กฐินทาน มหากาลทานที่ไม่ธรรมดา
การทอดกฐินเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนทุกยุคทุกสมัยมีความศรัทธาว่า เป็นยอดของมหากุศลที่มีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่สุดประมาณ ด้วยเหตุนี้การทอดกฐินจึงเป็นงานบุญประจำปีที่ธุชนทั้งหลายต่างรอคอย
ประเพณีทอดกฐินถือกำเนิดมาตั้งแต่พุทธกาล โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นความสำคัญในการผลัดเปลี่ยนจีวรเก่าของพระสงฆ์ จึงทรงมีพุทธานุญาตให้พระสงฆ์รับผ้ากฐินเพื่อผลัดเปลี่ยนจีวรเก่าได้ และเกิดเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาสองพันกว่าปีจนกระทั่งปัจจุบัน
สำหรับความไม่ธรรมดาของกฐินทานนั้นเกิดจากเหตุหลายประการดังนี้ คือ
๑.ในการถวายผ้ากฐินนั้น ต้องถวายภายในกำหนด ๑ เดือนนับตั้งแต่วันออกพรรษาเป็นต้นไป
๒.ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้นไม่เฉพระเจาะภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
๓.พระภิกษุผู้รับผ้ากฐินต้องจำพรรษาที่วัดนั้นโดยไม่ขาดพรรษา และต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า ๕ รูป
๔.แต่ละวัดรับกฐินได้เพียงปีละ ๑ ครั้งเท่านั้น
๕.ผ้าที่ถวายต้องตามลักษณะที่สงฆ์กำหนดไว้
๖.เมื่อพระภิกษุรับผ้ากฐินแล้ว ต้องกรานกฐินให้เสร็จภายในวันนั้น
นอกจากนี้การทำบุญกฐินยังมีความพิเศษกว่าทานทั่วไป เพราะผู้รับและผู้ให้ต่างได้อานิสงส์ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย คือ
ผู้รับ (ฝ่ายสงฆ์) ได้รับอานิสงส์ตามวินัย ทำให้ได้รับความสะดวกในการบำเพ็ญสมณกิจในช่วงเวลาที่ออกพรรษาแล้ว
ผู้ให้ (ฝ่ายฆราวาส) เมื่อทอดกฐินแล้ว ย่อมได้รับผลบุญอันยิ่งใหญ่จากการสงเคราะห์พระภิกษุผู้จำพรรษาให้ได้ผ้านุ่งผ้าห่มใหม่และได้บุญจากการทะนุบำรุงพระศาสนาด้วย หากการทอดกฐินนั้นมีส่วนในการสร้างหรือบูรณะฏิสังขรณ์วัดวาอารามหรือศาสนาวัตถุ และที่สำคัญการทอดกฐินยังถือเป็นสังฆทาน ซึ่งการถวายสังฆทานด้วยจิตที่บริสุทธิ์ และเปียมด้วยศรัทธานั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวว่ามีผลมาก แม้แต่พระองค์เองก็ยังไม่ทรงเห็นที่ของอานิสงส์จากการถวายสังฆทาน คืออานิสงส์จากการถวายสังฆทานนั้นเป็นปริมาณมาก และส่งผลยาวนานจนพระพุทธองค์ก็ยังไม่ทรงสามารถเห็นที่สิ้นสุดได้
จึงขอเรียนเชิญท่านสาธุชนทั้งหลายไปร่วมทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้โดยทั่วหน้ากัน
ขออานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัยและบุญกุศลในการทอดกฐินสามัคคีครั้งนี้ จงดลบันดาลให้ท่านและครอบครัวเจร็ญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร บริวารสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรค ผล นิพพาน ปรารถนาสิ่งใดอันเป็นไปด้วยชอบ ประกอบด้วยกุศล ขอให้ความปรารถนานั้นๆ จงเป็นผลสำเร็จ ทุกประการเทอญ
กำหนดการพิธีทอดกฐินสามัคคี
วันอาทิตย์ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖
พิธีภาคเช้า
๐๖.๓๐ น. พิธีตักบาตร
๐๙.๓๐ น. ปฏิบัติธรรม / บูชาข้าวพระ
๑๐.๐๐ น. ถวายภัตตาหาร
พิธีภาคบ่าย
๑๓.๓๐ น. พิธีทอดกฐินสามัคคี / ปฏิบัติธรรม
๑๕.๓๐ น. เสร็จพิธีทอดกฐิน
๑๘.๐๐ น. คณะสงฆ์ทำพิธีกรานกฐิน
ควรสวมชุดขาว เพื่อเป็นแบบอย่างอันดีงามของชาวพุทธ
อานิสงส์การร่วมบุญทอดกฐิน : จากพระไตรปิฎก
ในสมัยของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีชายคนหนึ่งชื่อนายติณบาล เขามีฐานะยากจนมาก แต่มีศรัทธาแรงกล้าอยากร่วมบุญกฐิน ถึงแม้ไม่มีทรัพย์สินเงินทองเลย แต่เค้าก็ขวนขวายหาทางร่วมบุญ
เขาตัดสินใจเอาเสื้อผ้าที่มีอยู่เพียงชุดเดียวไปขาย แล้วนำใบไม้มาเย็บเป็นผ้านุ่งกันอุจาค จากนั้นนำเงินจากการขายเสื้อผ้าไปซื้อด้ายและเข็มมาเป็นบริวารกฐินด้วยความปลื้มปิติเหลือประมาณ
การกระทำของนายติณบาลทำให้ท้าวสักกเทวราชแห่งสรรค์ขั้นดาวดึงส์เกิดความเสื่อมใสอย่างยิ่ง จนต้องเสด็จลงมาให้พร และเมื่อพระราชาทรงทราบเรื่องก็พระราชทานทรัพย์ให้เขาเป็นจำนวนมาก เขาจึงกลายเป็นเศรษฐีทันตาเห็นด้วยผลบุญจากการทอดกฐินด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยม
เมื่อละโลกแล้ว นายติณบาลได้ไปเสวยทิพยสทบัติในสวรรค์ชั้นดาวดิงส์ ภพชาติสุดท้ายเขาได้ออกบวชในพระพุทธสศาสนาและบรรลุอรหัตผลด้วยอำนาจบุญที่เขากระทำมาดีแล้ว
อานิสงส์การถวายผ้าไตรจีวร : จากพระไตรปิฎก
หากเกิดเป็นชาย ถ้าได้สั่งสมบุญด้านการถวายผ้าไตรจีวรมามากเพียงพอแล้ว จะได้บวชเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้บวชให้ ซึ่งถือเป็นสุดยอดของการบวชในสมัยพุทธกาล
หากเกิดเป็นหญิง จะได้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ที่เป็นสุดยอดของเครื่องประดับในยุคพุทธกาล ซึ่งในพระไตรปิฏกบันทึกไว้ว่า ในยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน มีสตรีผู้มีบุญมากเพียง ๓ ท่านเท่านั้นที่ได้ครอบครองเครื่องประดับนี้ คือ
๑.มหาอุบาสิกาวิสาขา
๒.นางมัลลิกาภรรยาของพันธุลเสนาบดี
๓.ลูกสาวเศรษฐีเมืองพาราณสี