ได้ไม่คุ้มเสีย

วันที่ 11 ตค. พ.ศ.2548

   

          ปัญหาหนึ่งที่หนักอกของรัฐบาลชุดนี้คือ รัฐบาล ควรสนับสนุน หรือว่า ไม่ควรสนับสนุนให้มีการผลิต และ จำหน่ายสิ่งเสพติดมึนเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ประเภทบุหรี่ ยาสูบ สุรา เบียร์ ไวน์ เป็นต้น หรือไม่ เพียงไร จริงอยู่ รัฐบาลได้ทุ่มเททรัพยากรต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหา สังคม โดยการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ประเภทฝิ่น เฮโรอีน โคเคน ยาบ้า ยาอี เป็นต้น อย่างจริงจังอยู่แล้ว แต่สิ่งเสพติดประเภทบุหรี่ ยาสูบ สุรา เบียร์ ไวน์ เหล่านั้น ก็นับเป็นมัจจุราชผ่อน ส่งที่มีโทษแก่ผู้เสพติดมาก ไม่น้อยหน้าไป กว่าประเภทยาบ้า ยาอี นั้นเลย

         ตรงนี้เป็นเหมือนเส้นผมบังภูเขา ที่ฝ่ายสนับสนุนมองเห็นประโยชน์ที่พึงจะได้คือเงิน แต่ด้านเดียว โดยมองไม่เห็นผลร้ายที่จะตามมาเป็นปัญหาสังคมที่ยุ่งเหยิง จนยากเกินที่จะเยียวยาแก้ไขได้ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวกันอยู่ทุกวัน เพียงแต่ บุหรี่ ยาสูบ สุรา เบียร์ ไวน์ เป็นต้นนั้น สังคมยอมรับ ทั้งๆ ที่รู้เห็นว่าเป็นโทษ แต่ก็เคยชินต่อการเสพ แม้จะมีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาการเสพสิ่งเสพติดเหล่านี้บ้าง เช่น พยายามรณรงค์ให้เลิกบุหรี่ สุรา แต่ก็ยังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้ถึงรากถึงโคนได้ เพราะยังมีการส่งเสริมการผลิตสิ่งเสพติดเหล่านี้อยู่ เมื่อเป็นรัฐบาลซีอีโอที่เชิดชูนโยบาย "ความรู้คู่คุณธรรม" และที่ กำลังปฏิรูประบบราชการให้เป็น แบบบูรณาการให้ได้ผลดีมีประสิทธิภาพสูง ตามหลัก "ธรรมาภิบาล" อยู่แล้ว ก็ควรจะเห็นโทษของสิ่งเสพติดประเภท บุหรี่ ยาสูบ สุรา เบียร์ ไวน์ เป็นต้น โดยความเป็นโทษตามที่เป็นจริงอีกด้วย

          ถึงแม้จะมีรายได้จากการผลิตและจำหน่ายสิ่งเสพติดเหล่านี้ เมื่อพิจารณาให้ถ่องแท้แล้ว ผลได้คุ้มผลเสียไหม ประเทศไทยกำลังพัฒนาประเทศเข้าสู่คลื่นลูกที่ ๓ คือ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และ นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีอยู่แล้ว ไฉนรัฐบาลจึงไม่ฉวยโอกาสทองนี้เปลี่ยนพฤติกรรม การส่งเสริมน้ำเมามาเป็น การผลิตพลังงานทดแทนน้ำมันที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศนับแสนล้านบาท การผลิต การจำหน่ายสิ่งเสพติดมึนเมาให้โทษ เป็นที่ตั้งแห่ง ความประมาทเหล่านี้ มาเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมและ การเกษตรให้เจริญ เพื่อเพิ่มพูนรายได้ของประเทศให้ทดแทนรายได้จาก อบายมุขอันเป็นภัยแก่สังคมเหล่านั้น จะไม่ดีและคุ้มค่ากว่าหรือ ?

พระราชญาณวิสิฐ (หลวงป๋า)

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0048020482063293 Mins