ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : บูชาดอกไม้เพื่อพระนิพพาน


ธรรมะเพื่อประชาชน : บูชาดอกไม้เพื่อพระนิพพาน

Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน

DhammaPP149_01.jpg

บูชาดอกไม้เพื่อพระนิพพาน
อานิสงส์บูชาด้วยดอกอุบล (พระปัญจหัตถิยเถระ)


 
                  การสั่งสมบุญบารมีเป็นเรื่องหลักที่สำคัญ เราจะต้องหมั่นสั่งสมบุญกันบ่อยๆ เป็นประจำสมํ่าเสมอ เพื่อไม่ให้บาปอกุศลได้ช่อง หากเราไม่หมั่นสั่งสมบุญ จิตใจไม่อยู่ในบุญแล้ว กระแสแห่งบาปอกุศลจะชักนำใจของเรา ให้ตกอยู่ใต้อำนาจอาสวกิเลส  การรักษาใจให้ใส ให้สะอาดบริสุทธิ์ ก็เพื่อไม่ให้กระแสบาปเข้ามาปนเป็นได้ การฝึกใจให้หยุดนิ่ง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก  เพราะเมื่อใจของเราใสบริสุทธิ์ กระแสบุญก็จะเพิ่มพูนทับทวีขึ้น ดังนั้นการสั่งสมบุญและรักษาใจให้หยุดนิ่ง จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำคู่กันไป

 

                  มีวาระแห่งสุภาษิตปรากฏอยู่ใน ปัญจหัตถิยเถราปทาน ความว่า 

                  “ดอกอุบล ๕ กำ ที่เราทำเป็นพวงมาลัยไว้มีอยู่ เราเลื่อมใสได้เอาดอกอุบลนั้น บูชาพระพุทธเจ้า ด้วยมือทั้งสองของตน และดอกไม้เหล่านั้น เรายกขึ้นเป็นหลังคาบูชาพระบรมศาสดา เราทรงดอกไม้ถวายพระมหามุนี ดังศิษย์กั้นร่มถวายอาจารย์ฉะนั้น ในกัปที่สามหมื่น เราได้บูชาดอกไม้ใด ด้วยกรรมนั้นเราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัปที่สองพันแต่กัปนี้ เราได้เป็นกษัตริย์ ๕ ครั้ง และเป็นพระเจ้าจักรพรรดิทรงพละมาก มีพระนาม หัตถิยะ คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว”

 

                  ถ้อยคำอันเป็นสิริมงคลที่หลวงพ่อนำมากล่าวนี้  เป็นพระคาถาของพระอรหันตเถระรูปหนึ่ง ที่ท่านซาบซึ้งในผลแห่งบุญ ในสมัยเมื่อครั้งที่ยังสร้างบารมีอยู่ ท่านเป็นอุบาสกที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธา เลื่อมใสในพระรัตนตรัย  เคารพนอบน้อมต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา นี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังมีนักสร้างบารมีสมัยก่อนอีกมาก ที่ท่านมีใจหนักแน่นและเคารพบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกทั้งหลาย

 

                  คำว่า เคารพอย่างหนักแน่นนี้ มีความหมายที่ลึกซึ้ง หมายถึงความเป็นผู้ที่มีใจตระหนัก มีใจแน่นหนักมั่นคงในพระรัตนตรัย ไม่มีอะไรที่จะสามารถมาสั่นคลอนความศรัทธาที่มีต่อพระรัตนตรัยได้ เหมือนกับหินศิลาแท่งทึบ ที่ไม่หวั่นไหวต่อแรงลม ฉะนั้น  ไม่ว่าจะมีเรื่องราวอันเป็นเท็จ จะมีการใส่ร้ายจากผู้ไม่หวังดีต่อพระศาสนาก็รับฟังด้วยจิตใจที่เป็นปกติไม่หวั่นไหว มีสติรู้อยู่ตลอดเวลา ว่าอะไรจะมาเสมอเหมือนด้วยพระรัตนตรัยนั้นไม่มี  จึงมุ่งหน้าเอาบุญเพียงอย่างเดียว ไม่ใส่ใจกับสิ่งไร้สาระที่เกิดขึ้น หรือแม้จะมีอุปสรรคก็ไม่ย่อท้อ

 

