หมอดูทักดวงตก

วันที่ 05 มิย. พ.ศ.2567

5-6-67-1b.jpg

หมอดูทักดวงตก

หมอดูทั่วไปชอบทักว่าดวงตกบ้าง ดวงขึ้นบ้าง คนเรามีดวงขึ้นดวงตกจริงหรือไม่
 

พระอาจารย์ตอบ : มีจริง คนไทยมักจะเรียกว่า “ดวงขึ้น” หรือ “ดวงตก” ส่วนชาวจีนเรียกว่า "เฮง" หรือ "ไม่เฮง" เรียกแตกต่างกันไป ซึ่งหมายความถึงช่วงชีวิตที่ทำอะไรก็ดีไปหมด และบางจังหวะที่ไม่ว่าจะทําอะไรก็แย่ไปหมด


                           ในความเป็นจริงเราทุกคนก็อาจจะเคยประสบภาวะอย่างนี้กันมาแล้ว คือ บางจังหวะชีวิตรู้สึกไม่ว่าจะทำอะไรก็ดีไปหมด และมีบางช่วงที่ทำอะไรก็แย่ไปหมด เช่น จากที่มีเจตนาดีก็กลายเป็นร้าย เป็นต้น


                           สาเหตุจริงๆ ในอดีตชาติเราเคยทําบุญทานเป็นช่วงๆ ตอนที่มีกำลังเกิดศรัทธามากก็ตั้งใจสวดมนต์ นั่งสมาธิ ตักบาตร ถวายสังฆทาน ทอดผ้าป่า กฐิน ทําบุญทานอย่างเต็มที่ แต่พอสักพักนึกขี้เกียจ หรือเจอคนไม่ดีมาดึงไปบ้าง บางช่วงก็ไม่ได้รักษาศีล บึ้มดตบยุง บุญไม่ค่อยทำ ขยันสร้างกรรมขึ้นๆ ลงๆ


                             คราวนี้ถึงเวลาบุญส่งก็ไม่ได้มาเป็นสายอย่างสม่ำเสมอ แต่บุญส่งมาเป็นช่วงๆ ขาดตอน ช่วงใดบุญส่งก็ทําให้เป็นช่วงชีวิตขาขึ้น หรือที่เราเรียกว่า ดวงขึ้น เฮงๆ ท่าอะไรก็ดีไปหมด


                             แต่พอจังหวะบุญหมด ขาดช่วง ผลกรรมตามมาส่งผลแทนที ดวงก็ตก ช่วงชีวิตกลายเป็นขาลง ทําอะไรก็แย่ไปหมด ทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งกรรมทั้งนั้น


                              วิธีการแก้ คือ ตอนที่ดวงขึ้นเราอย่าประมาทว่าท่าอะไรก็ดีไปหมด  ทรัพย์สมบัติที่หามาได้ก็ให้เก็บหอมรอมริบเอาไว้ให้ดี รีบตั้งเนื้อตั้งตัวให้ได้ ที่สําคัญเร่งทําบุญให้ต่อเนื่อง เอาบุญต่อบุญ สร้างบุญใหม่เสริมบุญเก่า


                               ส่วนถ้าใครอยู่ในจังหวะชีวิตขาลง ดวงตก ทําอะไรก็แย่ไปหมด เรารู้แล้วว่าสาเหตุเกิดจากช่วงนี้สายบุญเราขาดตอน วิบากกรรมสายบาปเข้ามาแทรกแซงให้ผลก่อน ส่งให้จิตใจเราดำมืดไป สายสมบัติขาดตอน ทำอะไรก็แย่ไปหมด


                                วิธีการแก้ คือ สร้างสายบุญใหม่ เมื่อบุญเก่าขาดตอนก็สร้างบุญใหม่มาเชื่อมบุญเก่าด้วยการตั้งใจรักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิเป็นพิเศษ ขณะที่ดวงกําลังตก บางทีนั่งสมาธิแล้วใจไม่นิ่ง นั่งไม่ค่อยได้เพราะมีแต่ความกังวลใจจากเรื่องราวเลวร้ายสารพัดที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัว เราก็ต้องฝืนใจพยายามตั้งใจจริงๆ

 

5-6-67-2b.jpg
                                 หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ ตั้งใจรักษาศีลอย่างน้อยศีล 5 ถ้ารักษาศีล 8 ได้ยิ่งดีใหญ่ หมั่นท่าบุญมาทาน ต่อให้กำลังแย่ เศรษฐกิจไม่ดี เงินทองไม่ค่อยมี  ก็ให้ตั้งใจทําอย่างเต็มที่เต็มกําลังของเรา


                                  ตอนที่ไม่มีเงิน ทําบุญ 1 บาท ก็น่าจะพอไหว สมมติว่าแย่สุดๆ เงินสักสลึงก็ไม่มี แต่อย่างน้อยเราก็ยังมีร่างกายแข็งแรง ใช้เรี่ยวแรงไปช่วยงานวัด มีอะไรที่เราพอจะช่วยงานที่วัดได้ก็ให้ท่า หรือถ้าบ้านอยู่ห่างจากวัดมาก เราพอมีน้ำใจช่วยเหลือคนข้างบ้าน ได้ช่วยเหลือคนบ้าง ช่วยเหลือสัตว์บ้าง  ได้ทําอะไรที่เกิดประโยชน์กับผู้อื่นก็ให้เราทําเลย เอาบุญเล็กบุญน้อยมาช่วยก่อน


                                  พอมีจังหวะดีเมื่อใดก็ให้เข้าวัดท่าบุญเต็มที่เต็มกำลังของเรา ไม่จําเป็นต้องทําบุญมากมายเป็นพันเป็นหมื่นบาทเหมือนคนอื่นเขาก็ได้ เพราะตอนนั้นเรากําลังแย่ ทำบุญ 5 บาท 10 บาท หรือ 100 บาท ก็แล้วแต่ที่กำลังเราทำไหว


                                    ถ้าเราทําบุญด้วยใจปีติเลื่อมใสเต็มที่ บุญก็ได้มากไปตามส่วน แล้วบุญใหม่จะไปเชื่อมต่อบุญเก่า เกิดเป็นสายบุญไม่ขาดช่วง แล้วดวงตกก็จะกลับกลายเป็นดวงดีขึ้นเรื่อยๆ พอดวงขึ้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ดีไปหมด เผลอๆ ได้รวยกลายเป็นมหาเศรษฐีเลยทีเดียว


                                     ญาติโยมที่มาวัดหลายคนเคยบอกว่า ตอนมาวัดแรกๆ ทำบุญได้แค่คราละ ๑๐ บาท ตามกำลัง แต่พอหยิบอนุโมทนาบัตรขึ้นมาดูด้วยความปลื้มใจ  บวกกับหมั่นเข้าวัดทำบุญบ่อยๆ ปัจจุบันมาทําบุญกันครั้งละ 10 ล้าน แสดงว่าปัจจุบันเขาต้องมีทรัพย์สมบัติมากมายเกินกว่า 10 ล้านไปอีก


                                      เหล่านี้คืออานิสงส์จากการตั้งใจทําบุญแม่ในช่วงดวงตกสายบุญไม่หล่อเลี้ยงก็ตาม หมั่นสร้างบุญใหม่ไปเชื่อมจนกระทั่งกลายเป็นผู้หนึ่งที่ประสบความสําเร็จในที่สุด


เจริญพร.

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.005640983581543 Mins