ชีวิตขยะ

วันที่ 11 มค. พ.ศ.2546

 


.....ใครๆก็คงเคยกิน junk food กันมาแล้ว อาหารประเภทนี้เป็นอาหารที่มีราคาแพง เปี่ยมด้วยไขมัน เข้มแข็งด้วยโฆษณา แต่อ่อนด้อยด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เมื่อกินเข้าไปในร่างกายเราแล้วก่อให้เกิดพลังงานมาก แต่ก็ยังไม่เหมาะสำหรับเด็ก เพราะมีสารพวกฮอร์โมนเร่งโต ปะปนอยู่ในเนื้อสัตว์ ทำให้โตตัวใหญ่ แต่ใหญ่แต่ตัว? แต่สีสันที่ดูน่าทาน ใครหนอมาว่าเป็นอาหารขยะ…ที่จริงแล้ว คำว่า ขยะ มิได้หมายความว่า กินขยะ แต่หมายความว่า เมื่อมันอยู่ในร่างกายมนุษย์แล้ว ไม่ได้มีค่าอะไรมากไปกว่าขยะเลย ( คือขยะทั่วไปยังมีค่า เช่น บางอย่างสามารถรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ ทำของประดับได้ แต่ก็เป็นส่วนน้อย ) ก็คือมันมีประโยชน์ แต่น้อย…มาก จนหาไม่ค่อยเจออาหารขยะ คนกินเข้าไปมากๆ ก็เป็นอะไรล่ะ…เป็น "คนขยะ" ว้า..เรียกชื่อซะไม่น่าฟังเลย แต่นี่ก็คือสิ่งที่ใกล้ความจริง ไม่ทราบว่า เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า You are what you eat. ไหม คือ สิ่งที่คุณกินเข้าไปทุกวัน นั่นแหละคือสิ่งที่จะมาก่อร่างเป็นร่างกายของคุณทั้งนั้น กินมะเขือเทศเพื่อให้ผิวสวย กินสาหร่ายเพื่อให้ผมดกดำ บางคนกินแอ๊บเปิ้ลล้างพิษที่สะสมในร่างกาย ( แต่แอ๊บเปิ้ลบางลูกก็มียาฆ่าแมลง )

 

.....คนที่คิด พูด ทำ สิ่งที่เป็นขยะ ก็เป็นคนขยะ นั่นอาจฟังดูน่างงอยู่สักหน่อย แต่เมื่อบุคคลใดคุ้นอยู่กับอกุศล ก็จะนึกออกแต่เรื่องอกุศล ส่วนเรื่องดีๆนั้นคิดไม่ออก เพราะใจนั้นถูกเคลือบคลุมด้วยอกุศลเสียจนเคย พอให้มานึกเรื่องดีๆก็เลยนึกไม่ออก

 

.....สิ่งต่างๆที่เป็นองค์ประกอบของพฤติกรรมมนุษย์ เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงกันได้ นิสัย ก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ พฤติกรรมมนุษย์มาจากใจเป็นตัวบงการ เมื่อใจดี ก็จะทำให้คิดดี พูดดี ทำดี ตามไปด้วย และในทางกลับกัน คนดีๆก็อาจกลายพันธุ์เป็นคนชั่วได้ ถ้าประมาท

 

.....ประมาทอย่างไร คือ อันดับแรก ๑. ประมาทที่ปล่อยให้ตัวเองไปคุยกับคนชั่ว แล้วคิดว่าไม่เป็นไร คนชั่วก็เลยช่วยให้เราชั่วแทน ๒. ประมาทที่ทำสิ่งชั่วๆ ตามคนชั่วนั้นไป โดยคิดว่า นิดๆหน่อยๆไม่ชั่วอะไรมาก ๓.เมื่อรู้ตัวเองเต็มที่แล้วว่า กำลังทำความชั่วอยู่ ก็ไม่ถอนตัวกลับถลำลึก ยังคงทำความชั่วเรื่อยๆ ดังนี้จึงกลายเป็นนิสัย ๔.ถอนตัวไม่ขึ้น ประมาทเต็มที่ จนใครมาฉุดก็เอาไม่อยู่ ทั้งๆที่เคยเป็นคนดีมาก่อน น่าเสียดายจริงๆ

 

.....นี่แหละทางมาของคนขยะ เมื่อคนขยะแบบนี้นึกย้อนกลับไปดูชีวิตตัวเอง ก็จะเห็นแต่ขยะไร้ค่า เอาไปรีไซเคิลทำอะไรไม่ได้

 

.....ฉะนั้น เวลาทำความดีให้รีบๆทำ ทำแล้วให้ใส่ใจแต่ความดีที่ตนทำ อย่าไปคบคนพาลอีกต่อไป เพราะนั่นคือเชื้อร้าย ร้ายยิ่งกว่าเชื้อเอดส์ มันทำลายล้างความดีทีอุตส่าห์พากเพียรขึ้นมาใหม่ ต้องตัดขาด จึงจะพ้นสภาพความเป็นคนขยะไปได้

 

 

แก้วภูธร

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.026212700208028 Mins