เรือนที่ถูกไฟไหม้
ปกของทรัพย์สินเงินทอง หรือสิ่งของที่บุคคลหวงแหนไม่มีแม้แต่สิ่งเดียวที่บุคคลจะนำติดตัวไปได้ เพราะเมื่อละโลกไป ต้องทิ้งสมบัติเหล่านี้ไว้เป็นธรรมดา บุญกุศลที่ได้กระทำไว้ทั้งทางกาย วาจา และใจ จะเป็นสมบัติที่ติดตามไป ประดุจเงาตามตัว เปรียบเหมือนเรือนที่ถูกไฟไหม้๑ ภาชนะใดที่เจ้าของนำออก ภาชนะนั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่เจ้าของ ตัวเราเองก็เช่นกัน ถูกไฟคือความแก่ ความเจ็บ ความตาย เผาลนอยู่ตลอดเวลา
บุคคลผู้มีปัญญาจึงนำทรัพย์ออกด้วยการให้ทาน เพราะทรัพย์ที่ให้แล้ว ชื่อว่านำออกดีแล้ว ย่อมมีสุขเป็นผลแต่ทรัพย์ที่ยังไม่ได้นำออก ย่อมไม่เป็นเช่นนั้น เพราะโจรอาจขโมยได้ ไฟอาจไหม้ได้ น้ำอาจพัดพาไปได้ หรืออาจถูกภัยจากเศรษฐกิจคุกคามเมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง แม้จะมีทรัพย์สมบัติ ยศ บริวาร หรือความเป็นใหญ่มากมายเพียงใด ก็จำต้องสละไว้แม้สรีระของตน ผู้มีปัญญารู้ความจริงข้อนี้แล้ว ย่อมหมั่นให้ทาน เพราะทานนี้จะเป็นเสบียง เป็นที่พึ่งติดตามไปในภพชาติเบื้องหน้า
ท่านทานบดีทั้งหลาย ได้ชื่อว่าเป็นผู้ฉลาดในการดำเนินชีวิต แม้อยู่กับโลก แต่กระแสโลกไม่อาจทำให้มัวเมาลุ่มหลงได้ประดุจใบบัวที่น้ำไม่อาจซึมซาบได้.
-----------------------------------------------------------------
๑ อาทิตตสูตร มก. ๒๔/๒๓๖, มจ. ๑๕/๕๗
หนังสือ " ร่าเริงบันเทิงใจ ด้วยสัมโมทนียกถา เล่ม๑ "
พระไพบูลย์ ธมฺมวิปุโล และคณะ