หลวงปู่หยั่งรู้..อนาคต

วันที่ 09 กค. พ.ศ.2561

หลวงปู่หยั่งรู้..อนาคต
 

dhammakaya , Dhammakaya Temple , Meditation , ธรรมกาย , วัดพระธรรมกาย , พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) , พระผู้ปราบมาร , หลวงพ่อวัดปากน้ำ , วัดปากน้ำภาษีเจริญ , หลวงปู่สด , หลวงพ่อสด , ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย , วิชชาธรรมกาย , ธรรมกาย , ตามรอยพระมงคลเทพมุนี , วิสุทธิวาจา , ประวัติหลวงพ่อสด , ประวัติพระมงคลเทพมุนี , รวมพระธรรมเทศนา หลวงพ่อวัดปากน้ำ , สมาธิ , วิปัสสนา , สัมมาอะระหัง , หลวงพ่อวัดปากน้ำ , อานุภาพหลวงปู่..ยุคต้นวิชชา , อานุภาพพระผู้ปราบมาร , หลวงปู่หยั่งรู้..อนาคต


    หลวงปู่..ท่านเป็นผู้มีญาณทัสสนะแม่นยำโดยไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งท่านยังรู้อดีต ปัจจุบัน อนาคต ซึ่งไม่ว่าเรื่องนั้น..จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวท่านเอง ลูกศิษย์ลูกหา หรือเกี่ยวกับประเทศ โลก คือ ตลอดทั้งนิพพาน ภพ 3 โลกันต์ ถ้าท่านอยากรู้อะไร ท่านก็สามารถรู้ได้หมด

     ซึ่งเรื่องทำนองนี้.. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปุ่นปุณฺณสิริมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ สมเด็จป๋า ท่านได้นิพนธ์เกี่ยวกับเรื่องอนาคตังสญาณของหลวงปู่ที่ท่านได้เจอ และประจักษ์กับตัวเองบ่อยครั้งไว้ว่า ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในครั้งที่ท่านได้มานั่งฉันเพลกับหลวงปู่ที่วัดปากน้ำ ในขณะนั่งฉันอยู่นั้น.. จู่ ๆ ก็มีพ่อค้าตลาดสำเพ็งคนหนึ่งพรวดพราดเข้าไปถามหลวงปู่ ในลักษณะเหมือนอยากจะทดลองญาณทัสสนะของหลวงปู่ว่า ท่านจะรู้เหตุการณ์ในอนาคตไหมว่า วันนี้จะมีคนมาเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิหรือเปล่า ซึ่งพอคิดอย่างนั้น...ก็ไม่รอช้า รีบกราบเรียนถามหลวงปู่ท่ามกลางทานบดีจำนวนมากที่ไปร่วมถวายเพลในนั้นว่า “หลวงพ่อครับ วันนี้จะมีผู้บริจาคสร้างกุฏิ สำหรับพระกรรมฐานบ้างไหม? และถ้ามี..มีกี่หลังครับ?” จากนั้นหลวงปู่ก็หลับตา 5 นาที แล้วตอบโพละขึ้นทันทีว่า “มี... 2-3 หลัง” แถมยังย้ำอีกว่า “ต้องได้แน่.!!!” ซึ่งหลังจากที่หลวงปู่ตอบโพละท่ามกลางผู้คนมากมายขนาดนั้นไปนี้เอง เลยทำให้สมเด็จป๋าเป็นกังวลและหนักใจแทนหลวงปู่ เพราะถ้าหลวงปู่พยากรณ์ผิด คือ ไม่มีคนมาเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิจริง ๆ ท่านก็กลัวว่าหลวงปู่จะหน้าแตก

    ด้วยเหตุนี้ ก็เลยทำให้สมเด็จป๋าเกิดอาการใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ฉันอาหารไปอย่างไม่รู้รสชาติ เพราะมัวแต่ลุ้น และคอยดูว่า จะมีคนเข้ามาปวารณาถวายสร้างกุฏิหรือยัง แถมท่านยังรู้สึกไม่พอใจพ่อค้าสำเพ็งคนนั้น ที่พรวดพราดเข้ามาถามหลวงปู่ต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายขนาดนี้...ซึ่งขณะที่ทุกคนในเหตุการณ์กำลังลุ้นระทึกด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตื่นเต้นบ้าง เป็นกังวลหรือรอคอยบ้าง แต่หลวงปู่ท่านกลับนิ่ง ๆ มีสีหน้าและแววตายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติทั้ง ๆ ที่เวลาก็ล่วงเลยไปจนคณะพระภิกษุสงฆ์ฉันภัตตาหารหวานกันเสร็จหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าภาพสร้างกุฏิคนไหนจะมาเลย

     แต่ทันใดนั้นเอง..!!! พอถึงเวลาอนุโมทนา จู่ ๆ ก็มีคณะอุบาสก-อุบาสิกาคณะหนึ่ง รี่เข้ามากราบเรียนหลวงปู่ว่า จะขอเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิสัก 2-3 หลังจริง ๆ และเมื่อพ่อค้าสำเพ็งคนที่ถามหลวงปู่เห็นดังนั้น จึงรีบกระโจนเข้าไปกราบที่ตักของหลวงปู่ทันที เพราะตะลึงในความแม่นยำของท่านพร้อมกับพูดว่า  “ยิ่งกว่าตาเห็น ๆ .!!!” ซึ่งขณะที่ทุกคนกำลังทึ่ง และรู้สึกประหลาดใจในความศักดิ์สิทธิ์แม่นยำของหลวงปู่อยู่นั่นเอง... สมเด็จป๋า..ก็ได้เข้าไปถามเจ้าภาพว่า “ได้นัดหรือเตี๊ยมกับหลวงปู่ไว้ล่วงหน้าหรือเปล่าว่าจะมาสร้างกุฏิถวาย” ซึ่งอุบาสก-อุบาสิกากลุ่มนั้น ก็ได้ตอบคอนเพิร์มกลับมาว่า “เพิ่งจะคิดเมื่อกี้เอง.!!” เพราะเดิน ๆ มา... บังเอิญเห็นกฏิเล็ก ๆ รู้สึกว่าสวยดี ก็เลยอะเลิร์ตอยากสร้างถวายบ้าง แต่เนื่องจากทุนไม่พอ จึงเดินเข้ามาปรึกษากับพวกพ้องที่บังเอิญได้มาเจอกันในวันนี้ ก็เลยลงขันรวมปัจจัยกันถวายเพื่อสร้างกุฏิกับหลวงปู่

     แต่ด้วยความที่สมเด็จป๋ารักและปรารถนาดีเป็นห่วงหลวงปู่ ในช่วงที่ทุกคนกลับมาหมดแล้ว สมเด็จป๋าจึงได้พูดกับหลวงปู่ว่า ท่านรู้สึกยกย่องที่หลวงปู่พยากรณ์แม่นยิ่งกว่าตาเห็น แต่คราวหน้าคราวหลัง ไม่อยากให้หลวงปู่พยากรณ์ต่อหน้าสาธารณชนมากมายขนาดนั้น หรือหากอยากจะบอกพ่อค้าสำเพ็งคนนั้นจริง ๆ ก็ให้บอกกันสองต่อสอง เพราะเผื่อไม่จริงขึ้นมา จะได้ไม่หน้าแตก และชาวบ้านเขาจะได้ไม่เสื่อมศรัทธา แต่หลวงปู่ท่านก็ตอบกลับนิ่ง ๆ ว่า “เรามันเซอะ..พระพุทธศาสนาเก๊ได้หรือ ธรรมะของพระพุทธเจ้าต้องจริง ธรรมกายไม่เคยหลอกลวงใคร”

 

 


จากหนังสือ อานุภาพหลวงปู่..ยุคต้นวิชชา

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0027431170145671 Mins