ฉบับที่ ๑๙๕ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๖๒

เจาะใจ.. “ต้า AF 3” บวชทำไม ?

สัมภาษณ์พิเศษ
เรื่อง : c

 

เจาะใจ.. “ต้า AF 3”
บวชทำไม ?


คนเดินเรื่อง : ต้า หรือ สักกทัศน์ กุลไพศาล

ปูมหลัง : ชนะการประกวดร้องเพลงอันดับ ๒ ของทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซัน ๓
(True Academy Fantasia Season 3), เคยเป็น VJ ของ TrueVisions,
เคยเป็นนักร้อง, เคยเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาหลายชิ้น, ผลิตรายการ Book
Smile ช่อง TrueVisions, ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัว

การศึกษา : เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะเภสัชศาสตร์


 

เข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร ?
           ผมมีพื้นฐานเป็นคนชอบร้องเพลง เล่นกีต้าร์อยู่แล้วครับ และในช่วงที่มีการประกวดร้องเพลงของ ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย (True Academy Fantasia) ซีซัน ๓ ก็มีคนชวนให้ไปสมัคร ตอนนั้นตรงกับปิดเทอมพอดี ก็เลยสมัคร แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะชนะอะไร แต่สุดท้าย...ผมก็ต้องขอขอบคุณผ้ชู มรายการจากทางบ้านมาก ๆ ที่เห็นความสามารถและโหวตให้กำลังใจกันมากจนผมได้ที่ ๒

 

หลังจากชนะ..ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ?
        พอชนะ..ชีวิตก็เปลี่ยนเลยครับ จากการเป็นแค่นักศึกษาปี ๔ ธรรมดา ๆ ก็ต้องหักเหชีวิตเข้าวงการบันเทิงด้วย คือ วันจันทร์ถึงพุธผมต้องเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่วนวันพฤหัสบดีถึงอาทิตย์ก็ต้องบินมาร้องเพลง ทำงานวงการ และรับอีเวนต์มากมายในกรุงเทพฯ

            ช่วงนั้นยอมรับว่าหนักมาก เพราะคณะเภสัชฯ เป็นคณะที่ต้องเรียนกันถึง ๕ ปี ซึ่งผมต้องทำโปรเจกต์คนเดียวเพื่อจบ เนื่องจากเวลาผมไม่ตรงกับเพื่อน อีกทั้งยังต้องอ่านหนังสือหนักเพื่อสอบเอาใบประกอบโรคศิลป์ให้ได้ด้วย

          แต่ผมถือหลักว่า..แม้เข้าสู่วงการแล้ว เราต้องมีความรับผิดชอบที่ทำให้การเรียนไม่เสียด้วย แล้วอย่าให้ใครมาว่าเราได้ ฉะนั้นผมต้องใช้ศักยภาพทั้งหมดที่มีเต็มที่ แม้ในปีสุดท้ายทั้งที่หนักสุด แต่ผมได้เกรด ๔ เกือบทุกวิชาอีกทั้งโปรเจกต์ก็ได้รับเลือกเข้าแสดงในงานวิทยาศาสตร์ ผมสามารถผ่านฉลุยทุกอย่างในระดับที่ดี จนคว้าเกรดเฉลี่ยตอนเรียนจบมาฝากคุณพ่อคุณแม่ที่ ๓.๒ ครับ

            ตรงนี้..ก็อยากจะฝากข้อคิดแก่น้อง ๆ เยาวชนที่เป็นนักเรียนนิสิตนักศึกษาด้วยว่าการทำอะไรควบคู่กับการเรียนเป็นสิ่งที่ดีมากเพราะมันคือโอกาส แต่ห้ามทิ้งการเรียนเด็ดขาดเพราะการเรียนเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้เราไปต่อยอดอนาคตเราได้อีก

 

อะไรทำให้ชีวิตเปลี่ยนมาถึงจุดนี้ ?
           เรื่องของการเปลี่ยนชีวิตเป็นเรื่องของโอกาส ถ้าเรากล้าคว้าโอกาสที่เข้ามา มันก็อาจเปลี่ยนชีวิตเราได้จริง ๆ เพราะต่อให้ผมร้องเพลงเก่งแค่ไหนก็ตาม ถ้าไม่สมัครเข้าแข่งขัน ก็ไม่สามารถมายืน ณ จุดนี้ได้ เหมือนกับการบวชแหละครับ การเกิดเป็นผู้ชายถือว่าเราได้โอกาสแล้ว แต่ถ้าเราไม่คว้าไว้โดยการมาบวช เราก็พลาดที่จะรับรู้สิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนาไป

 

คิดอย่างไรกับการบวช ?
           ผมว่า..การบวชเป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายตัวจริงครับ การบวชทำให้เราได้ใช้โอกาสแห่งการเกิดเป็นลูกผู้ชาย ที่สำคัญการบวชยังทำให้เราได้ตอบแทนคุณพ่อแม่เหมือนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสไว้หรือเหมือนที่โบราณกล่าวไว้ว่า “บวชให้พ่อแม่ได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์” ซึ่งตอนแรกผมเองก็ไม่เข้าใจมากนัก แต่ในวันที่ผมบวช คุณพ่อคุณแม่ปลื้มมาก และการบวชครั้งนี้ของผมก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้เข้าวัด ได้มาสร้างบุญ เติมบุญใหม่ให้แก่ตัวท่านเอง ซึ่งตรงนี้เองครับที่เป็นการเปิดหนทางสวรรค์ให้ท่านอย่างแท้จริง

 

ทำไมไม่บวชวัดอื่น ทำไมมาบวชวัดพระธรรมกายที่เป็นข่าว ?
            คนสงสัยประเด็นนี้กันมาก ซึ่งผมก็ขอตอบตรงนี้ว่า..การจะตัดสินใจว่าอะไรดีหรืออะไรไม่ดีผมว่า..ต้องลองเองครับ ไม่ใช่ว่าข่าวบอกไม่ดี แล้วสิ่งนั้นจะไม่ดีเสมอไป เหมือนกับการเข้าวัดพระธรรมกาย ซึ่งพี่ที่ผมเคารพรักมากคนหนึ่ง เขาเป็นคนดีมากครับ และเขาก็แนะนำให้ผมลองมานั่งสมาธิดู

          พอผมได้ลองพาครอบครัวไปนั่งสมาธิเกือบ ๑ สัปดาห์ ได้ฟังหลวงพ่อทัตตชีโวท่านเทศน์เรื่อง ๕ ห้องชีวิต ผมประทับใจมาก รู้สึกไม่เหมือนกับข่าวลือที่เขาว่า ๆ กัน หลังจากนั้นผมจึงเกิดความคิดว่า..สักวันหนึ่งผมจะต้องบวชให้ได้ เพราะอยากศึกษาธรรมะให้ลึกซึ้งไปกว่านี้ แล้วนำธรรมะไปใช้ เพื่อให้ชีวิตเราเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป


เป็นคนดีธรรมดา ๆ ก็พอแล้วทำไมต้องบวชด้วย ?
          การเข้ามาบวช..ดีกว่าตรงที่เราจะมีเวลานั่งสมาธิเต็มที่ สามารถฝึก ตัวเพื่อขัดเกลากิเลสได้เต็มที่ จนสามารถ ลด ละ เลิก หลายอย่าง ซึ่งการเป็นฆราวาสทำจุดนี้ได้ยาก

 

ได้อะไรจากการบวช ?
         ผมนั่งสมาธิได้นานขึ้น นั่งได้ดีขึ้นกว่าเดิม มีความสุขกว่าเดิม เพราะการบวชทำให้เรามีเวลาฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องจนใจสงบ ซึ่งก็มีวันหนึ่ง..ขณะที่ผมเดินเวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ ใจผมเป็นสมาธิมาก จนมีอาการตกศูนย์และตัวเบา ซึ่งตอนเป็นฆราวาส ผมหาโอกาสทำอย่างนี้ได้ยาก

        ที่สำคัญ... การบวชทำให้ผมได้ฝึกตัวเอง ฝึกแก้นิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง และทุกวันผมจะพยายามพิจารณาตัวเอง ถามตัวเองเสมอว่า..ความเป็นพระของผมได้มาตรฐานพอที่ผมจะกราบตัวเองได้อย่างสนิทใจไหม ? และเมื่อคิดอย่างนี้ ผมจะมีพัฒนาการในการขัดเกลากิเลสมากขึ้น และมีความพยายามฝึกตัวเองให้เป็นพระแท้ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปทุกวัน ซึ่งพอผมทำได้ความรู้สึกชนะตัวเองมันจะเกิดขึ้น จนผมเกิดความรู้สึกเคารพตัวเอง (Self Respect) ขึ้นมา

           ผมว่า..จุดนี้สำคัญมากครับ เพราะบางคนเกิดมาไม่เคยรู้สึกเคารพตัวเองศรัทธาตัวเองอย่างแท้จริงเลย ซึ่งคนประเภทนี้จะรู้สึกตำหนิตัวเอง รู้สึกตัวเองไม่ดีพออยู่ตลอดเวลา ตรงนี้อันตรายนะครับ เพราะหากความคิดนี้ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกนาน ๆ คนคนนั้นก็จะมีบุคลิกภาพที่ไม่มั่นใจในตัวเอง และสุดท้ายจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ยาก

        ตรงกันข้าม หากเราฝึกชนะตัวเองได้เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ความมั่นใจในตัวเองจะเพิ่มขึ้นเราจะมีความสุข ความภูมิใจในตัวเอง ซึ่งจุดนี้เอง..มันส่งผลตรงต่อบุคลิกภาพที่เหนี่ยวนำความสำเร็จมาสู่ชีวิตเราง่าย ๆ

 

ได้ข่าวว่า..ที่มาบวชเพราะอยากให้ลูกเป็นคนดีด้วยทำไมคิดอย่างนั้น ?
         ผมว่า..ธรรมะเป็นสิ่งสำคัญมากกับสถาบันครอบครัวครับ การที่เราจะสอนให้ลูกเป็นคนดีได้ ไม่ใช่แค่คิดหรือแค่บอกลูก แต่ต้องเริ่มที่หัวหน้าครอบครัวอย่างผมก่อนเลย สืบเนื่องจากวัดนี้ทำให้ผมรักษาศีล ๕ ได้ เพราะเมื่อตอนผมทำงานอยู่ในวงการบันเทิง สภาวะแวดล้อมทำให้รักษาศีลได้ยากมาก พอผมมีลูกจึงรู้สึกห่วงลูกมาก..กังวลว่า..เมื่อลูกโตขึ้นเขาจะเป็นคนดีได้อย่างไร ห่วงว่าเขาจะเสียคนไหม

        ด้วยเหตุนี้...ผมจึงเอาตัวเองเข้ามาศึกษาธรรมะพร้อมครอบครัว เพื่อให้ลูกทั้ง ๒ คนของผมคุ้นกับสังคมที่ดี คุ้นกับการรักษาศีล ๕ คุ้นกับความเคารพ ความกตัญญู รู้ดี ชั่ว ถูก ผิด เหมือนคำพูดที่ว่า พ่อแม่เป็นเหมือนพระอรหันต์ของลูก ซึ่งผมก็ต้องทำหน้าที่เป็นพ่อที่สมบูรณ์ คือ ปิดนรกเปิดสวรรค์ให้ลูก สอนให้เขาเป็นคนดีด้วย...

       สุดท้ายนี้..ผมก็อยากให้ลองมาใช้โอกาสของการเกิดเป็นผู้ชายโดยการบวชดูนะครับเพราะการบวชได้อะไรมากกว่าที่เราคิดไว้จริง ๆ ...

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล