ฉบับที่ ๑๔๖ เดือนธันวาคม ๒๕๕๗

แลใบลาน ก่อนกาลล่วงเลย

บทความน่าอ่าน     
เรื่อง : Tipitaka (DTP)

 

 


แลใบลาน ก่อนกาลล่วงเลย

 


    สรรพสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา บางสิ่งที่เคยมีคุณค่า               ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปมีสิ่งใหม่เข้ามาแทนที่ ของเดิมที่เคยมีคุณค่าก็อาจ  กลายเป็นเพียงความทรงจำในอดีต ทั้งที่ความจริงแล้วคุณค่าและความสำคัญของสิ่งนั้นไม่ได้ลดลงเลย เพียงแต่ถูกบดบังจนทำให้คุณค่าภายในที่แท้จริงถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย คัมภีร์ใบลานแม้ศักดิ์สิทธิ์สูงค่าก็ไม่อาจพ้นจากสภาวธรรมนี้ไปได้  

 

    นับแต่ราชธานีสุโขทัยผ่านสมัยอยุธยามาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น คัมภีร์ใบลานมีความสำคัญมากในการศึกษาพระธรรมวินัยของพระภิกษุสามเณร วัดเป็นศูนย์กลาง          การศึกษา เป็นสำนักเรียนของกุลบุตร โดยมีพระภิกษุผู้เชี่ยวชาญภาษาบาลีเป็นครูผู้สอน   ดังที่เมอร์ซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ ราชทูตคนหนึ่งในคณะทูตฝรั่งเศสของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔     ซึ่งเข้ามาเจริญพระราชไมตรีในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้กล่าวไว้ว่า                “พระสอนหนังสือให้แก่เยาวชน ดังที่ข้าพเจ้าได้เล่าแล้ว และท่านอธิบายคำสั่งสอน     แก่ราษฎรตามที่เขียนไว้ในหนังสือบาลี”  

 


    กาลเวลาล่วงไป... ระบบการศึกษาที่พัฒนาไปได้เปลี่ยนศูนย์กลางการศึกษาจากวัดมาเป็นโรงเรียน หอไตรที่แต่เดิมเคยเป็นห้องสมุดของอารามกลายสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์ทางพระพุทธศาสนา ประกอบกับการเล่าเรียนเขียนอ่านหนังสือเปลี่ยนมาใช้ตัวอักษรไทยแทนอักษรขอมและอักษรธรรมที่เคยใช้จารบนแผ่นลานในอดีต ส่งผลให้คัมภีร์ใบลานที่เคยเป็นแหล่งความรู้ทางสรรพศาสตร์  ของพระภิกษุสงฆ์ถูกลดบทบาทไปโดยปริยาย คัมภีร์     ใบลานหลายฉบับจึงถูกทอดทิ้ง เสื่อมสลาย และสูญหายไป

 


    แม้วัดหลายแห่งจะตระหนักถึงคุณค่าและเก็บคัมภีร์ใบลานไว้อย่างดี แต่การดูแลที่ไม่ถูกวิธีก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คัมภีร์ใบลานเสื่อมสลายได้เช่นกัน เพราะใบลานเป็นอินทรียวัตถุจากพืช ประกอบด้วยส่วนผิวนอกที่เป็นเสมือน “หนังกำพร้า” มีลักษณะเรียบ มัน ไม่ซับน้ำ และส่วนเนื้อในมีน้ำหล่อเลี้ยงซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำมันธรรมชาติ ทำให้เนื้อเยื่อของใบลานมีคุณสมบัติเหนียวและยืดหยุ่น แต่เมื่อใบลานเก่าหรือมีอายุมากขึ้น น้ำมันตามธรรมชาติที่เคยมีอยู่ในเนื้อลานจะระเหยไป ทำให้ใบลานกรอบ แตกหักง่าย ดังนั้นยิ่งเก็บคัมภีร์ใบลานไว้ในหีบธรรมหรือกล่องใบลานนานนับปี โดยไม่เปิดออก       ให้อากาศถ่ายเท เนื้อลานจะถูกอบและสูญเสียน้ำมันในตัว   เร็วขึ้น สุดท้ายแผ่นลานจะจับตัวกันเป็นก้อนแข็งเหมือน  ถูกไฟไหม้  

 

คัมภีร์ใบลานที่เก็บไว้นาน แผ่นลานจะเกาะติดกันแน่นเหมือนท่อนไม้ แล้วค่อย ๆ แห้งกรอบมีสีดำลงเรื่อย ๆ จนดูเหมือนใบลานถูกไฟไหม้ 

 

    วัดบางแห่งนำคัมภีร์ใบลานเก็บไว้อย่างมิดชิดโดยไม่แพร่งพรายให้ผู้อื่นทราบ ด้วยเกรงว่าสมบัติพระศาสนาจะสูญหาย เช่น เก็บไว้ในตู้ปิดล็อกกุญแจบ้าง นำไปเก็บไว้ใต้หลังคาหรือเพดานโบสถ์บ้าง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสม เพราะเข้าไปดูแลทำความสะอาดได้ยาก เมื่อทิ้งไว้โดยไม่เข้าไปตรวจสภาพเป็นระยะเวลานาน คัมภีร์ที่สู้อุตส่าห์เก็บไว้อาจถูกทำลายด้วยปลวกและแมลงที่กัดกินใบลานเป็นอาหาร และหากหลังคาหรือเพดานรั่ว แสงแดดและความร้อนจาก ดวงอาทิตย์จะทำให้คัมภีร์ใบลานแห้งกรอบ ความชื้นจากน้ำฝนที่ซึมเข้ามาจะทำให้คัมภีร์ใบลานเปียกชื้นและขึ้นราได้ การเก็บรักษาคัมภีร์ใบลานในลักษณะนี้กลับเป็นตัวเร่งให้ใบลานเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้นไปอีก 

 

แผ่นลานที่โดนความชื้นจะโค้งงอ ควรผึ่งให้แห้งในที่ร่ม
ไม่ให้โดนแสงแดด เพื่อป้องกันการขึ้นรา

 

แผ่นลานเดาะ แตกร้าว ฉีกขาด พรุน ควรซ่อมเสริม
ด้วยวิธีการที่เหมาะสมเพื่อต่อเติมส่วนที่ขาดหาย


    การเสื่อมสลายและการทำลายยังมีปัจจัยที่สำคัญอีกประการคือ มนุษย์เรานั่นเอง ความรู้คุณค่าและการไม่เห็นคุณค่า แม้ดูเป็นเหตุผลที่ขัดแย้ง แต่ต่างก็นำไปสู่การทำลายคัมภีร์ใบลานด้วยกันทั้งสิ้น เพราะผู้ที่เห็นค่ากลับมองคัมภีร์  ใบลานในเชิงธุรกิจหรือเครื่องรางของขลัง นำแผ่นลานมาบดย่อยทำพระผงหรือเครื่องรางของขลังแจกจ่ายให้สาธุชนนำไปกราบไหว้บูชาบ้าง  เห็นคัมภีร์ใบลานเป็นของเก่าน่าสะสมบ้าง จึงเสาะหาคัมภีร์ใบลานที่มีอายุเก่าแก่และอยู่ในสภาพดีจากตลาดค้า ของเก่า ซื้อหามาครอบครองเป็นสมบัติส่วนตัว โดยที่บุคคลผู้ได้มาไม่ได้เข้าใจเนื้อความใด ๆ ในใบลานเลยแม้แต่น้อย ความรู้ที่มีอยู่ในคัมภีร์ใบลานจึงไม่ได้นำมาศึกษาค้นคว้า สมบัติ  พระศาสนาจึงเปลี่ยนไปเป็นแค่สมบัติส่วนตัวของนักสะสมของเก่าเท่านั้นเอง

 


    ส่วนคนที่มองไม่เห็นค่า ความเคารพบูชาคัมภีร์ใบลานจึงไม่หลงเหลืออยู่ ทิ้งคัมภีร์     ใบลานไปตามยถากรรม ปล่อยทิ้งให้กองสุมไว้โดยไม่เหลียวแล กลายเป็นที่อยู่ของแมลง นก หนู สุดท้ายก็เก็บทิ้ง เผาให้มอดไหม้เป็นเศษเถ้าถ่าน โดยหารู้ไม่ว่าได้ทำลายมรดกธรรมล้ำค่าไปอย่างเรียกคืนกลับมาไม่ได้

 

 

    แม้วันนี้วิถีชีวิตของพระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจะไม่ได้เกี่ยวพันกับคัมภีร์ใบลานเหมือนก่อน และคัมภีร์    ใบลานก็ค่อย ๆ เสื่อมสลายและสูญหายไป บทบาทของ    ใบลานก็เปลี่ยนจากตำราเรียนเป็นของเก่าเก็บล้ำค่า ไม่ได้นำเนื้อความที่ถูกบันทึกไว้มาศึกษาและใช้ให้เป็นประโยชน์   เลยก็ตาม แต่คุณค่าของเนื้อความที่ปรากฏบนใบลานยังไม่จางหาย ยังเป็นร่องรอยความเจริญของพระพุทธศาสนา เป็นมรดกธรรมล้ำค่าที่เราควรเหลียวแลและมองย้อนไปถึงคุณค่าเดิมของคัมภีร์ใบลานที่แท้จริง ที่มิใช่เป็นเพียงของโบราณ  หายาก มิใช่ของสะสมมีราคา และมิใช่เอกสารเก่าเก็บล้าหลัง ด้วยเหตุนี้จึงควรที่เราจะช่วยกันฟื้นคืนคุณค่าของใบลาน ที่แท้จริง ด้วยการเก็บรักษาอย่างถูกวิธี ให้สมกับเป็น    “ธรรมเจดีย์” อันศักดิ์สิทธิ์ ที่จารึกถ้อยพุทธธรรมของ      องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และนำมรดกธรรมนั้นมาใช้ประโยชน์ให้ได้อย่างเต็มที่ต่อไป

 

 


 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล