ทําจันทรคราส (จันทรุปราคา)
นอกจากหลวงปู่ท่านจะพาทีมงานทําวิชชาดับดาวแล้ว ท่านก็ยังเอาเดือนมาให้ลูก ๆ ทีมงานของท่านได้เล่นอีกด้วย คือ คืนหนึ่ง..วันที่พระจันทร์เต็มดวง หลวงปู่ท่านก็ถามในโรงงานว่า “ใครทําจันทรคราสได้บ้างวะ.??”
และทันใดนั้นเอง..คุณยายทองสุขตอบว่า “ลูกเองเจ้าค่ะ” คือ คุณยายทองสุขตอบไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องใช้วิธีการใดในการทําจันทรคราส แต่เนื่องจากหลวงปู่ท่านไม่ชอบให้ใครพูดว่า “ไม่ได้ ” อีกทงคั้ณยายทองสุข ก็ เป็นคนมีนิสัยชอบอะไรที่ท้าทาย เมื่อคุณยายทองสุขรับปากหลวงปู่แล้ว ท่านก็ลองปาฏิหาริย์พระธรรมกายให้ขยายใหญ่ เพื่อมาบดบังดวงจันทร์ให้สนิท ซึ่งพอปาฏิหาริย์เสร็จ ท่านก็เดินออกไปดู แต่ปรากฏว่า พระจันทร์ก็ยังสว่างเต็มดวงเหมือนเดิม จากนั้นคุณยายทองสุข ก็กลับมาลองวิธีการใหม่ คือ ปาฏิหาริย์เอามือพระธรรมกายไปบังอีก แต่พอออกไปดูพระจันทร์ก็ยังสว่างเหมือนเดิมอีก แต่คุณยายทองสุขก็ไม่ยอมแพ้ท่านจงใช้วิชชาธรรมกาย รวมเมฆมาบังพระจันทร์แทน และพอออกไปดูใหม่ ก็ปรากฏว่า เมฆสามารถบังพระจันทร์ได้จริง แต่ก็แค่แป๊บเดียว และพอเมฆเคลื่อนตัวออกมา ดวงจันทร์ก็กลับมาสว่างเต็มดวงเหมือนเดิม ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ หลวงปู่ก็แนะนำว่า “ไอ้สุข..ไอ้ที่เอ็งทํามาทั้งหมด มันทําแค่เปลือก แต่แก่นเอ็งยังไม่ได้ทํา ไหน..เอ็งลองไปดูซิว่า แสงจันทร์มันมาจากไหน เหมือนไฟฟ้านั่นแหละ เองต้องไปดับที่หม้อแปลง หรือแหล่งผลิตไฟฟ้าโน้น.!!!”
เมื่อคุณยายทองสุขได้วิธีการจากหลวงปู่เช่นนี้ท่านก็สามารถดับเดือน หรือทําจันทรคราสได้สําเร็จเป็นอัศจรรย์...
พอหลวงปู่เดินออกมาแหงนดูท้องฟ้า ก็แกล้งทำเป็นรำพึงว่า “เอ..วันนี้ พระจันทร์ก็ไม่เห็น.. เอ๊ะ.!!! ทําไมจึงเป็นอย่างนี้...” พอคุณยายทองสุขได้ยินหลวงปู่รําพึงอย่างนี้ ก็รีบตอบหลวงปู่อย่างภาคภูมิใจทันทีเลยว่า “ลูกเองเจ้าค่ะ..ลูกทําเองเจ้าค่ะ...”
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดก็คืออานุภาพของวิชชาธรรมกาย ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านสอนให้ลูกศิษย์ท่านทําได้นั่นเอง...
จากหนังสือ อานุภาพหลวงปู่..ยุคต้นวิชชา