ฉบับที่ ๑๖๔ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๙

ข้อคิดรอบตัว : จุดเริ่มต้นบุญที่ยิ่งใหญ่

ข้อคิดรอบตัว
เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ) จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC


จุดเริ่มต้นบุญที่ยิ่งใหญ่

ข้อคิดรอบตัว เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ) จากรายการข้อคิดรอบตัว ออกอากาศทางช่อง DMC   จุดเริ่มต้นบุญที่ยิ่งใหญ่
 

ทำไมลูกผู้ชายต้องบวชและทำไมต้องกำหนดว่าอายุ ๒๐ ปีขึ้นไปถึงจะบวชได้?

      เหตุที่ต้องบวชอายุ ๒๐ ปีขึ้นไป เพราะว่าเป็นวัยที่เป็นผู้ใหญ่พอสมควร เรื่องนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผ้ผู้กำหนดส่วนที่ถามว่า ทำไมผู้ชายไทยต้องบวช จริง ๆ แล้วการบวชเป็นประโยชน์มาก เป็นการให้เราได้ฝึกฝนอบรมตนเองอยู่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ในภาวะที่พิเศษ และเป็นการยกตัวเราจากผู้นับถือพระรัตนตรัยขึ้นไปเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนกระทั่งเข้าจำวัด สิ่งที่คลุมตัวเราอยู่ก็คือ ผ้าเหลือง เราเห็นตลอดว่า เราเป็นพระแล้ว เพราะฉะนั้นเป็นการฝึกคุณธรรม ฝึกจิตใจที่เข้มข้นเป็นพิเศษ ต่างจากการฝึกโดยทั่ว ๆ ไป

       นอกจากนี้ เราจะได้เรียนรู้ว่า ความสุขที่เกิดขึ้นจากความสงบใจเป็นอย่างไร ศัพท์พระเรียกว่า “นิรามิสสุข” แปลว่า สุขที่ไม่อิงวัตถุ เป็นพระฉันอาหารวันละ ๒ มื้อ นั่งสมาธิสวดมนต์ เกิดความสบายใจ ความสุขที่ไม่ได้
อิงวัตถุเกิดจากความสงบใจ มันอิ่มกว่าประณีตกว่าความสุขที่อิงวัตถุ แม้จะลาสิกขาไปก็ตาม ใจจะไม่ติดวัตถุมากจนเกินไป เพราะเคยสัมผัสแล้วว่า ความสุขจริง ๆ คือสุขใจนั้นเหนือกว่าสุขจากวัตถุเยอะ แล้วเราจะแยกออกระหว่างคำว่า need คือ ความจำเป็น กับ want คือ ความต้องการ แตกต่างกันอย่างไรสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ คือ ปัจจัยสี่ อย่างอื่นแค่ของแถมและส่วนเกิน บวชแล้วได้ตรงนี้กลับไปก็คุ้มสุดคุ้มแล้ว แต่ในความเป็นจริงการบวชได้อะไรมากกว่านี้เยอะ ได้ศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งปฏิบัติและปริยัติเอาไปใช้ในการดำเนินชีวิต ชีวิตจะมีค่ามาก

    โบราณเรียกคนที่บวชแล้วว่าทิด ทิด แปลว่าสุก กิเลสในตัวมันสุก แม้ยังไม่ถึงกับหมดไป แต่อาศัยการบำเพ็ญตบะในเพศสมณะย่างกิเลส ทั้งโลภ โกรธ หลง จนสุก ฤทธิ์อ่อนไปเยอะ โบราณถ้าใครยังไม่บวชไปขอลูกเขาเขาไม่ยกให้ เขายังไม่ไว้ใจว่าจะพาลูกเขาไปดีได้หรือป่าว ต้องเคยบวชเรียนมาก่อนถึงจะยกให้ เราเองบวชเรียนเป็นประโยชน์ที่สุดเป็นธรรมเนียมไทยแต่โบราณมา ให้ช่วยกันรักษาไว้ต่อไปเพื่อตัวของเราเอง เพื่อสังคมประเทศชาติ และเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา


ถ้ายังไม่พร้อมแล้วรอจนพร้อมถึงมาบวช ไม่ทราบว่าผลบุญจะแตกต่างกันไหม?

        ถ้ารอให้พร้อมอาจไม่พร้อมตลอดชาติก็ได้ เดี๋ยวก็ติดนั่นติดนี่ แต่ถ้าตัดใจได้เมื่อไรพร้อมทันที  พระ-สัมมาสัมพุทธเจ้าตอนเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ออกบวชวันที่เจ้าชายราหุลประสูติถ้าเป็นคนทั่วไปบอกว่าลูกเพิ่งเกิดไม่พร้อมอย่างยิ่ง มีภาระเยอะแยะ แต่พระองค์ตัดสินใจออกบวชวันนั้น ตอนที่เห็นพระโอรสเกิดความรักขึ้นท่วมใจ แต่ตัดใจ แล้วสุดท้ายกลับมาโปรดพระโอรสจนเป็นสามเณรอรหันต์ แม้พระนางพิมพาก็เป็นพระอรหันตเถรี และโปรดหมู่ญาติทั้งหมด เพราะเห็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่า

       เราเองแค่บวชช่วงสั้นถือว่าเรื่องเล็กตัดใจได้เมื่อไรพร้อมเมื่อนั้น ถ้าไม่ตัดใจก็ไม่พร้อม แล้วสุดท้ายตัดใจหรือเปล่า เอาจริงหรือเปล่า ใจสู้หรือเปล่าเท่านั้นเอง

 

อยากบวช ๓ เดือน แต่บริษัทให้บวชแค่ ๑๕ วัน แตกต่างกันมากไหม?

       เหมือนกับเราไปเรียนหนังสือ ๑๕ วัน กับเรียน ๓ เดือน แน่นอนย่อมมีความแตกต่างถ้าบวช ๓ เดือน ก็จะได้ผลของการบวชเต็มที่จะให้ดีควรจะบวช ๔ เดือนด้วย ไปเตรียมตัวก่อนเข้าพรรษา ๑๕-๒๐ วัน แล้วบวชเข้าพรรษา ๓ เดือน ออกพรรษาแล้วอยู่รับกฐินก่อนได้เดินธุดงค์ยิ่งดี รวมทั้งหมดเป็น ๔ เดือนอย่างนี้บวชครบหลักสูตร ได้ผลมากที่สุด ถ้าบริษัทให้ลาได้แค่ ๑๕ วัน ลองคุยกับหัวหน้าว่าขอเอาวันพักร้อนกับวันลาบวกเข้าไปได้ไหมอย่างน้อยขอให้ได้สักเดือนหนึ่ง แค่ ๑๕ วันสั้นเกินไป และระหว่างบวชเรามีเวลาน้อย ฉะนั้นต้องฝึกอย่างเข้มข้นจริง ๆ แล้วขอให้เลือกบวชที่วัดที่มีการอบรมอย่างเป็นระบบด้วยอย่างนี้เวลาแต่ละวันของเราจะได้รับการฝึกฝนได้เรียนรู้พระพุทธศาสนา ทั้งปริยัติ ปฏิบัติและทฤษฎี อย่างเต็มที่

 

ถ้ามีลูกจ้างมาขอบวช ๓ เดือน นายจ้างควรทำอย่างไร?

      ควรสนับสนุนอย่างยิ่ง เพราะจะมีคนมาฝึกลูกจ้างของเราให้เป็นคนดี มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น โดยที่เราไม่ต้องออกเงินจะหาอย่างนี้ได้ที่ไหน ธรรมะของพระพุทธเจ้าถ้ามีการศึกษาเรียนรู้จริง ๆ จะให้ผลดีกับทั้งตัวเองและงานการที่ทำ อาตมาขอเปรียบว่าไม่ด้อยกว่าโรงเรียนสอนธุรกิจที่เรียกว่า Havard Business School เลย ฉะนั้นให้เขามาบวชศึกษาธรรมะในพระพุทธศาสนาอย่างเข้มข้นตลอด ๓ เดือน แล้วเราจะได้ลูกน้องมือดีกลับมา ผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ

     มีหน่วยงานจำนวนมากเห็นความสำคัญเรื่องนี้ ตอนที่เราจัดบวชพระแสนรูป ปรากฏว่า วันหนึ่งได้รับจดหมายจากบริษัทที่ดูแล 7-Eleven เขาบอกว่า ถ้ามีใครสมัครใจก็ขอรับไปทำงานซีพี ไม่จำกัดวุฒิ จบประถมถึงปริญญาเอกรับหมดเลย เขาต้องการคนดีคนซื่อสัตย์ เขามั่นใจว่า คนที่ตั้งใจมาบวชอย่างนี้ โดยภาพรวมอย่างไรก็ดีกว่าคนโดยทั่วไปมาก แล้วไม่ใช่แค่สถานที่ทำงานอย่างเดียว สถาบันราชภัฏสวนดุสิตมีนโยบายออกมาแล้วว่า นักเรียนจบม.ปลายคนไหนได้บวชเรียน แล้วฝึกตัวเองเป็นคนดี มีมาตรฐานความดีถึงระดับนี้ยินดีรับเข้าเรียนเลย เพราะว่าคนที่มีคุณธรรมมีศีลธรรมเป็นคนมีคุณค่าอนาคตจะสร้างชื่อเสียงให้สถาบันและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น

      ขอฝากถึงเจ้าของกิจการทั้งหลาย ถ้าลูกจ้างของเราต้องการบวช รีบสนับสนุนเลย ๓-๔ เดือนให้ไปเลย ระหว่างนั้นให้เงินเดือนด้วย ครอบครัวจะได้ไม่เป็นภาระ ทุ่มเทบวชเต็มที่ เสมือนหนึ่งเราส่งเขาไปฝึกอบรมหลักสูตรเข้มข้นโดยที่บริษัทไม่ต้องจ่ายค่าอบรม โอกาสดีอย่างนี้มีที่ไหน ผู้บวชได้นายจ้างได้ ครอบครัวได้ ทุกคนได้หมดเลย

 

ถ้าในฐานะผู้หญิง แฟนจะไปบวชควรจะทำอย่างไร?

        ถ้าแฟนเราไปเรียนต่อเมืองนอก หลักสูตรสั้น ๆ ๓ เดือน กลับมามีอนาคตที่ก้าวหน้าขึ้นเราชอบไหม ชอบ แล้วถ้าแฟนมีกิ๊ก ติดยา ติดการพนัน เที่ยวกลางคืน ชอบไหม การที่พ่อบ้านไปบวช ๓ เดือน ก็เหมือนกับไปฝึกอบรมความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตต่อการดูแลครอบครัว กลับมาเป็นคนดี เป็นเสาหลักของครอบครัว แล้วก็มีความก้าวหน้าในอาชีพด้วย เงินทองก็จะไม่รั่วไหลไปกับอบายมุข แล้วก็รักเดียวใจเดียว อย่างนี้คุ้มไหมอาตมาว่าไม่ใช่เรื่องที่แม่บ้านจะมาห้ามพ่อบ้านไม่ให้บวช ที่จริงต้องหาช่องทางเชียร์ให้ไปบวชให้ได้ เพราะนี้คือการสร้างหลักประกันชีวิตของเราที่ดีที่สุด เพราะพ่อบ้านจะเป็นคนดี มีศีลธรรม รักครอบครัว รับผิดชอบ

      การบวชยิ่งกว่าไปเสริมวุฒิที่เมืองนอกเสียอีก คุณค่ามหาศาล เราจะได้คนดีมาเป็นเสาหลักของบ้าน เพราะฉะนั้นแม่บ้านทั้งหลายรีบเชียร์พ่อบ้านไปบวชกันเยอะ ๆ เลย

 

ปกติถือศีล ๕ ก็ยากแล้ว ถ้าไปบวชต้องถือศีล ๒๒๗ ข้อ จะทำได้จริงหรือ?

     ไม่ต้องกังวลเลย ในครั้งพุทธกาลมีภิกษุรูปหนึ่งเป็นห่วงว่าศีลเยอะเหลือเกิน เกรงจะรักษาไม่ไหว สึกดีกว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถามว่า รักษาข้อเดียวไหวไหม ภิกษุกราบทูลว่า ไหวพระเจ้าข้า พระพุทธเจ้าบอกให้รักษาใจของเธอเท่านั้นเอง พอรักษาใจแล้ว เรื่องอื่นง่ายไปหมด ศีล ๒๒๗ ข้อรักษาได้โดยปริยาย

     เวลาบวช พระอาจารย์จะค่อย ๆ แนะนำวิธีปฏิบัติให้เราทำอย่างสบาย ๆ เป็นธรรมชาติไม่ต้องกังวลว่าศีลมีเยอะ ต้องระวังข้อนั้นข้อนี้เดี๋ยวจะได้หน้าลืมหลัง ให้รักษาใจให้นิ่ง ๆอย่างเดียว ศีลจะบริบูรณ์ตามมา แล้วธรรมะก็สว่างไสว

 

การบวชเป็นการทดแทนบุญคุณบิดามารดา ถ้าเราไม่บวช ทำบุญอย่างอื่นทดแทนได้หรือเปล่า?

     การทำความดีอื่น ๆ ทดแทนไม่เหมือนกัน เพราะว่าถ้าเราบวชวิถีชีวิตเราเปลี่ยนหมดเลย เสมือนตายจากโลกนี้แล้วไปเกิดใหม่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ อยู่ในธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อายุยังนับหนึ่งใหม่ในวันบวชเลย ถือว่าเกิดใหม่ คนอายุ ๘๐ ปีมาบวช วันนี้ ถ้าหากเจอคนอายุ ๒๐ ปี ที่บวชเมื่อวานก็ต้องกราบคนอายุ ๒๐ ปีที่เพิ่งบวชก่อน เพราะอายุเก่าในทางโลกไม่นับเลย ฉะนั้นการบวชเป็นการให้ทั้งชีวิตทั้งกายและใจ ปฏิบัติฝกฝนตนเองด้วยธรรมะของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจังบุญที่เกิดขึ้นมหาศาล ผู้บวชได้บุญ ๖๔ กัป พ่อแม่ได้ ๓๒ กัป ญาติพี่น้องผู้สนับสนุนได้ ๑๖ กัป

       ๑ กัป ท่านเปรียบว่า มีภูเขาหินทรงลูกบาศก์กว้าง ๑๖ กม. ยาว ๑๖ กม. สูง ๑๖กม. ทุก ๑๐๐ ปี มีเทวดาเอาผ้าทิพย์ที่บางเบาเหมือนควันไฟมาลูบเบา ๆ ครั้งหนึ่ง อีก ๑๐๐ ปี มาลูบอีกครั้งหนึ่ง ลูบจนกระทั่งภูเขาลูกนี้ค่อย ๆ สึกลงจนถึงแผ่นดิน นานมาก กัปหนึ่งนานกว่านั้นอีก แล้วได้บุญอย่างนี้ ๖๔ กัป พ่อแม่ได้ตั้ง ๓๒ กัป หมายถึง ตลอด ๖๔ กัป บุญจากการบวชจะคุ้มตัวเรา เวลาจะทำอะไรก็เหมือนมีพลังพิเศษมาหนุนให้สำเร็จ แล้วขณะเดียวกันถ้าไปเผลอทำอะไรไม่ดีเข้า เพราะกิเลสเรายังไม่หมด ถลำไปได้พักเดียวบุญจะมาเตือนไม่ให้ทำ เลิกดีกว่า บางคนไปเกเรไปพักเดียวเลิกเลย แล้วกลับมาเป็นคนดีใหม่บุญบวชเก่ามาเตือน กระตุกกลับ แต่บางคนไปแล้วกู่ไม่กลับ เพราะขาดบุญจากการบวชเราบวชปั๊บบุญบวชรักษาตัวเรา คุ้มครองตัวเรา ๖๔ กัป คุ้มไหม ต้องบอกว่าสุดคุ้ม เป็นบุญที่บุญอย่างอื่นเปรียบไม่ได้ ถ้ามีโอกาสรีบบวชเลย

 

ชวนเพื่อนนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ไปบวชแต่เขาปฏิเสธ บอกว่าต้องการไปสมัครงาน มีคำแนะนำอย่างไรบ้าง?

    ถ้าเราเห็นคนที่จบแล้วมีโอกาสไปเรียนเสริมความรู้ที่ Havard Business School เป็นเวลา ๓ เดือน ๖ เดือน แล้วเขาบอกไม่เอา เสียเวลาทำงาน เสียโอกาสหางาน เราว่าแปลกไหมแปลกมากเลย เพราะว่าถ้าไปแล้วคุณค่าเขาจะเพิ่มขึ้น หรือหากคนจบปริญญาตรีมีโอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศ เขาบอกไม่ไปเดี๋ยวเสียเวลาทำงาน มันไม่ใช่โดยสิ้นเชิง เพราะการไปเสริมความรู้อย่างนั้นเป็นการเสริมคุณค่า เสริมเครดิตตัวเอง ทำให้มีโอกาสได้งานดี ๆ ความรู้ความสามารถก็เพิ่มขึ้น

    การมาบวชอย่างนี้ บริษัทใหญ่ ๆ เขายังเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ เขาบอกว่า คนเก่งหาไม่ยาก แต่คนดีคนซื่อสัตย์ไว้ใจได้หายากมากการบวชของเราทำให้เราได้ตกผลึกมุมมองความคิดด้านศีลธรรมให้สมบูรณ์ขึ้น คนเราต้องมีความรู้คู่ศีลธรรมเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้เรื่องร้าย ๆ เข้ามาสู่ชีวิตเรา ให้เรามีหลักในการดำเนินชีวิต เป็นผู้หลักผู้ใหญ่จริง ๆ เป็นผู้นำครอบครัวได้จริง ๆ ทำงานแล้วจะได้มีหลักใจไม่พลาดไปในทางที่เสียหาย แต่ก้าวไปในทางที่สว่างตลอดได้จริง ๆ บวชแล้วเพิ่มคุณค่าและความรู้ความสามารถให้ตัวเอง ทำให้โอกาสในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ดังนั้นบอกเพื่อนเลยว่า ถ้าอยากได้งานดี ๆ อยากให้ชีวิตก้าวหน้าและมีความสุขความเจริญให้รีบมาบวชเถิด

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล