วัดพระธรรมกาย จัดพิธีบุพเปตพลี ครั้งที่ 153
วัดพระธรรมกาย ได้จัดพิธีบุพเปตพลี เพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่หมู่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ครั้งที่ 153 ณ หอฉันคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง
พุทธศาสนิกชนจำนวนมากได้พร้อมใจกันมาร่วมประกอบพิธีบุพเปตพลีอุทิศบุญกุศลให้แก่หมู่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ครั้งที่ 153 เนื่องในวันพระแรม 14 ค่ำ เดือน 7 โดยท่านประธานสงฆ์ได้นำทุกท่านบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล 5อาราธนาธรรม ก่อนที่คณะสงฆ์จะได้สวดพระพุทธมนต์บทธรรมนิยาม จากนั้นคณะเจ้าภาพทุกท่านได้ร่วมกันทอดทอดผ้าบังสุกุล เพื่อเป็นการทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับ และกล่าวคำถวายมะตะกะภัตตาหาร พร้อมทั้งน้อมนำภัตตาหารถวายแด่พระภิกษุสามเณร
ซึ่งพิธีบุพเปตพลี เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นอริยะประเพณีตั้งแต่สมัยพุทธกาล ครั้งที่พระเจ้าพิมพิสารได้ถวายมหาทานแด่พระพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติทั้งหลายที่ละโลกไปแล้วได้บังเกิดเป็นเปรตให้พ้นจากอบาย ส่วนผู้ที่ได้ตั้งใจมาทำบุญยังเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญู ระลึกถึงความดีของผู้มีพระคุณ ดั่งครั้งที่ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงอนุโมทนาด้วยพระคาถาอันปรากฏใน“ติโรกุฑฑสูตร” ตอนหนึ่งว่า “อทาสิ เม อกาสิ เม ญาติมิตฺตา สขา จ เม เปตานํ ทกฺขิณํ ทชฺชา ปุพฺเพ กตมนุสฺสรํ (อะทาสิ เม อะกาสิ เม ญาติมิตตา สะขา จะ เม เปตานัง ทักขิณัง ทัชชา ปุพเพ กะตะมะนุสสะรัง) บุคคลมาระลึกถึงอุปการะที่ท่านผู้นี้ได้ทำให้แก่ตน ในกาลก่อนว่า ได้ให้สิ่งนี้แก่เรา ผู้นี้ได้ทำกิจของเรา ผู้นี้เป็นญาติ เป็นมิตร เป็นเพื่อนของเรา ควรให้ทักษิณาทาน เพื่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว”โดยความหมายคือ “เราควรระลึกถึงบุญคุณผู้ที่เคยมีอุปการคุณ อันได้แก่ บิดา มารดา หรือญาติมิตรผู้ล่วงลับ และควรได้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแก่หมู่ญาติมิตรนั้นๆโดยการให้ทักษิณาทาน
และในโอกาสนี้พระพรชัย พลวธมฺโม (ดร.) ได้กล่าวสัมโมทนียกถา โดยย่อว่า บุคคลที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ย่อมทำให้เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และในวันนี้ที่ทุกท่านได้ตั้งใจมาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่บุพพการี ผู้มีพระคุณและหมู่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ด้วยอนุภาพแห่งบุญที่บริสุทธินี้จะทำให้หมู่ญาติที่ ทนทุกข์ในอบาย เมื่อได้บุญนี้จะทำให้ไปตัดรอนวิบากกรรม วิบากมารในอบายภูมิจากทุกข์มากก็จะทุกข์น้อย และจะมีสุขในภพภูมิที่ดียิ่งขึ้นไป
