ฉบับที่ ๑๖๕ เดือนกรกฏาคม ๒๕๕๙

ถ้าชาวพุทธไม่ช่วย แล้วใครจะช่วยพระภาคใต้

เรื่องจากปก
เรื่อง : นักข่าวใจสว่างนราธิวาส

ถ้าชาวพุทธไม่ช่วย แล้วใครจะช่วยพระภาคใต้
มูลนิธิธรรมกายโดยพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
ส่งแรงใจและอาหารแห้งน้อมถวายแด่พุทธบุตร
ผู้หยัดสู้อยู่ใน ๔ จังหวัดภาคใต้มานานกว่า ๑๒ ปี

   จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นใน ๔ จังหวัดภาคใต้ (๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้และ ๔ อำเภอของจังหวัดสงขลา) เป็นเวลากว่า ๑๒ ปี ส่งผลให้การใช้ชีวิตของคนในพื้นที่เปลี่ยนไป เพราะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นกับตัวเองและครอบครัว ซึ่งพวกเขาก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเหตุการณ์จะเกิดที่ไหน เมื่อไรอย่างไร ทำให้ชาวบ้าน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ได้รับผลกระทบ พระภิกษุ-สามเณรก็ไม่สามารถทำกิจของท่านได้เหมือนเดิมไม่สามารถบิณฑบาตเหมือนแต่ก่อนได้

 

    จากเหตุการณ์นี้ทำให้ภัตตาหารที่พระภิกษุสามเณรจะนำมาขบฉันในทุก ๆ วันหายากยิ่งขึ้น ญาติโยม สาธุชน ก็ไม่กล้าที่จะไปทำบุญวัดกลายเป็นค่ายทหารย่อม ๆ เพราะทหารต้องมาอยู่ดูแลเฝ้าวัด บางวัดเหลือเพียงเจ้าอาวาสรูปเดียว กิจนิมนต์ก็ไม่มี ปัจจัยที่จะบำรุงวัดหรือจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ก็ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดผลกระทบต่อวัด ต่อพระภิกษุใน ๔ จังหวัดภาคใต้เป็นอันมาก


    แต่ในเรื่องร้ายก็ย่อมมีเรื่องดีอยู่เสมอจากเหตุการณ์นี้ทำให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างมากมาย และมีหน่วยงานหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือมาตลอดเป็นเวลากว่า ๑๒ ปีแล้ว คือวัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกาย ที่มอบข้าวสารอาหารแห้งจากโครงการตักบาตรพระ ๒ ล้านรูป ที่จัดขึ้นในทุก ๆ จังหวัดของประเทศไทย


        เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกายก็มอบข้าวสารอาหารแห้ง จำนวนกว่า ๓๐ ตัน โดยพระภาวนาธรรมวิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นผู้แทนในการมอบ และคณะสงฆ์จากจังหวัดยะลาและนราธิวาสเป็นผู้แทนในการรับมอบข้าวสารอาหารแห้งในครั้งนี้ ณ สำนักงานใหญ่มูลนิธิธรรมกาย


    จากนั้น ข้าวสารอาหารแห้งได้ลำเลียงโดยรถสิบล้อ เริ่มจากวัดพระธรรมกายไปถึงศูนย์อบรมเยาวชนเมืองนราธิวาส (บ้านร่มเย็น ) โดยใช้เวลาเดินทางกว่า ๑๘ ชั่วโมง ผ่านระยะทางกว่า ๑,๒๐๐ กิโลเมตร และผ่านด่านทหารกว่า ๓๐ ด่าน ก่อนจะถึงจุดหมาย

     เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ของวันที่ ๖ มิถุนายนรถสิบล้อที่มีข้าวสารอาหารแห้งเดินทางไปถึงศูนย์อบรมเยาวชนเมืองนราธิวาส (บ้านร่มเย็น)อย่างปลอดภัย และได้กำลังจากพี่ ๆ ทหารที่รักษาความสงบสุขอยู่ในพื้นที่มาช่วยขนข้าวสารอาหารแห้งลงจากรถ โดยมีทีมงานพระอาจารย์ ญาติโยม สาธุชน รวมถึงบรรดาทหารทั้งหลายช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อทำพิธีมอบข้าวสารอาหารแห้งในวันรุ่งขึ้น


     และแล้ววันสำคัญที่ทุกคนเฝ้ารอก็มาถึงพิธีมอบข้าวสารอาหารแห้งจากโครงการตักบาตรพระ ๒ ล้านรูป ๗๗ จังหวัดทุกวัดทั่วไทย จัดขึ้นโดยมีท่านประธานสงฆ์คือ พระครูพิพัฒนบุญเขต เจ้าคณะอำเภอเมืองนราธิวาส เจ้าอาวาสวัดเขานาคา ประธานฝ่ายฆราวาส คือ คุณวีรพัฒน์ แจ้งศิริ


    พิธีในครั้งนี้มีวัดและสำนักสงฆ์มารับข้าวสารอาหารแห้งกว่า ๑๐ แห่ง หน่วยงานราชการ โรงเรียน มารับข้าวสารอาหารแห้งกว่า ๑๐ หน่วยงาน รวมถึงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสก็มารับข้าวสารอาหารแห้งกว่า ๑๐๐ คน


   บรรยากาศในงานวันนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและอิ่มเอิบใจ แม้ว่าแต่ละครอบครัวแต่ละหน่วยงาน ได้รับสิ่งของไปไม่มาก แต่ก็รับไปด้วยความเต็มใจ และปลื้มใจที่พี่น้องชาวไทยพุทธภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศไทยยังเห็นความสำคัญ เห็นความเดือนร้อนของผู้อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ และไม่ทอดทิ้ง ไม่ดูดายปล่อยให้โดดเดี่ยว แต่ยังคงส่งสิ่งของและกำลังใจไปมอบให้เป็นประจำ 


    ข้าวสารอาหารแห้งที่นำไปถวายคณะสงฆ์และมอบให้ทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชนในพื้นที่มีความสำคัญเพียงไรนั้น ลองมาดูความเห็นจากพระรูปหนึ่ง คือ พระกิตติชัย กิตฺติสาโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขมาราม ซึ่งท่านเปิดใจว่า “พระที่อยู่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะวัดพระธรรมกายส่งความช่วยเหลือไปให้ทุกเดือน ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร อาหารแห้งหรือจตุปัจจัย รวมถึงยังมีพิธีถวายสังฆทาน ๓๒๓ วัด ที่วัดพระธรรมกายจัดขึ้นทุกเดือนเพื่อให้กำลังใจในการหยัดสู้อยู่ในพื้นที่ จึงขอขอบคุณหลวงพ่อธัมมชโยมากที่ไม่ทิ้งกันยังส่งความช่วยเหลือมาตลอด”

   ในเช้าวันรุ่งขึ้น ทีมงานมอบข้าวสารอาหารแห้งเดินทางต่อไปยังอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เพื่อนำข้าวสารอาหารแห้งไปมอบแด่คณะสงฆ์และผู้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งครั้งนี้ทำพิธีมอบที่วัดสุคิรินประชาราม อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส โดยมีชาวบ้านจากชุมชนต่าง ๆ ในอำเภอสุคิรินมารับข้าวสารอาหารแห้งกว่า ๑๐๐ คน นอกจากนี้ ยังนำข้าวสารอาหารแห้งส่วนหนึ่งไปมอบให้วัดต่าง ๆ ที่อยู่ในอำเภอสุคิริน ซึ่งช่วยให้บางวัดที่ออกไปบิณฑบาตไม่ได้นำข้าวสารอาหารแห้งเหล่านี้มาทำเป็นภัตตาหาร


      ในโอกาสนี้ เจ้าอาวาสแต่ละรูปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ขอขอบคุณหลวงพ่อธัมมชโยที่นำข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้ และจัดพิธีถวายสังฆทาน ๓๒๓ วัดอยู่เป็นประจำทุกเดือนสิ่งเหล่านี้เป็นกำลังใจให้พวกเราหยัดสู้ยืนอยู่ในพื้นที่ต่อไป”

    หลังจากนี้ ทีมงานนำข้าวสารอาหารแห้งไปมอบตามค่ายทหารพราน โรงเรียนและบ้านของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่อันตรายครั้งนี้มีทหารพรานท่านหนึ่งที่รักษาพื้นที่เล่าให้ฟังว่า “บริเวณที่พวกเราอยู่นี้ คือ บริเวณที่มีเหตุการณ์ยิงชาวพุทธตาย ๔ ศพ และเผาทันทีเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจชาวพุทธมาก ถ้าพวกเราไม่ได้มารักษาพื้นที่ตรงนี้ ก็อาจจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอขอบคุณทีมงานที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจ รวมถึงยังนำข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้ ขอขอบพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยที่เป็นห่วงชาวพุทธใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ขอขอบคุณครับ พวกผมจะขอยืนหยัดต่อสู้กับเหตุการณ์ความไม่สงบต่อไป”

     เป็นเวลากว่า ๑๒ ปีแล้วที่วัดพระธรรมกายเป็นหน่วยงานหลักที่มอบความช่วยเหลือให้อย่างต่อเนื่อง โดยให้ความช่วยเหลือวัดในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ หน่วยงานราชการ โรงเรียนและญาติโยมสาธุชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ซึ่งทางวัดพระธรรมกายก็ตั้งใจที่จะให้ความช่วยเหลือต่อไปจนกว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จะหายไป ทั้งนี้โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากพุทธบริษัท ๔ ดังโอวาทของพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ว่า “พุทธบริษัท ๔ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว”

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล