อยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๕

ผู้ให้... ย่อมได้รับ

ผู้ให้... ย่อมได้รับ

เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา
หลวงพ่อธัมมชโย
วันอาทิตย์ที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๔

 

          ในสมัยพุทธกาล พระราชธิดาของพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงพระนามว่า สุมนา เมื่อทรง เจริญพระชนมได้ ๗ ชันษา ทรงทอดพระเนตรเห็นสิ่งที่เป็นอจินไตยเกิดขึ้น แต่ได้เก็บไว้เป็นความลับไม่กล้าบอกใครเพราะเกรงว่าเขาจะไม่เชื่อ จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อมหาวิหารเชตวัน สร้างเลร็จใหม่ๆ พระเจ้าปเสนทิโกศลรับสั่งให้พระราชธิดาไปรับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

          หลังจากที่ถวายบังคมพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ทรงบูชาด้วยของหอมและดอกไม้ แล้วได้ประทับนั่งในที่อันควร แล้วจึงได้กราบทูลถามถึงเรื่องที่ทรงสงสัยว่า พระราชธิดา สุมนาทรงสดับเสียงสนทนาของทารกเกิดใหม่ ๒ คน คนหนึ่งนอนอยู่ในเปลทอง อีกคน หนึ่งนอนที่พื้นใกล้ๆ กัน ทารกที่นอนในเปลทองเป็นพระอนุชาของพระองค์ ได้ตรัสกับ ทารกที่นอนบนพื้นซึ่งเป็นลูกของหญิงรับใช้ว่า "เห็นไหม ท่านไม่เชื่อคำชักชวนของเรา ว่าให้ทำทานตั้งแต่ชาติที่แล้ว ถ้าทำทาน ก็จะได้เกิดในลู่ทองแล้วก็มีสมบัติใหญ่อย่าง นี้" ทารกที่นอนที่พื้นบอกว่า "ถึงจะร่ำรวยมีทรัพย์สินเงินทองแค่ไหน มันก็เป็นแค่ธาตุ ดิน นํ้า ลม ไฟ เท่านั้น ไม่เห็นว่าจะสำคัญอย่างไร จะได้นอนเปลทองหรือว่านอนบน พื้นมันก็เหมือนกัน" เด็กทารกสองคนสนทนากันตั้งแต่เกิด พระราชธิดาสุมนวซึ่งมีพระชันษาเพียง ๓) ขวบ จึงไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง และได้นำมาทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็ทรงยืนยันว่าสิ่งที่พระราชธิดาเห็นเป็นจริงอย่างนั้น

           พระนางสุมนาจึงกราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า คนสองคนมีศรัทธา มี คืล มีปัญญาเสมอกัน คนหนึ่งให้ทาน อีกคนหนึ่งไม่ให้ คนทั้งสองจะแตกต่างกันอย่างไร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ให้ย่อมได้รับสิ่งอันเลิศกว่าผู้ไม่ให้ ทั้งอายุ วรรณะ สุข ยศ และอธิปไตย

         ผู้ให้ทานเวลาไปเกิดเป็นเทวดา ย่อมได้รับของที่เป็นทิพย์อันเลิศกว่าผู้ไม่ให้ ๕ ประการคือ อายุ วรรณะ สุข ยศ และอธิปไตย อายุจะยืนกว่าเทวดาที่ไม่ได้ให้ทาน วรรณะ ก็คือรัศมี ผู้ให้ก็จะเป็นเทวดาที่รัศมีสว่างกว่าเทวดาที่ไม่ได้ให้ จะมีความสุขมากกว่า มียศ ใหญ่กว่า มีอธิปไตยคือมีความเป็นใหญ่ มีบริวารมากกว่า ผู้ให้กับผู้ไม่ให้ เมื่อตายแล้วไป อยู่บนสวรรค์ก็แตกต่างกันอย่างนี้

        และเมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็แตกต่างกันด้วยเหตุ ๕ ประการนี้ นั่นคือเกิดมา เป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่อายุ ผิวพรรณ วรรณะ ความสุข ยศ และความเป็น ใหญ่ และแม้ออกบวชแล้วก็แตกต่างกันโดยธรรม ๕ ประการนั้นเช่นเดียวกัน

         มีพระอรหันต์รูปหนึ่ง ไม่เคยทำทานเลย ได้แต่รักษาศีลแล้วก็เจริญภาวนาเรื่อย มา ในชาติสุดท้ายเกิดมาก็อดๆ อยากๆ แม้บวชเป็นบรรพชิตแล้วก็ยังบิณฑบาตได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ทำความเพียรปฏิบัติธรรมจนกระทั่งบรรลุเป็นพระอรหันต์ ได้ฉันอาหารอิ่ม มื้อเดียวตอนก่อนจะดับขันธปรินิพพาน โดยที่พระสารีบุตรไปบิณฑบาตมาแล้วก็เอามือจับ บาตรนั้นท่านจึงได้ฉัน นี่ผู้ที่ไม่ทำทานมาต้องอาศัยบุญของคนอื่นอย่างนี้

       เพราะฉะนั้นแม้เป็นบรรพชิตเหมือนกัน แต่ผู้ให้กับผู้ไม่ให้ก็แตกต่างกันด้วยอายุ วรรณะ สุข ยศ และอธิปไตย แต่การบรรลุมรรคผลนิพพานนั้นไม่แตกต่างกัน พูดง่ายๆ ก็คือคนที่เป็นผู้ให้จะร่ำรวย สมบูรณ์ มีความสุข สบายกว่าผู้ที่ไม่ให้ไม่ว่าจะไปเกิดเป็น ชาวสวรรค์ ไปเกิดเป็นมนุษย์ หรือเป็นพระ เป็นนักบวชก็ตาม เพราะฉะนั้น จึงควรหมั่น ทำทานบ่อยๆ เราจะได้สร้างบารมีอย่างสะดวกสบายไปทุกภพทุกชาติ 

        หลวงพ่อมีความปลื้มปีติใจที่เห็นลูกทั้งหลายต่างขวนขวายในการสร้างมหาทานบารมี ดูแล้วน่าอัศจรรย์ทีเดียว เพราะการเข้าแถวกันสร้างมหาทานบารมี ไม่ใช่สิ่งที่เกิด ขึ้นได้ง่ายๆ เลย สิ่งนี้เป็นสิงที่ดีงาม ลูกทุกคนได้ใช้ชีวิตในกายมนุษย์ให้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างบารมีอย่างแท้จริง

         เพราะฉะนั้นตลอดเส้นทางแห่งการเดินทางไปสู่ที่สุดแห่งธรรมของลูกทุกคนจะ สมบูรณ์ในทุกสิ่งตลอดเวลาเรื่อยไปจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม จะได้ที่สุดแห่งรูปสมบัติ ทรัพย์ลมบัติ และคุณสมบัติ ที่สุดแห่งรูปสมบัติคือจะได้กายมหาบุรุษ แล้วก็มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องไว้ใช้สร้างบารมีจนอิ่มใจเลยทีเดียว เราจะมีคุณสมบัติสมบูรณ์ทั้งวิชชาและจรณะ ดังนั้นให้พยายามสร้างบารมีกันให้สม่ำเสมอ อย่าให้ขาดตอนเลย สายบุญสายสมบัติจะได้ต่อเนื่องกันไป

         หลวงพ่อขออนุโมทนาสาธุการในมหาทานบารมี และความตั้งใจที่จะสร้างความ ดี ตลอดจนกระทั้งธรรมปฏิบติที่ลูกทุกคนได้ทำมาในวันนี้ จงมารวมอยู่ในศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ให้กลั่นกาย วาจา ใจ ธาตุธรรม เห็น จำ คิด รู้ให้ สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ให้ ดวงบุญนี้มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพดึงดูดมหาสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องไวใช้สร้างบารมี ไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ให้ได้สมบัติอัศจรรย์ทันใช้สร้างบารมี อย่างเหลือเฟือไม่ขาดมือ ให้หมดหนี้หมดสิน เหลือกินเหลือใช้ เหลือไว้สร้างบารมี จะ ปฏิบัติธรรมก็ให้รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในวิชชาธรรมกาย อย่างสะดวกสบายอย่างง่ายดาย อย่างถูกต้องร่องรอยตรงไปตามความเป็นจริง ใครเจ็บป่วยไข้ก็ขอให้บุญรักษาให้หายเจ็บ หายป่วยหายไข้ หนักก็เป็นเบา เบาก็ให้หายเลย แต่ถ้าถึงคราวที่จะไปเสวยผลบุญ ก็ขอ ให็ไปอย่างสบายๆ ให้มีสุขในสุคติภพ ให้สร้างบารมีได้นานๆ จะประกอบธุรกิจการงาน อันใดก็ให้ประสบความสำเร็จเป็นอัศจรรย์ให้ชื้อง่าย ขายคล่อง กำไรงาม เป็นมหาเศรษฐี ผู้ใจบุญคํ้าจุนพระพุทธศาสนาไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั้งถึงที่สุดแห่งธรรม

          ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เป็นครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย ครอบครัว ตัวอย่างของโลก ให้เป็นที่รักของมนุษย์และเทวาทั้งหลาย อัคคีภัย โจรภัย ราชภัย ภัยทุกชนิดอย่าได้มากลํ้ากราย ให้พบปะแต่สิ่งที่ดีงามที่จะนำชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ความปรารถนาอันใดก็ตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้อย่างดีแล้ว ขอจงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมกายของพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์จงทุกประการ เทอญ 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล