วันแม่แห่งชาติ

วันที่ 12 สค. พ.ศ.2548

         วันแม่แห่งชาติหรือเรียกกันสั้นๆ ว่า “ วันแม่ ” ทุกคนรับทราบและซาบซึ้งกันดี เนื่องจากวันนี้
ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ คือวันที่ ๑๒
สิงหาคม อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ และถือว่าเป็นวันแม่แห่งชาติด้วย แต่เดิมนั้น วันแ่ม่
ของชาติได้กำหนดวันที่ ๑๕ เมษายนของทุก ๆ ปี ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศ
รับรอง เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๓ ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่
ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิงสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ผู้รับมอบหมายให้จัดงานวันแม่ตั้งแต่
วันที่ ๑๕ เมษาย พ.ศ.๒๔๙ เป็นครั้งแรกเป็นต้นมานั้น ได้รับความสำเร็จด้วยดี ด้วยประชาชน
ให้การสนับสนุนจนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างออกไปได้ การจัดงานไม่เพียงแต่จัด
พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา เท่านั้น แต่ยังจัดให้มีการประกวดแม่ของชาติ ประกวดคำขวัญวัน
แม่ ทั้งนี้เพื่อให้เกียรติแก่แม่ และเพิ่มความสำคัญของงานวันแม่ ให้ยิ่งๆ ขึ้น ด้วยเหตุนี้งานวันแม่ จึงเป็นวันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของรัฐบาล ฯพณฯ จอมพล ป พิบูลสงคราม
(สมัยนั้น) แต่ทั่วไปเรียกวันแม่ของชาติ

              ต่อมาถึง พ.ศ. ๒๕๑๙ ทางราชการได้เปลี่ยนใหม่ถือว่าวัน เสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ คือวันที่ ๑๒ สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ เริ่มในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นต้นมา
จากหนังสือของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ชื่อแม่หลวงของปวงชน พิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ มีข้อความตอนหนึ่ง เทิดพระเกียรติไว้ว่า

              " แม่ที่ดีย่อมรู้จักส่งเสริมธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมแห่งชาติ เพราะแม่ทราบดีว่าขาดสิ่งเหล่านี้แล้วความเป็นไทยที่แท้จริงจะมิ ปรากฎอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา แม่ที่ดีย่อมประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามระบอบของการปกครอง แบบประชาธิปไตย ซึ่งมีพระมหากษัตริยทรงเป็นพระประมุข โดยรักเคารพและเทิดทูนสถานบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เหนือสิ่งอื่นใด

           หญิงไทยทุกคนย่อมจะมีคุณลักษณะต่าง ๆ ของแม่ที่ดีดังกล่าว ข้างต้นนี้อยู่แล้วจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการศึกษา และการฝึกหัด อบรม แต่จะหาหญิงใดที่มีคุณลักษณะครบถ้วนทุกประการเสมอเหมือน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นั้นไม่ง่าย นัก ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอเทิดทูนพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ ว่าทรงเป็นแม่หลวง ของปวงชน ผู้ทรงเป็นศรีสง่า ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ของบ้านเมืองและของประชาชนชาวไทยทั้งมวล"


           อย่างไรก็ตามการที่ทางราชการประกาศกำหนดวันที่ ๑๒ สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันแม่แห่งชาติ ย่อมก่อให้เกิดวันอันเป็นที่ ระลึกที่สำคัญยิ่งของไทยเราวันหนึ่ง และกำหนดให้ถือว่า ดอกมะลิสีขาวบริสุทธิ์เป็นสัญญลักษณ์แห่งความดีงามของแม่ ผู้ให้กำเนิดแก่ตัวเรา อย่างคำประพันธ์ บทดอกสร้อยชื่อ แม่จ๋า ของ ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ที่ว่า

 

ดอกเอ๋ยดอกมะลิ

ถึงยามผลิกลิ่นพราวสกาวต้น

สดสะอาดปราศสีราคีระคน

เหมือนกมลใสสดหมดระคาย

กลิ่นมะลิหอมกระไรไม่รู้สร่าง

เปรียบได้อย่างรักแท้ไม่แปรหาย

อันรักแท้แลหัวใจได้บรรยาย

ขอเชิญทาย ณ ที่ไหนจากใครเอย

 

บทบาทหน้าที่ของบุตรที่พึงมีต่อ"บิดา-มารดา"
(บุตรควรบำรุงมารดาด้วยสถาน ๕ ประการ โดยยึดหลักทิศ ๖) คือ
๑. ท่านเลี้ยงมาแล้วเลี้ยงท่านตอบ
๒ ทำกิจของท่านมิให้บกพร่อง
๓.ปฎิบัติตนให้ควรแก่การดำรงวงศ์ตระกูล หรือรักษาวงศ์ตระกูลไว้มิให้เสียหาย
๔.ประพฤติตนให้สมควรที่จะรับทรัพย์มรดก
๕. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วควรบริจาคทานอุทิศส่วนกุศลไปถึงท่านเสมอ

กิจกรรมที่บุตรพึงกระทำต่อ "บิดา- มารดา"
๑.กราบเท้ารดน้ำขอพรจากแม่
๒.มอบดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่แห่งชาติคือ"ดอกมะลิ"
๓.มอบของขวัญพิเศษให้แก่แม่เนื่องในวันสำคัญนี้
๔.ส่งบัตรอวยพรให้แก่แม่

 

ข้อมูลอ้างอิง : วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยฯลฯ
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.039570983250936 Mins