กฎแห่งกรรม
องค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า
“ กมฺมุนา วตฺตติ โลโก
กมฺมุนา วตฺตติ ปชา
กมฺมนิ พนฺธนา สตฺตา
รถสฺสาณีว ยายโต”1)
“ โลกย่อมเป็นไปเพราะกรรม
หมู่สัตว์ย่อมเป็นไปเพราะกรรม
สัตว์ทั้งหลายถูกผูกไว้ในกรรม
เหมือนลิ่มสลักของรถที่กำลังแล่นไปฉะนั้น”2)
พุทธภาษิตบทนี้ แสดงให้ทราบถึงเรื่องของกรรม เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นได้ว่าสรรพสัตว์ย่อมเป็นไปเพราะกรรม เป็นอยู่ในกฎแห่งกรรม เรื่องของกรรมนี้มีประเด็นสำคัญที่ควรศึกษา คือ กฎแห่งกรรม(กฎแห่งการกระทำ) กรรม(การกระทำ) และวิบาก(ผลแห่งกรรม)
กฎแห่งกรรม คือ กฎแห่งการกระทำ เป็นกฎแห่งเหตุและผล เป็นกฎแห่งธรรมชาติ เป็นกฎอันเป็นสากลของสรรพสัตว์ทั้งปวง และเป็นความรู้ที่ทุกคนควรต้องศึกษาเพื่อความปลอดภัยในสังสารวัฏ กฎแห่งกรรมเป็นหลักคำสอนที่สำคัญในพระพุทธศาสนา คำสอนเรื่องกฎแห่งกรรม มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกหลายแห่ง เป็นต้นว่า
“ บุคคลทำกรรมใด ย่อมมองเห็นกรรมนั้นในตน
ผู้ทำกรรมดีย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้ผลชั่ว
บุคคลหว่านพืชเช่นใด ผลย่อมงอกขึ้นเช่นนั้น”3)
“ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้”4)
เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นได้ว่า เรื่องกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ความเป็นมาและอนาคตที่จะเป็นไปของเราทุกคน เพราะว่าความเป็นตัวเราในปัจจุบันทั้งด้าน รูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ อีกทั้งความเป็นอยู่โดยประการต่างๆ ของเรา ล้วนเป็นผลอันมาจากกรรมที่เราได้กระทำไว้ในอดีตนับภพนับชาติไม่ถ้วน
------------------------------------------------------------------------
1) มหามกุฏราชวิทยาลัย, พระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับสยามรัฐ, กรุงเทพฯ : มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2525, เล่มที่ 13 ข้อที่ 707 หน้า 648. (สุตฺตนฺตปิฏเก มชฺฌิมปฺณฺาสกํ มชฺฌิมปณฺณาสกํ พฺราหฺมณวคฺโค ปญฺจโม วาเสฏฺฐสุตฺตํ อฏฺฐมํ).
2) วาเสฏฐสูตร ขุททกนิกาย สุตตนิกาย, มก. เล่มที่ 47 หน้า 581.
3) เวนสาขชาดก ขุททกนิกาย ชาดก. มก. เล่มที่58 หน้า 723-724.
4) อภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี อัฏสาลินี, มก. เล่มที่ 75 หน้า 232.
MD 408 สมาธิ 8: วิปัสสนากัมมัฏฐาน