                  นักสร้างบารมีทั้งหลายในอดีต  ท่านจึงเป็นแบบอย่างของการสร้างบารมีมายาวนาน เมื่อนำมาเล่าแล้วผู้ที่ได้รับฟังก็มีแต่กำลังใจเพิ่มพูน ดังเรื่องการสร้างบารมีในสมัยพุทธกาลที่หลวงพ่ออยากจะนำมาเล่าให้พวกเราฟังในครั้งนี้ เป็นตัวอย่างที่ควรจะจดจำแล้วนำไปปฏิบัติตาม เพราะท่านเมื่อได้โอกาสสร้างบุญแล้ว ไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านเลยไป ถึงแม้จะดูว่าเป็นการกระทำที่เล็กน้อยในสายตาของคนทั่วๆ ไป แต่ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า  เนื้อนาบุญในพระศาสนานี้  เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ที่ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า  แม้ทำบุญเพียงเล็กน้อยก็ได้รับอานิสงส์อย่างมากมายมหาศาล

 

                  พระปัญจหัตถิยเถระ ท่านเป็นพระอรหันตเถรเจ้าองค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล ซึ่งมีประวัติการสร้างบารมีที่น่าอัศจรรย์ใจในผลบุญยิ่งนัก

       

                  * ย้อนไปในอดีตหลายๆ ชาติ พระเถระได้บำเพ็ญบุญไว้ในพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากมายหลายพระองค์ ท่านได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมาตลอด เวียนว่ายตายเกิดสร้างบารมีอยู่ในวัฏสงสาร แต่ก็ยังไม่ได้รับผลแห่งบุญอย่างเต็มเม็ด

 

                  จนกระทั่งมาถึงยุคทองของสัตวโลกอีกยุคหนึ่ง ในสมัยนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า สุเมธะ ได้ทรงอุบัติขึ้นในโลก หลังจากที่ตรัสรู้แล้วทรงประกาศพระธรรมจักรไปทั่วชมพูทวีป ทรงยังโลกให้สว่างไสวด้วยแสงแห่งธรรมไปทั่วทุกหัวระแหง พระเถระท่านได้บังเกิดในตระกูลหนึ่งที่สมบูรณ์พร้อมด้วยสมบัติทั้งหลาย ทำให้ท่านมีความสุข ไม่ได้ลำบากอะไรเลย  กระทั่งเติบโตขึ้นตามลำดับจนบรรลุนิติภาวะแล้ว เมื่อได้ฟังข่าวการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็คิดว่า

 

                  ทั่วพื้นชมพูทวีปนี้ พากันกล่าวแซ่ซ้องสรรเสริญพระบรมศาสดาว่าเป็นพระอรหันต์ ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณา แสดงธรรมอันนำออกจากทุกข์ หมู่ชนทั่วทุกสารทิศต่างพากันไปเข้าเฝ้าเพื่อฟังธรรม การที่ตัวเราเองได้รับข่าวอันเป็นมงคลอย่างนี้แล้วตั้งอยู่ในความประมาทเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเลย เราควรหาโอกาสฟังธรรมจากพระพุทธองค์สักครั้งในชีวิต

 

                  เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว ก็รอคอยโอกาสที่จะเข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดา ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นพระบรมศาสดาด้วยตาของตนเอง เพียงแค่ฟังเสียงการสรรเสริญพระพุทธคุณ ท่านก็เกิดเลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างเต็มเปี่ยม

 

                  จนกระทั่งวันหนึ่ง โอกาสที่รอคอยมานานแสนนานก็มาถึง พระบรมศาสดาเสด็จผ่านมาประทับอยู่ในเมืองที่ท่านอาศัยอยู่ ทำให้ชาวเมืองพากันปีติ เกิดโกลาหลที่จะได้บุญกับพระศาสดา ต่างก็นำดอกอุบล ๕ กำมือ เดินมุ่งหน้าไปยังสถานที่ประทับเพื่อบูชาพระพุทธองค์ เมื่อกุลบุตรผู้มีบุญเห็นมหาชนถือดอกไม้ออกจากเรือนเพื่อไปเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา  ก็คิดว่า     มหาชนต่างพากันไปเพราะต้องการบุญ โอกาสที่ดีมาถึงในวันนี้แล้ว  เราไม่ควรปล่อยโอกาสที่ดีงามอย่างนี้ให้เลยผ่านไป เราควรจะเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาพร้อมกับมหาชนทั้งหลาย

 

                  เมื่อคิดอย่างนี้แล้วก็หาดอกอุบล ๕ กำมือ จากนั้นได้เดินถือเข้าไปเฝ้าพระพุทธองค์พร้อมกับหมู่ชน ขณะที่เดินไปนั้น ก็มองเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังเสด็จดำเนินไปบนถนน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สุเมธะ ผู้มีพระจักษุทอดลงตํ่าพอประมาณ เสด็จอย่างสงบ มีความองอาจสง่างาม มีพระสติ สำรวมอินทรีย์ กุลบุตรเห็นอย่างนั้น ในใจก็เกิดมหาปีติที่เห็นพระพุทธองค์ มองดูพระบรมศาสดาด้วยความเลื่อมใส แล้วนำดอกอุบลที่ถือมาบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าในระหว่างทางนั่นเอง

 

                  ทันใดนั้น เหตุอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น ดอกบัวเหล่านั้นได้ลอยขึ้นไปบนอากาศเป็นเพดานคล้ายร่มลอยอยู่ในอากาศ ลอยไปเหนือพระเศียรของพระบรมศาสดา ครั้นอุบาสกเห็นภาพอันน่าอัศจรรย์เช่นนั้น ก็เกิดมหาปีติอันไม่มีประมาณ ในใจเต็มตื้นด้วยความโสมนัสเปรมปรีดิ์ เป็นผู้มีสรีระอันปีติแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ตั้งแต่นั้นมาท่านได้ตั้งมั่นอยู่ในพระรัตนตรัยจนตลอดชีวิต และทำบุญทุกอย่างที่มีโอกาส แต่บุญที่ฝังใจท่านที่สุด คือการเอาดอกไม้บูชาพระบรมศาสดา อุบาสกระลึกถึงบุญนั้นจนตลอดชีวิตของท่าน เมื่อจุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้ไปบังเกิดในเทวโลก สมบูรณ์ด้วยทิพยสมบัติมากมาย

 

                  จนมาถึงในสมัยพุทธกาลนี้ บุญในตัวที่สั่งสมมาก็เต็มเปี่ยม ส่งผลให้บังเกิดในตระกูลสูง และมีกุศลศรัทธาออกบวช เจริญสมถวิปัสสนาไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหันต์ ท่านปรากฏโดยชื่อตามกุศลที่ตนได้บำเพ็ญเอาไว้ว่า ปัญจหัตถิยเถระ เมื่อระลึกถึงบุพกรรมของตัวท่าน จึงได้ประกาศการสร้างบารมีของตนว่า 

         “เราทรงดอกไม้ถวายพระมหามุนี ดังศิษย์กั้นร่มถวายอาจารย์ ในกัปที่สามหมื่น เราได้ยกดอกไม้ใด ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา ในกัปที่สองพันแต่กัปนี้ ได้เป็นกษัตริย์ ๕ ครั้ง และเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ทรงพละมาก มีพระนาม หัตถิยะ เราได้บรรลุคุณวิเศษทั้งหลาย ก็ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ได้ถวายดอกไม้เป็นพุทธบูชา”

 

                  เราจะเห็นว่า ผลแห่งบุญนี้ไม่มีเล็กน้อย หากเราได้ทำถูกเนื้อนาบุญ ถูกทักขิไณยบุคคล ถูกธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมีผลที่ยิ่งใหญ่ไพศาลบังเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ขอเพียงให้มีจิตเลื่อมใสอย่างเต็มที่ และทำถูกเนื้อนาบุญในบวรพระพุทธศาสนา  อานิสงส์ที่เกิดขึ้นนั้นจะทำให้เราสมบูรณ์ด้วยมหาสมบัติทั้งหลาย และมีความสุขความสำเร็จในชีวิตทุกภพทุกชาติ  ขอเพียงเราเชื่อมั่นในบุญอย่างเต็มเปี่ยม และคิดพูดทำลงไปโดยไม่ต้องไปลังเลกับเรื่องใดทั้งสิ้น  เพราะการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นมหัคคตกุศล ดังนั้นเราต้องบูชาทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชากันทุกๆ วัน

 

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)

* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๑๘๖

 

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล