ถ้าเป็นคุณจะตัดสินใจอย่างไร?

วันที่ 30 เมย. พ.ศ.2547

 

 

.....ชาวเกาะแห่งหนึ่งกำลังต้องใช้ความคิดในการตัดสินใจ และกำลังหาบุคคลผู้กล้าเพื่อทำงานช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ หลังจากประสบเหตุร้ายครั้งสำคัญ หน่วยกู้ภัยแจ้งกับประชาชนชาวเกาะว่า เขาได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรืออัปปางมาได้จำนวนหนึ่ง และเขาต้องตัดสินใจนำผู้โดยสารอื่นๆ ที่ช่วยเหลือมาได้กลับมาส่งที่ฝั่งก่อน เมื่อมาถึง เขาเองก็แทบเอาชีวิตไม่รอด เขาจึงแจ้งว่ายังมีผู้โดยสารอีกคนหนึ่งที่หายไป และจากประสบการณ์แล้วเขาน่าจะยังมีชีวิตอยู่ ขอเพียงเพื่อมีใครออกไปช่วยเขาได้ทัน หน่วยกู้ภัยขออาสาสมัครผู้กล้าเพียง 1 คน เพื่อที่จะได้ไปช่วย เขาย้ำว่า พายุที่บริเวณจุดที่เกิดเหตุแรงมาก ขอให้ผู้ที่ไปนั้นต้องระวังตัวให้ดี และเพื่อความไม่ประมาทเขาจึงขออาสาแค่หนึ่งชีวิตไปช่วยคนหนึ่งชีวิต น่าจะเป็นการเพียงพอ

.....เด็กหนุ่มวัยสิบหกปี ก้าวเท้าออกมาอาสาอย่างองอาจ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของแม่ที่ร้องไห้เสียใจจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด กับการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวของลูกชายที่แม่ของเขาเหลืออยู่เพียงคนเดียว แม่ของเขาทักท้วงขึ้น “ลูกอย่าทิ้งแม่ไปเลย เมื่อสิบปีก่อนพ่อของเจ้าก็หายสาบสูญไปจนบัดนี้ก็ยังไม่พบแม้แต่ศพของเขา เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพี่ชายของเจ้าก็หายไปอีก แม้ตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบเลยเช่นกันถ้าลูกออกไปแล้วเนอะไรไปแม่จะอยู่กับใคร เขานิ่งคิดอยู่ไม่นานเขาตัดสินใจยืนยันจะออกไปช่วยเหลืออีกหนึ่งชีวิตที่อยู่กลางทะเลนั้นอยู่ดี วันรุ่งขึ้นหนุ่มวัย 16 ปีนั้นกลับมาพร้อมชายผู้สูญหายไปนั้นจริงๆ เขายังมีชีวิตอยู่และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชายคนที่เขาไปช่วยเหลือนั้นเป็นพี่ชายของเขาที่สูญหายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

.....การตัดสินใจของชายหนุ่มอายุ 16 ปีครั้งนั้นทำให้เขาภาคภูมิใจเพิ่มมากขึ้น เพราะเขาสามารถช่วยชีวิตพี่ชายร่วมสายเลือดได้ ซึ่งถ้าเขาไม่ตัดสินใจไปช่วย พี่ชายของเขาก็ต้องเสียชีวิตอยู่ที่กลางทะเลนี้แน่นอน นี่คือรางวัลความกล้าหาญพิเศษ เพราะความกล้าหาญของเขาตั้งแต่เริ่มแรกเขาไม่อาจรู้ว่า ชายคนนั้นคือพี่ชายของเขา ผมฟังเรื่องนี้ครั้งใดกำลังใจที่จะช่วยเหลือคนอื่นที่เราไม่รู้จักนั้นก็อีกมากขึ้นทุกครั้ง

.....ความเชื่อเรื่องโลกกลมยังใช้ได้ดีอยู่ครับ การตั้งใจช่วยเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ที่บังเอิญมาประสบเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดของตัวเองนั้น แม้จะเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ยาก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

.....ผมว่าการตัดสินใจอะไรเพื่อส่วนรวมแล้ว หากไม่เหนือบ่ากว่าแรง และไม่ได้สร้างความเดือนร้อน และผลกระทบกับเราแล้วขอให้รับทำเถอะ เพราะเรายังไม่รู้เลยนะครับว่า สังคมของลูกหลานเราในอนาคตหน้าจะมีลักษณะเป็นอย่างไรกันแน่!!

 

 

 

 

 

 

นายตั้ม

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.021947550773621 Mins