ฉบับที่ 104 มิถุนายน ปี2554

วิสาขบูชา ในต่างประเทศ

ทบทวนบุญ
เรื่อง : พระสมศักดิ์ จนฺทสีโล

 

วิสาขบูชา 
วันอัศจรรย์แห่งสันติสุขแผ่ขยายไปทั่วโลก

          วิสาขบูชาในปีพุทธศักราช ๒๕๕๔ นี้ เป็นปีแห่งพุทธชยันตี เฉลิมฉลอง ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ ธรรมขององค์พระบรมศาสดา ได้มีการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา "วันวิสาขบูชา" ทั้งในและต่าง ประเทศกันอย่างกว้างขวาง

 




 

วิสาขบูชา
ประเทศอินเดีย


          ที่ประเทศอินเดียได้มีการจัดบวชอุบาสก-อุบาสิกาแก้ว และจัดงานวิสาขบูชา ณ เมือง อเมนากะ ระหว่างวันที่ ๙-๑๗ พฤษภาคม โดยมีเจ้าภาพมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ คือ ฯพณฯ บาบันเรา พัชภูติ รัฐมนตรีกระทรวงชนเผ่าของรัฐมหาราษฎร์ และลูกชาย คือ คุณวิกรม พัชภูติ ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยปริกรัมมะ สนับสนุนโครงการในทุกเรื่อง และมีเจ้าภาพผู้อุปถัมภ์ คุณกัลปน่า สาโรจ ประธาน มูลนิธิกัลปน่า สาโรจ พร้อมกับ ส.ส. รัฐมหาราษฎร์ และคณะกรรมาธิการอุบาสก-อุบาสิกา ร่วมสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีคุณวิกรม พัชภูติ ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงในด้านการทำคุณประโยชน์ให้แก่รัฐมหาราษฎร์ ได้ประชาสัมพันธ์โครงการโดยการแถลงข่าวผ่านสถานี โทรทัศน์ สถานีวิทยุ และหนังสือพิมพ์แห่งชาติ รวมถึง จัดรถประชาสัมพันธ์รอบเมือง จนงานวิสาขบูชาที่อินเดียในปีนี้มีความยิ่งใหญ่อันเป็นสัญญาณแห่งการ ฟื้นฟูศีลธรรมโลกให้กลับคืนสู่ความรุ่งเรืองดุจดั่งในสมัยยุคพุทธกาล

 




 

วิสาขบูชา
ประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย


          ที่ประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ได้จัดงานวิสาขบูชาฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ธรรม ณ มหาวิทยาลัยโอทาโกโดยถือเป็นครั้งแรกของประเทศนิวซีแลนด์ และครั้งที่ ๕ ของประเทศออสเตรเลียมีชาวพุทธและนักบวชหลายประเทศไปร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงโดย
ไม่มีการแบ่งแยกนิกาย

 




 

วิสาขบูชา
ประเทศมองโกเลีย


          ส่วนที่ประเทศมองโกเลีย คณะพุทธบริษัท นับหมื่นชีวิต ได้จัดให้มีพิธีกรรมอันยิ่งใหญ่ โดยมีคณะผู้แทนพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) นำโดยพระครูปลัดภูเบศ ฌาณาภิญฺโญ ร่วมจุดโคม วิสาขประทีปทั้งโคมลาน โคมลอย ยังความอลังการ และความตื่นตาตื่นใจแก่ชาวมองโกลเป็นอย่างยิ่ง

 




 

วิสาขบูชา
ประเทศแอฟริกาใต้


          ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ปีนี้ได้จัดงานวิสาขบูชาที่วัดพระธรรมกายโจฮันเนสเบิร์ก โดยมีผู้มีบุญทั้งชาวไทยและชาวท้องถิ่นพร้อมใจกันไปร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก งานนี้ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ วิเชสิงเห เอกอัครราชทูตศรีลังกา ประจำกรุงพริทอเรีย (Pretoria) เมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ นำพลเมืองชาวศรีลังกาในความดูแลของท่าน มาทำ การเฉลิมฉลอง พุทธชยันตีด้วยการปฏิบัติบูชา ทำให้ บรรยากาศอบอุ่นอบอวลไปด้วยชาวพุทธหลากหลาย เชื้อชาติ

 




 

วิสาขบูชา
ประเทศสิงคโปร์


          ที่ประเทศสิงคโปร์ สาธุชนพร้อมใจกันจัดงานวันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ในเต็นท์ยักษ์ขนาดพื้นที่ ๑ ไร่เศษ ใจกลาง ชุมชนบูกิตบาตก (Bukit Batok) โดยได้รับความเมตตาจากพระเทพสิทธิวิเทศ เจ้าคณะรัฐสิงคโปร์ ประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในสิงคโปร์ มาเป็นประธาน ฝ่ายสงฆ์ และ ฯพณฯ นพปฎล คุณวิบูลย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์ มาดามฮาลิมา ยาขอบ ส.ส.อาวุโสเขตบูกิตบาตก รวมทั้งบาทหลวง ไมเคิล เดอ ครูส หัวหน้าคณะบาทหลวงนิกายโรมันคาทอลิก ได้มาเป็นเกียรติในพิธีสำคัญครั้งนี้ด้วย งานนี้มีคนทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา มาร่วมงานอย่างคับคั่งตลอด ๓ วัน

 




 




 

วิสาขบูชา ประเทศศรีลังกา

          ที่ประเทศศรีลังกา มูลนิธิธรรมกายเป็นตัวแทน ประเทศไทยเข้าร่วมจัดงานนิทรรศการภาพยนตร์พระพุทธศาสนานานาชาติ ณ กรุงโคลัมโบ ระหว่าง วันที่ ๑๕-๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง ๒,๖๐๐ ปี แห่งการเกิด ขึ้นของพระพุทธศาสนา โดยมีตัวแทนจากประเทศต่าง ๆ อาทิ เมียนมาร์ อินเดีย เนปาล ปากีสถาน จีน ญี่ปุ่น ศรีลังกา และประเทศไทย เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งในตอนค่ำของวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ทีมงานลูกพระธัมฯ ได้ทำ พิธีจุดโคมลอยเป็นพุทธบูชา โดยมี ฯพณฯ ชามัล ราชปักษา โฆษกรัฐบาล (พี่ชายท่านประธานาธิบดีมหินทา ราชปักษา) ให้เกียรติร่วมลอยโคมกับทางคณะด้วย

 




 

วิสาขบูชา
ประเทศมาเลเซีย


          ที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย มีการแห่ขบวนวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องมาประมาณ ๒๕ ปีแล้ว และยังถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินการท่องเที่ยว ของรัฐปีนังด้วย ปีนี้งานวันวิสาขบูชาจัดขึ้นที่ Burmah Road, Georgetown โดยคณะกรรมการจัดงานวันวิสาขบูชารัฐปีนัง ภายใต้การดูแลของสมาคมพุทธศาสนิกชนมาเลเซีย มีองค์กรเข้าร่วมงาน ๓๓ องค์กร และถือเป็นปีแรกที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมปีนัง ได้เข้าร่วมงานด้วย ท่ามกลางประชาชนที่สนใจกว่า ๖,๐๐๐ คน

วิสาขบูชา
วันแห่งสันติภาพโลก

          การจัดงานวิสาขบูชาปีนี้ เชื่อว่ามีการจัดขึ้น ทั่วโลก โดยเฉพาะในวัดและสำนักงานสาขาของมูลนิธิธรรมกายที่มีอยู่ทั่วไปหลายทวีป เช่น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป ทวีปแอฟริกา และ ดินแดนตะวันออกกลาง ต่างพร้อมใจกันจัดพิธีกรรม อันศักดิ์สิทธิ์เพื่อขยายเครือข่ายแห่งสันติสุขและประสานกับกระแสแห่งความสงบร่มเย็น อันจะก่อให้เกิดสันติภาพไปทุกภูมิภาคทั่วโลก

          ขออนุโมทนามายังท่านทั้งหลายและทุก ๆ ประเทศทั่วโลกที่ร่วมกันจัดกิจกรรมวิสาขบูชาในปีนี้ ขอให้ท่านทราบเถิดว่า ท่านเป็นบุคคลสำคัญที่สุด ที่จะเป็นกำลังสำคัญที่จะนำโลกไปสู่การเปลี่ยนแปลง ครั้งยิ่งใหญ่ (Change the World) ด้วยการร่วมกันประพฤติปฏิบัติธรรม และร่วมกันจุดประกายเริ่มต้น แห่งยุคของการแผ่ขยายคำสอนอันประเสริฐแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ยังความรุ่งโรจน์โชติช่วง สว่างไสว ดั่งดวงอาทิตย์ซึ่งอุทัย แสงขึ้นมาขับม่านเมฆแห่งความมืดมนให้วินาศไป และจะร่วมจรรโลงมรดกธรรมอันประเสริฐนี้ให้คงอยู่คู่ฟ้าดิน เพื่อยังสันติภาพและสันติสุขที่แท้จริงแก่แต่ละประเทศ และมวลมนุษยชาติไปตลอดกาลนาน

 



 

วิสาขปุณณมี

โอวาทพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) วันอังคารที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔


          วันนี้เป็นวันวิสาขบูชา ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีนี้ตรงกับวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้ ที่มาบรรจบครบรอบอีก ๑ ปี ก็จะได้ถือโอกาสนี้นึกทบทวนประวัติของพระองค์ท่านตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และก็ดับขันธปรินพพาน

          ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของพระพุทธองค์นั้น งดงามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย เป็นบรมศาสดาที่เราปีติและภาคภูมิใจในพระองค์ท่าน เพราะกว่าจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ แต่เดิมพระองค์ก็เป็นปุถุชนคนธรรมดา แต่ว่ามีมโนปณิธานที่ยิ่งใหญ่ ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต เมื่อตั้งความปรารถนาแล้วก็สั่งสมบุญบารมีเรื่อยมา

          จนกระทั่งบารมี ๓๐ ทัศบริบูรณ์ ถึงเวลาก็ได้รับการอัญเชิญอาราธนาจากเทวดาหมื่นโลกธาตุ และพรหมทั้งหลายให้มาบังเกิดในเมืองมนุษย์ และพระองค์ก็ได้พิจารณาปัญจมหาวิโลกนะ คือ กาลา ทวีป ประเทศ ตระกูล จนกระทั่งถึงพุทธมารดาที่พระองค์จะไปเกิด และเมื่อถึงเวลาสว่างก็ได้เข้าสู่พระครรภ์ของพุทธมารดา จนกระทั่งได้ประสูติออกมาในวันนี้ ประสูติแล้วก็ทรงดำเนินได้ ๗ ก้าว แล้วเปล่งอาสภิวาจาว่า " ในโลกนี้ เราเป็นยอด เป็นผู้เจริญที่สุด เป็นผู้ประเสริฐที่สุด การเกิดของเราเป็นครั้งสุดท้าย ภพใหม่ต่อไปไม่มี "

          พระองค์ได้รับประทานพระนามว่า เจ้าชายสิทธัตถะ และได้รับพยากรณ์ ซึ่งมี ๒ ประการ ประการแรก ถ้าดำรงตนอยู่ในเพศคฤหัสถ์ก็จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ถ้าออกผนวชก็จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และชีวิตของพระองค์ก้ดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งได้ออกผนวช แล้วก็แสวงหาหนทางพ้นทุกข์ ได้ศึกษาความรู้จากครูบาอาจารย์ที่ประชาชนยกย่องกันทั้งเมือง เรียนจนหมดภูมิรู้ภูมิธรรมของครูบาอาจารย์ ก็ยังไม่ค้นพบหนทางแห่งการบรรลุธรรมที่พระองค์ปรารถนา

          ในที่สุดก็ตัดสินพระทัยแสวงหาด้วยพระองค์เอง และได้ตรัสรอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเมื่อพระองค์ทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง แม้เนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน ถ้าไมบรรบุธรรมก็จะไม่ลุกจากที่ใจก็มาหยุดนิ่งที่อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ถูกส่วน บารมี ๓๐ ทัศ ของพระองค์ก็ได้ช่อง

          ในที่สุดก็ดำเนินจิตของพระองค์เข้าสู่ทางสายกลางภายใน จนกระทั่งบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็ได้อบรมสั่งสอนประทานโอวาทแด่พระสาวกทั้งหลาย มีปัญจวัคคีย์ เป็นต้น เรื่อยมาตามลำดับ ๔๕ พรรษา จนกระทั่งวันสุดท้ายที่พระองค์ดับขันธปรินิพพาน

