ทฤษฎีน้ำครึ่งเเก้ว
จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ส่งผลอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่รายได้หดหาย จำเป็นจะต้องปรับตัวอย่างหนักโดยเฉพาะการลดต้นทุน แต่ทุกวิกฤตมักจะมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเสมอ นั่นคือ “โอกาส”
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลาง หรือธุรกิจขนาดเล็ก ถ้ามองโลกในแง่ดีจะพบว่า “ยังมีน้ำเหลืออีกตั้งครึ่งแก้ว”
แต่หากมองโลกในแง่ร้าย ก็จะพบว่า “น้ำเหลือเพียงครึ่งแก้ว” เท่านั้น
แล้วพาลให้เราเสียใจกับน้ำที่หายไปว่า “ทำไมรายได้ลดลง...” “ทำไมกำไรน้อยลง...”
แต่คนที่มองโลกต่างมุมออกไปจะพบว่า แก้วที่ใช้อยู่อาจจะใหญ่เกินไป แค่เปลี่ยนแก้วให้เล็กลง น้ำก็เต็มแก้วแล้ว ซึ่ง
“การปรับขนาดแก้ว ก็เท่ากับปรับขนาดความพึงพอใจ”
พอมีสถานการณ์อะไรก็ตามเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่มองโลกในแง่ดี หรือคิดต่างมุม พวกเขามักจะมองเห็นโอกาสได้ง่ายกว่าคนที่มองโลกในแง่ลบ
เราควรฝึกคิดในชีวิตประจำวันว่า ต้องมองทุกอย่างให้เห็นเป็นโอกาส เช่น มองคนอื่นที่อาจจะมีข้อเสียมากมาย โดยหาความดีของเขาให้เจอ เป็นต้น
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ว่า
“จงกลัวเวลาที่คนอื่นกำลังโลภ จงโลภในเวลาที่คนอื่นกลัว”
ขณะนี้ในสถานการณ์โควิท 19 ที่คนอื่นกำลังหวาดกลัว เราก็ควรกล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ
ตอนนี้ต้องถือว่าเรามีโอกาสเพิ่มขึ้นในการที่จะติดต่อสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ทุกคนล้วนเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน หลายบริษัทยังให้คงเวิร์คฟอร์มโฮม (Work From Home)
ส่วนหนึ่ง เพื่อลดปริมาณคนในออฟฟิศไม่ให้แออัดจนเกินไป ทำให้เรามีโอกาสได้ใช้ความสามารถเฉพาะทางด้านดิจิทัลในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และง่ายดายขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่หน้าจอนานขึ้นกว่าเดิม
ในภาวะที่เราอาจจะไม่ได้มีงานล้นมือเหมือนเมื่อก่อน เราก็สามารถมุ่งเป้าแล้วตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มเพื่อให้เขาเกิดความประทับใจได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าที่ภักดีให้มากขึ้นได้
นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีโอกาสในวิกฤตต่างๆ อีกมากมาย เช่น ช่วงนี้หลายบริษัทมีโอกาสได้เริ่มทดลองทำงานแบบ Paperless office ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านงานเอกสารลงไปได้มาก เปลี่ยนกระดาษเป็นไฟล์งานดิจิทัล
ตั้งแต่เรื่องของการอนุมัติผ่านระบบ Digital Signature การส่งไฟล์เอกสารในรูปแบบดิจิทัลไปกลับยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำธุรกรรมต่างๆ โดยไม่มีเอกสารพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษเลยแม้แต่ฉบับเดียว ซึ่งไม่ใช่แค่ประหยัดทรัพยากรอย่างเดียว ยังประหยัดเนื้อที่จัดเก็บเอกสารอีกด้วย
ช่วงนี้จึงกลายเป็นจังหวะดีที่บริษัทต่างๆ จะได้พัฒนาระบบ ส่งเสริมให้การทำงานง่ายดายและประหยัดยิ่งขึ้น และยังจัดการความปลอดภัยของเอกสารได้ด้วยการเช่าพื้นที่การรักษาความปลอดภัยระบบคลาวด์
ซึ่งก็มีระบบความปลอดภัยให้เลือกใช้งานหลายระดับขั้น ความสะดวกคือเมื่อถึงเวลาใช้งาน เราก็สามารถดึงเอกสารออกมาส่งต่อกันได้เลย ทำให้เราทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้มาก โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ ที่มีสำนักงานหลายสาขาทั่วประเทศ
ในภาวะวิกฤตเราจำเป็นจะต้องมองบวกให้มากขึ้น การมองบวกไม่ใช่เห็นแต่สิ่งสวยงามอย่างเดียว แต่การมองบวกต้องมองเห็นตามความเป็นจริงด้วย อะไรดี...ก็ว่าดี อะไรไม่ดี...ก็ว่าไม่ดี แต่ให้รู้จักมองว่าสิ่งที่ไม่ดีนั้นจะสร้างโอกาสให้เราได้อย่างไร
เราต้องให้กำลังใจตนเองเพื่อก้าวข้ามผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้ คนที่อยู่รอดไม่ใช่คนเก่งที่สุด ไม่ใช่คนฉลาดที่สุด แต่เป็นคนที่อดทน และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้มากที่สุด
สุดท้ายหลักสำคัญที่สุดคือ หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ ให้ใจได้พร้อมเผชิญกับทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราได้
เจริญพร
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