นครเชียงตุง วันนั้นที่รอคอย(2)

วันที่ 31 พค. พ.ศ.2568

เล่าตามใจ13:นครเชียงตุง วันนั้นที่รอคอย(2)(เขียนเมื่อ 15 ก.ย.58)

                    เมื่อปลายปีที่ผ่านมามีโอกาสเป็นคณะทำงานไปจัดถวายไทยธรรมและถวายภัตตาหารพระทั้งเชียงตุง ดีใจที่จะได้ไปทำงานบุญและดีใจที่จะได้ไปเชียงตุงที่อยากไปมานาน คณะทำงานร้อยกว่าคนเดินทางเข้าทางแม่สาย ด่านท่าขี้เหล็ก จากแม่สายไปเชียงตุงประมาณ 140 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง มีจุดพักระหว่างทาง 2 แห่ง โดยกฎหมายมาเป็นกลุ่มแบบนี้ต้องมีไกด์ท้องถิ่นประจำรถด้วย บัสคันเราไกด์พม่ามีชื่อเล่นแบบไทยว่า"แมว" จบกฎหมาย เค้าบอกว่าส่วนใหญ่ไปกับกลุ่มเล็กๆไม่ค่อยได้ประจำรถใหญ่การเดินทางเนื่องจากลัดเลาะเขาไปใหม่ๆก็เมารถแต่เดี๋ยวนี้ชินแล้ว เค้าต้องยืนพูดหันหน้ามาทางพวกเราไปได้สักพัก ไกด์เราออกอาการเมารถเดือดร้อนลูกทัวร์ต้องหายาดม ยาหม่อง มาปฐมพยาบาล หาของเปรี้ยวมาให้กินเช่น ส้ม บ๊วย เราเลยต้องรับหน้าที่ไกด์จำเป็นเล่าเรื่องราวที่อ่านมาให้ฟัง มาถึงตอนถามกันว่าใครนอนห้องไหนกับใครบ้าง ฝ่ายจัดการเรื่องห้องก็เฉลย เกือบทั้งคันนอนโรงแรมเดียวกัน ไม่มีใครมานอนนิวเชียงตุงเลย มีแต่เรากับน้องผู้ช่วยที่จองไว้ 1 ห้องเพราะอยากมานอนที่วังเก่านี้ น่าจะได้อารมณ์เก่าๆ ตอนจองคนที่รับเรื่องห้องพักก็ถามย้ำแล้วย้ำอีกว่าพี่แน่ใจเหรอที่จะพักที่นี่ นึกว่าเราไม่รู้ประวัติ มันเป็นความจงใจเลยแหละและมีอีกห้องให้ไกด์แมวกับไกด์อีกบัสหนึ่งนอน เท่านั้นแหละไกด์แมวแทบจะหายเมารถเป็นปลิดทิ้งเลย ถามว่าทำไมให้ไปนอนที่นั่นก็สัญญาว่าจะให้นอนอีกโรงแรมหนึ่ง

 

                    เราก็ไม่รู้ว่าไปสัญญากันไว้แต่เมื่อไหร่ งั้นไปนอนบ้านญาติในเชียงตุงดีกว่า ทุกคนก็บอกว่าแล้วไกด์อีกคนจะอยู่กับใคร เค้าก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ดูมีคุณธรรมว่าเออจริง แต่ไงเสียขอเปลี่ยนโรงแรม ก็ค่อนข้างจะเห็นใจ แต่ก็แกล้งไกด์กัน(น้องเป็นคนน่ารักเราเลยชอบแกล้งกัน) ว่างั้นต้องเล่าว่าทำไม ไม่งั้นไม่เปลี่ยนให้ เค้าก็ว่าใครจะไปนอน ทัวร์เจอกันมาเยอะแล้ว ทั้งเปลี่ยนผ้าห่ม ทั้งมาดึงขา มีมาเดินบนหลังคา บางทีมีฟ้อน มีดนตรีมาเล่น ก็ว่าดีซิไม่ต้องจ้างแล้วนี่ระดับวังเลยนะ สรุปว่าเลยต้องเปลี่ยนเอาช่างภาพนิ่งผู้ชายมานอน1ห้องคู่กับเราเพราะจองไว้แล้ว ไปถึงเชียงตุงเย็นๆเราไปเตรียมงานกันหลายวัน จึงได้นอนที่นี่ 4 คืนก่อนถึงวันงาน โรงแรมร้อยกว่าห้องมีเรา 2 ห้อง แขกฝรั่ง 2-3 ห้อง เงียบสมใจ มีwi-fiให้ใช้ไม่มีใครมาแย่งสัญญาณ จะมาคึกคักก็คืนก่อนวันงานที่ญาติโยมที่เดินทางมาจากไทยได้เข้าพัก ตื่นเช้ามาก็จะมีแต่คนมาถามว่าเป็นไงบ้าง เจออะไรบ้าง เจอใครใครก็ถาม ก็ไม่เจออะไรเลย หรือว่าเค้ามาแล้วปลุกอย่างไรเราก็ไม่ตื่นก็ไม่รู้ คิดว่าอย่างไรเสีย อย่างไงที่นี่ก็ต้องมีบ้างเพราะสถานที่นี้เป็นพื้นที่วังเก่าที่ถูกทุบทิ้ง ที่นี่เคยมีคนอยู่มากมาย ย่อมมีความรักความผูกพันต่อสถานที่นี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เรามาดีมาทำบุญก่อนนอนก็แผ่เมตตาให้ เค้าคงไม่ทำอะไรหรอก เพราะชีวิตหลังความตาย บุญเท่านั้นที่เป็นที่พึ่ง นึกไปก็ขำ ทำไมเรามานอนอยู่ที่โรงแรมที่สะดวกสบาย อยู่กันไม่กี่คน มีสระ มีสวน มีอาณาบริเวณ มีรั้วรอบขอบชิด มียามรักษาการณ์ อยู่ติดศูนย์กลางพิธีที่จะจัดงาน แต่อีกส่วนไปนอนกองรวมกันอีกโรงแรมที่เป็นโรงแรมห้องแถวติดถนนที่ไกลออกไป เลยแซวกันเล่นๆว่า นิวเชียงตุงเป็นที่พวกราชนิกูลพัก ส่วนอีกโรงแรมเป็นพวกข้าราชบริพารเค้านอนกัน(โปรดติดตามตอนต่อไป)

31-5-68-01bb.JPG31-5-68-02bb.JPG31-5-68-03bb.JPG31-5-68-04bb.JPG31-5-68-05bb.JPG31-5-68-06bb.JPG31-5-68-07bb.JPG31-5-68-08bb.JPG31-5-68-09bb.JPG31-5-68-10bb.JPG

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0037250995635986 Mins