           พระองค์ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานในวันเดียวกัน ณ สถานที่ภายในเดียวกัน แต่สถานที่ภายนอกนั้นแตกต่างกันไป ซึ่งเราก็ได้ศึกษาเรียนรู้กันไปแล้ว แต่สถานที่ภายในที่ไม่ค่อยได้กล่าวถึงคือ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้พระองค์ได้บรรลุในปณิธานอันยิ่งใหญ่ ตลอดระยะเวลาแห่งการสร้างบารมีมา ๒๐ อสงไขยแสนมหากัป

          ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ ลูกทุกคนที่เป็นชาวพุทธต้องทำความรู้จัก ต้องให้ความสำคัญและมองเห็นเป็นความสำคัญของตำแหน่งนี้ให้ดี เพราะเป็ฯส่ิงที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา เราเป็นชาวพุทธก็ต้องดำเนินรอยตามคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทำอย่งไร เราก็ต้องทำอย่างนัน ซึ่งก็จะมีผลคือ ท่านเป็นอย่างไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น ตามกำลังแห่งบารมีของเรา                    

           ตั้งแต่เป็นกัลยาณชนคนดีที่โลกต้องการ เป็นฌานลาภคบุคคล บุคคลผู้มีณาน ผู้มีใจตั้งมันอย่างดีแล้ว เป็นโคตรภูบุคคลผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ได้เข้าถึงพระธรรมกายหน้าตักหย่อนกว่า ๕ วานิดหน่อย แล้วก็เข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี กระทั่งบรรลุอรหัตผลไปตามลำดับ

           ให้ดีใจไว้เถิดว่า มีพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นบุคคลผู็เลิศ บุคคลที่ประเสริฐ บริสุทธิ์บริบูรณ์ตั้งแต่เบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย ตั้งแต่ตั้มมโนปณิธานที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต เมื่อครั้งยังเป็นมาณพหนุ่มแบกมารดาอยู่กลางทะเล ในท่ามกลางก็สั่งสมบุญบารมีตลอดมา จนกระทั่งเบื้องปลายได้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิณาณ ได้อบรมพร่ำสอนจนกระทั่งดับขันธปรินิพพานอย่างงดงาม ไม่มีศาสดาใดๆ ในโลก จะเทียบเท่ากับพระองค์ได้แม้เพียงนิดเดียว

          เพราะฉนั้น ลูกทุกคนทั้งเพศคฤหัสถ์และบรรพชิตต้องมีความปีติและภาคภูมิใจที่เราได้เป็นชาวพุทธ ถือว่าเป็นสายโลหิตแห่งพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่โลกต่อไป เพื่อประโยชน์สุขต่อมวลมนุษยชาติที่จะมาภายหลัง แม้เราละจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้น ต้องหวงแห่นและรักษาพระพุทธศาสนาเอาไว้ให้ดี

          เราจะซาบซึ้งพระองค์ยิ่งขึ้น ถ้าใจเราหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ พอความซาบซึ้งบังเกิดขึ้นแล้ว เวลาเรากล่าวคำบูชาวิสาขประทีป หรือเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งมีพุทธปฏิมากรเป็นสิ่งแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความรู้สึกของเราจะแตกต่างจากทุกครั้งที่เรายังไม่ค่อยเข้าใจ

          ถ้าใจเราหยุดนิ่งได้ถูกส่วนอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เราจะยิ่งเข้าใจเพิ่มขึ้น และถ้าหยุดถูกส่วน จนกระทั่งเข้าถึงดวงใสๆ มีความสุข ความบริสุทธิ์ ก็จะยิ่งเพิ่มความปีติและภาคภูมิใจในการเป็นชาวพุทธยิ่งขึ้น จนกระทั่งได้เข้าถึงพระธรรมกายในตัว ความซาบซึ้งจะเต็มเนื้อ เต็มตัว เต็มใจ เต็มชีวิต จิตวิญญาณ และจะถูกถ่ายทอดไปยังลูกยังหลานให้รักษาพระพุทธศาสนาสืบต่อไป แล้วก็จะได้เป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล