คำนำ
ในชีวิตประจำวันของชาวโลกโดยทั่วไปนั้น คงจะไม่มีใครเลยที่ไม่มีปัญหาให้ต้องแก้ไขแม้แต่วันเดียว จะต่างก้นก็ตรงที่ลักษณะความยุ่งยากซับซ้อนของปัญหาเท่านั้น ซึ่งบางปัญหา อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ส่วนตัวโดยเฉพาะ แม้ปล่อยผ่านไปโดยไม่แกไข ก็อาจจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแต่ประการใดแต่บางปัญหา ถ้าปล่อยผ่านหรือไม่รีบแก้ไข ก็จะก่อให้เกิดความทุกข์ความเดีอดร้อนและอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อมวลชนได้ เช่นปัญหานํ้าท่วม ไฟไหม้ ฝนแลัง เป็นต้น
การที่จะแก้ปัญหาได้สำเร็จนั้นมีหลักสำคัญอยู่ว่า ด้องหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาให้พบเสียก่อน แลัวจึงค่อยลงมีอแก่ไขด้วยวิธีการที่ถูกด้องเหมาะสม แต่ก้าย้งไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงหากอนุมานหาสาเหตุ โดยยึดความน่าจะเป็น แล้วลงมีอแก้ไขท้นทีก็อาจจะคว้านํ้าเหลวได้ ดังมีกรณีเด็กคนหนึ่ง เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน แทนที่จะรู้สึกหิว เขากลับปวดศีรษะ จึงบอกให้ผู้ใหญ่รู้อาการป่วยไข้ของตน ผู้ใหญ่จึงจัดหายาแก้ปวดศีรษะมาให้เขารับประทานท้นที อาการปวดศีรษะก็ไม่ทุเลาลงเลย แต่กลับรุนแรงยิ่งขึ้นอีก ครั้นเมื่อเขาได้รับประทานอาหารกลางวัน และเพียงเมื่ออาหารตกถึงท้องได้ ๒-๓ คำ อาการปวดศีรษะของเขา ก็หายไปเป็นปลิดทิ้งท้นที ทั้งเขาและผู้ใหญ่จึงได้บทเรียนใหม่ว่าถ้ายังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่พบ ก็ยังแก้ปัญหาไม่สำเร็จ เข้าทำ นองสำนวนชาวบ้านที่ว่า "เกาไม่ถูกที่คัน" นั้นเอง
จากกรณีของเด็กคนนี้ ย่อมเห็นได้ว่า การหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหานั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย แม้ปัญหาของเด็กเพียงคนเดียว ยังยากที่จะหาสาเหตุที่แท้จริงได้ถูกด้อง ด้งนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า การหาสาเหตุที่แท้จริงแห่งปัญหาของมวลชนในสังคมต่างๆ นั้น ย่อมยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรหลายร้อยเท่าเพราะอาจผิดพลาดได้เสมอ และที่จริงก็ผิดพลาดกันมาตลอดมิฉะนั้น ปัญหาต่างๆ ในสังคม ไม่เฉพาะในป่ระเทศไทยเท่านั้นแม่ในมหาประเทศและประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็เช่นเดียวก้น ก็คงไม่ร้ายแรงเรื้อรัง โดยไม่มีทีท่าว่าจะยุติ ดังที่ปรากฎเป็นข่าวเสมอมาด้งนั้น จึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ชาวโลกจะด้องหันมาศึกษาเรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจัา ผู้ทรงประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาทุกประเภท ด้วยอัจฉริยภาพ อิทธิฤทธิ์และคุณวิเศษอ้นประเสริฐเหนือสัตวโลก ตลอดโลก ๓ และมารโลกเพื่อยึดถือไว้เป็นหสักสำหรับแก้ไขทุกๆปัญหา
การตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้พระองค์ทั้งรู้ทั้งเห็นชัดแจ้งว่า สาเหตุที่แท้จริง สำคัญที่สุด ร้ายกาจที่สุด ที่ก่อปัญหา ซึ่งทำให้ซาวโลกมีความทุกข์ความเดือดร้อนและไร้สุขนั้นมีอยู่สิ่งเดียว คือ อาสวกิเลส หรือ อวิชชาสวะ ที่แฝงอยู่ในใจชาวโลกข้ามภพข้ามชาติมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ด้องเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในว้ฎสงสารอย่างไม่รู้จบ
แม้อวิชชาสวะจะมีพิษสงร้ายกาจเพียงใดก็ตาม แต่คนเรากิสามารถกำจ้ตให้ลดลงเรื่อยๆ จนถืงสิ้นไปได้อย่างเด็ดขาด โดยการปฎิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ ด้วยชีวิต นั่นคือ สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปอย่างมีขั้นตอนเป็นสำดับ ๆ
พระองค์ได้ทรงเปิดเผยกุศโลบายในการกำจ้ดอวิชชาสวะ"ให้สิ้นไปอย่างเด็ดขาด โดยการตรัสเทศนาตลอดเวลา ๔๕พรรษาแห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้วยพระทัยปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้สัตวโลกทั้งหลาย สามารถกำจัดอวิชชาสวะในตนได้อย่างเด็ดขาด บรรลุธรรมเพื่อพ้นทุกข์ ประสบสุขอันประณีตอย่างแห้จริงเฉกเช่นพระองค์ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมานื่ได้ถูกรวบรวมไว้ในหนังสือ "พุทธประวัติ ฉบับการฟื้นฟูศีลธรรมโลก" เล่มนี้แล้วด้วยอรรถาธิบายที่เข้าใจได้ง่ายๆ สามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์อย่างแห้จริง ทั้งแก่ตนเองและผู้คนรอบข้าง อันจะมีอานิสงส์ในระด้บที่ชื่อว่า ท่านคือ ผู้ร่วมฟื้นฟูคืลธรรมโลกอย่างแท้จริง
คณะผู้จัดทำหวังอย่างยิ่งว่า ธรรมบรรยายในหนังสือพุทธประวัตินี้ซึ่งรวบรวมจากบทเทศน์ในวาระต่างๆทั้งภายในภายนอกวัด และนอกประเทศ ของพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ(หลวงพ่อทัดตชีโว) จะช่วยให้ท่านมีตถาคตโพธิสัทธาอย่างเหนียวแน่น เกิดความเชื่อมั่นว่าการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ เป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่สามารถขัดเกลาจิดใจของผู้คนให้บริสุทธิ์ผ่องใส ถึงขั้นขจัดอาสวกิเลสให้สิ้นฤทธิ์ได้เด็ดขาด ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเป็นผู้มีบทบาทในการฟื้นฟูศีลธรรมโลกด้วยผู้หนึ่ง ซึ่งอาจจะอยู่ในฐานะบรรพชิต ครู หรีอพ่อแม่ก็ตาม อันเป็นการสร้างความเป็นปีกแผ่นให้แก่ศีลธรรม ตามโครงการร่วมมือกันระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน (บวร)
ทัายที่สุดนี คณะผู้จัดท่า ขออาราธนาบารมีธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจัาทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจัาทั้งหลาย พระอรหันตเจัาทั้งปวง บารมีธรรมของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปูวัดปากนํ้า ภาษีเจริญพระผู้ปราบมารโปรดดลบันดาลให้ท่านผู้อ่าน มีใจบริสุทธี้ผ่องใสประสบความก้าวหนัาในการปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ ยิ่งขึ้นตามลำดับๆ และประสบผลสำเร็จในการร่วมมือกันฟื้นฟูศีลธรรมโลกโดยเร็ว เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญ
สารบัญ
คำนำ (๕')
บฑที่ ๑ ปัญหาประจำชีวิตของชาวโลก ๑
ทัศนคติของผู้คนในปัจจุบัน ๑
อิทธิพลของเทคโนโลยีสมัยปัจจุบัน ๓
๑. ทุกข์อันเกิดจากการดำรงชีวิต ๕
๑.๑ องค์ประกอบของรูปกาย ๖
ขบวนการสร้างเซลล์ใหม่ ๘
เติมธาตุดิน ๙
เติมธาตุนํ้า ๙
เติมธาตุไฟ ๙
เติมธาตุลม ๙
๑.๒ ความรู้เรื่อง "พอประมาณในการบริโภค" ๑๑
๑.๓ ความรู้เรื่อง"หัวใจเศรษฐี" ๑๖
๑) อุฎฐานสัมปทา ๑๗
๒) อาร้กขสัมปทา ๑๙
๓) ก้ลยาณมิตตตา ๒0
๔) สมชีวิตา ๒๑
ผลดีของการดำรงชีวิตอย่างถูกต้อง ๒๔
ผลเสียของการขาดความรู้เรื่องการดำรงชีวิตอย่าง
ถูกต้อง ๒๔
๒. ทุกข์อันเกิตจากการอยู่ร่วมกัน ๒๕
สาเหตุแห่งการกระทบกระทั่งกัน ๒๗
การป้องกันปัญหาความขัดแย้ง ๒๗
การเตรียมการป้องกันปัญหา ๒๘
๓. ทุกข์อันเกิตจากอำนาจกิเลส๓๑
สรุป๓๖
บทที่ ๒ มารู้จักตนเองกันเถอะ ๔๗
ความสำคัญของมนุษย์ ๔๗
ความหมายคำว่ามนุษย์ ๔๙
องค์ประกอบของมนุษย์ ๕0
องค์ประกอบของกาย ๕๑
กายเป็นเพียงที่ประชุมของธาตุ ๔ ๕๓
กำเนิดของกายและสภาพความเป็นอยู่ ๕๓
เหตุที่ทำให้รูปกายมนุษย์ต่างจากสัตว์อื่นๆ ๕๕
คุณสมบัติพิเศษของกายมนุษย์ ๕๗
ธรรมชาติของใจ ๕๘
คุณสมปัติของใจ ๖๑
ส่วนประกอบของใจ ๖๘
กลไกการทำงานของใจ ๗๐
ขั้นตอนที่ ๑ การทำงานของดวงเห็น ๗๑
ขั้นตอนที่ ๒ การทำงานของดวงจำ ๗๙
ขั้นตอนที่ ๓ การทำงานของดวงคิด ๘0
ขั้นดอนที่ ๔ การทำงานของดวงรู้ ๘๑
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการรู้อารมณ์ ๘๓
สาเหตุที่ทำให้การเห็นในดวงเห็นไม่ชัดเจน ๘๔
ศัตรูตัวร้ายของมนุษย์ ๘๖
สรุป ๘๙
บฑที่ ๓ การตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๙๓
สภาพของโอกาสโลก ๙๓
ความเชื่อของผู้คนในครั้งดึกดำบรรพ์ ๙๔
ธรรมชาติของนักคิด ๙๖
ชื่อเรียก "สิ่งที่ยังไม่รู้" หรีอ "The Unknown Factor" ๙๗
ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่อง "ธรรม" ๙๘
ความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับที่อยู่ของ"ธรรม" ๙๙
กลุ่มที่ ๑ เชื่อว่า "ธรรม" มีอยู่จริง และอยู่นอกตัว
มนุษย์ ๙๙
กลุ่มที่ ๒ เชื่อว่า "ธรรม" มีอยู่จริง และอยู่ภายในตัว
มนษย์ ๑๐๑
ทิฏฐิ ๖๒ ๑๐๒
กลุ่มที่ ๑ มี ๑๘ ลัทธิ ๑๐๒
กลุ่มที่ ๒ มี ๔๔ ลัทธิ ๑๐๓
แนวทางการแสวงหาธรรม ๑0๖
การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐ ๑0๖
การแสวงหาที่ประเสริฐ ๑0๘
การแสวงหาสมัยทรงเป็นพระโพธิสัตว์ ๑0๙
การบำเพ็ญเพียรก่อนตรัสรู้ ๑๑๑
ในสำนักอาพารดาบส ๑๑๑
ในสำนักอุทกดาบส ๑๑๕
สลานที่บำเพ็ญเพียรสันน่ารื่นรมย์ ๑๑๖
อุปมา ๓ ข้อ
การบำเพ็ญเพียร ณ อุรุเวลาเสนานิคม ๑๑๙
ทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยา ๑๒0
ปัญจวัคคีย์ออกบวช ๑๒๑
ทรงรำลึกถึงการบรรลุปฐมฌานที่ใต้ต้นหวัา ๑๒๒
ความก้าวหนัาในการบำเพ็ญเพียร ๑๒๒
อาการแห่งการตรัสรู้ ๑๒๖
การบรรลุฌาน ๑๒๘
วิชชาที่ ๑ รู้จักระลึกชาติ ๑๓๑
วิชชาที่ ๒ รู้การจุติและอุบํตของสรรพสัตว์ ๑๓๕
๑. ทรงพบนานาภพภูมิของสัตวโลก ๑๓๗
ความหมายของภพ ๓ ๑๓๘
๑) กามภพ ๑๓๘
๒) รูปภาพ ๑๓๙
๓) อรูปภพ ๑๘0
๒. ทรงพบกฎแห่งกรรม ๑๔๑
๓. ทรงพบกฎเกณฑ์การตัดสินดี-ชั่ว ๑๔๓
๔. ทรงพบการให้ผลของกรรมตามกาล ๑๔๙
๕. ทรงพบการให้ผลของกรรมโดยพิสดาร ๑๕๐
วิชชาที่ ๓ ทำ กิเลสอาสวะให้สิ้นไป ๑๕๓
๑. ทรงเห็นอวิชชา ๑๕๔
๒. ทรงเห็นอริยสัจ ๔ ๑๕๕
๑) ทรงเห็นทุกข์ ๑๕๕
๒) ทรงเห็นทุกขสมุทัย ๑๕๗
๓) ทรงเห็นทุกขนิโรธ ๑๖๐
๔) ทรงเห็นทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ๑๖๖
สรุป ๑๗๘
บทที่ ๔ อานุภาพแห่งการตรัสรู้ ๑๘๑
การเห็นอริยสัจ ๔ ๑๘๑
อธิบายการเห็นอริยสัจ ๔ เชิงวิทยาศาสตร์ ๑๘๓
คุณสันประเสริฐของสัมมาสมาธิ ๑๘๕
สมาธิภาวนา ๔ ประการ ๑๘๖
๑. สมาธิภาวนาเพื่อความอยู่สุขในปัจจุบัน ๑๘๗
๒. สมาธิภาวนาเพื่อความเห็นแจ้งตัวยญาณทัสสนะ ๑๙๐
๓. สมาธิภาวนาเพื่อความตั้งมั่นของสติสัมปชัญญะ ๑๙๑
๔. สมาธิภาวนาเพื่อความตับสิ้นอาสวะ ๑๙๓
ผู้กล่าวตู่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑๙๔
กำลังของพระตถาคต ๑๐ ประการ ๒๐๐
วิบากแห่งวจีทุจริต ๒๐๔
เวสารัชชญาณ ๔ ๒๐๕
ปกิณณกธรรม ๒๐๖
บริษท ๔ ๒๐๗
กาเนิด ๔ ๒๐๕
คติ ๕ ๒๑๐
รู้เห็นการไปทุคติและสุคติของบุคคล ๒๑๒
พรหมจรรย์มีองค์ ๔ ๒๑๔
ลัทธิต่าง ๆ ในสมัยก่อนพุทธกาล ๒๑๙
สรุป ๒๒๑
บทที่ ๕ บทส่งท้าย ๒๒๕
การตรัสรู้คือการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ ๒๒๕
การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ ๓ ประการ ๒๒๖
๑. การค้นพบ "สิ่งที่ยังไม่รู้" ที่เรียกว่า "ธรรม"
คือ "นิพพาน" ๒๒๖
๒. การค้นพบวิธีการกำจัดกิเลสให้หมดสิ้นโดย
เด็ดขาด ๒๒๗
๓. การค้นพบว่า มนุษย์มีองค์ประกอบ ๓ ส่วน
นั่นคือ กาย ใจ และธรรม ๒๒๗
ผลของการตรัสรู้อันเป็นประโยชน์ต่อชาวโลก ๒๓๑
๑. ทุกข ๒๓๑
๒. สมท้ย หรีอทกขสมท้ย ๒๓๑
๓, นิโรธหรือทุกขนิโรธ ๒๓๒
๔. มรรค หรือทุกขนิโรธคามินิปฏิปทา ๒๓๒
ความหมายของ "ธรรม" ๒๓๒
ธรรมชาติของพระสัมมาส้มพุทธเจ้า ๒๓๕
ทรงอาศัยทศพลญาณในการเผยแผ่ธรรม ๒๓๖
๑. บรรพชิตไม่ควรปฏิป้ติสุดโต่ง ๒ อย่าง ๒๓๖
๒. ทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) ๒๓๖
๓. อริยสัจ ๔ ๒๓๖
หัวใจพระพุทธศาสนา ๒๓๙
จำ นวนพระธรรมคำสอน ๒๔0
พุทธบริษัท ๔ ๒๔๒
พระรัตนตรัย ๒๔๓
๑. พระพุทธ ๒๔๓
๒. พระธรรม ๒๔๔
๓. พระสงฆ์ ๒๔๔
๑) แกตนเอง ๒๔๔
๒) สั่งสอนชาวโลก ๒๔๔
ภาคผนวก ๒๕๑
วิธีแกสมาธิเบื้องต้น ๒๗๑