเด็กบ้านนอกที่ทำอะไรแทบจะไม่เป็น อย่าว่าแต่ทำเลย แม้คิดก็ไม่ต้องคิด เนื่องจากเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว จึงถูกเลี้ยงดูแบบเอาอกเอาใจ มีอะไรพวกพี่ ๆ ที่เป็นลูกสาวของน้า ก็ช่วยทำให้ ดูเหมือนว่าจะสบาย แต่เอาเข้าจริง ๆ นั่นคือ จุดอันตรายของชีวิต
ยังจำได้ดีและประทับใจไม่หาย เมื่อครั้งที่มาอบรมธรรมทายาทภาคฤดูฝน ต้องสร้างกฏิจากเพื่อให้ทันเข้าพรรษา ธรรมทายาท ๒ คน ต้องช่วยกันขุดหลุม ๒ หลุม เพื่อวางเสา นั่นคือการจับจอบครั้งแรกในชีวิต อาตมาจับด้ามจอบตรงกลางซะแน่น เงื้อสุดหล้า สับลง ไปที่ดินสุดแรงเกิด ผลคือ มือแตก เลือดสาด เพื่อนธรรมทายาทที่แสนดีที่อาตมาซึ้งในคุณของท่านคือ ท่านกิตติศักดิ์ รีบเข้ามาดู ไล่ให้ไปนั่ง แล้วท่านก็ทำเองคนเดียวทั้งสองหลุม อาตมาประทับใจความมีน้ำใจของท่านจนถึงทุกวันนี้
จากวันนั้นชีวิตก็ถูกหล่อหลอมจากพระพี่เลี้ยง พระอาจารย์และหัวหน้างานรวมทั้ง พระรุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่คอยเกื้อกูล ประคับประคองมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีส่วนสำคัญ ที่ทำให้จากคนที่ไม่มีศรัทธา กลายมาเป็นคนมีศรัทธา จากคนที่ทำอะไรไม่เป็น ต้องมาฝึกทำทุกอย่าง คือ หลวงพ่อทั้งสอง
เมื่อครั้งที่ได้ติดตามหลวงพ่อธัมมชโยและหมู่คณะไปปฏิบัติธรรม นอกจากจะคอยแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมและเล่าปกิณกธรรมแล้ว หลวงพ่อยังมาดูแลเรื่องความเป็นอยู่ คอยสอนให้จัดผ้า เก็บผ้า พับผ้าให้เรียบร้อย และให้พระทุกรูปจัดของทุกอย่างให้เหมือนกัน ประเภทที่ว่า เมื่อมองมาที่ตู้เก็บของซึ่งเป็นกระจกใส จะเห็นว่าเหมือนกันหมดทุกตู้
วิธีการสอนของหลวงพ่อเป็นวิธีที่แยบคาย ฝึกให้เราคิด หลายครั้งที่เราต้องคอยฟังให้ดีว่าหลวงพ่อท่านหมายถึงอะไร แล้วก็มานั่งตีความกัน เช่น มีอยู่วันหนึ่ง ก่อนนั่งธรรมะ หลวงพ่อท่านก็เล่าเรื่องของคุณยายอาจารย์ว่า “คุณยายท่านนั่งธรรมะดีเพราะคุณยายเป็นคน ละเอียด ท่านจะทำความสะอาดบันได เช็ดทั้งข้างบน ข้างล่าง”
พวกเราฟังแล้วก็ปลื้มในคุณธรรมของคุณยาย นึกว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าการเล่าปกิณกธรรม พอรอบบ่าย ท่านก็เล่าธรรมะอีก แล้วก็ย้ำว่า “ผู้ที่จะปฏิบัติธรรมได้ดี ต้องมีความสะอาด ทั้งนอกใน ซ้าย ขวา หน้าหลัง ล่าง บน ”
พวกเราเริ่มเอะใจว่า หลวงพ่อย้ำคำว่า ล่าง เสียงชัดกว่าคำอื่น และมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับความสะอาดถึงสองครั้ง พอเลิกนั่งธรรมะช่วงบ่าย จึงต้องรีบประชุมกันว่าหลวงพ่อหมายถึงอะไรแน่
เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่พลาด จึงได้ช่วยกันเดินดูรอบ ๆ บริเวณที่พักว่ามีตรงไหนที่ยังไม่เรียบร้อยบ้าง ดูแล้วทั้งในห้องพัก รอบ ๆ บริเวณก็สะอาดดีแล้ว หลวงพี่องค์หนึ่งท่านเลยก้มดูที่พื้นอาคารที่ยกสูงระดับเอว ก็พบว่า มีหยากไย่อยู่เพียบเลย เอาหล่ะ ทีนี้มั่นใจว่า ใช่แน่นอน จึงรีบช่วยกันจัดการจนเรียบร้อย
พอถึงรอบค่ำก็มานั่งลุ้นกันว่า หลวงพ่อจะว่าไงบ้าง หลังจากที่หลวงพ่อนั่งลงที่ตั่งกลางห้อง ท่านก็กวาดสายตามองพระทุกรูป แล้วยิ้ม ๆ แววตาที่มองมา เปี่ยมด้วยความเมตตา สัมผัสถึงความปลื้มใจที่ลูก ๆ เข้าใจในสิ่งที่ท่านต้องการจะบอก ท่านพูดเพียงสั้น ๆ แต่คำนั้นประทับเข้าไปในใจของพระลูกชายไม่รู้ลืม
“ ตามทันกันเนาะ ”
นั่นคือวิชาครูที่หลวงพ่อถ่ายทอดให้และอาตมาได้นำมาใช้ในการดูแลสามเณรและดูแลหมู่คณะจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๖ ก.ค. ๕๙
http://anacaricamuni.blogspot.ae/