เมื่อปี พ.ศ.2543 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ท่วมตัวเมืองหาดใหญ่มีผู้เสียชีวิตนับร้อย ความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท หลังน้าท่วมบรรยากาศหดหู่ซึมเศร้ามากนักท่องเที่ยวหายไปเกือบหมด สมาคมบัณฑิตรัตน์จึงได้หารือร่วมมือกับคณะสงฆ์ พ่อค้าประชาชนและหน่วยราชการในพื้นที่จัดตักบาตรพระครั้งใหญ่ เพื่อเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกาลังใจแก่ประชาชน อุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิต และเป็นการส่งสารไปยังนักท่องเที่ยวชาวมาเลย์ สิงคโปร์และทั่วโลกว่าหาดใหญ่ฟื้นคืนสู่สภาวะปกติแล้ว นาความคึกคักมีชีวิตชีวากลับมาสู่เมือง
งานตักบาตรได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนประสบความสาเร็จอย่างดียิ่ง มีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาใส่บาตรนับแสนคน เป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีการจัดตักบาตรครั้งใหญ่เป็นประจำทุกปี กลายเป็นเทศกาลประเพณีที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากที่สุดของหาดใหญ่ครั้งละหลายหมื่นคน โรงแรมห้องพักถูกจองเต็มหมดล่วงหน้านานหลายเดือน ร้านค้าขายดี เศรษฐกิจสะพัด ประชาชนอิ่มบุญ คณะสงฆ์จาก 14 จังหวัดภาคใต้และจากต่างประเทศที่มารับบาตรอิ่มใจ หน่วยราชการ อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคใต้ เทศบาลนครหาดใหญ่ กองทัพภาคที่ 4 สำนักงานตารวจแห่งชาติ จังหวัดสงขลา คณะสงฆ์ภาค 18 ฯลฯ ตลอดจนหน่วยงานเอกชน บริษัทห้างร้านต่างๆ ได้ร่วมมือกันจัดงานนี้ขึ้น ถือเป็นเทศกาลประเพณีที่ให้ประโยชน์มาก ทั้งสร้างขวัญกาลังใจแก่คณะสงฆ์และชาวพุทธในภาคใต้ และเอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประชาชนในพื้นที่
น่าเสียใจที่มีผู้ไม่หวังดีจานวนน้อยพยายามปลุกกระแสต่อต้านการตักบาตร โดยอ้างว่าทาให้การจราจรติดขัด ขอให้ลองนึกถึงเทศกาลประเพณีการแห่เทียนพรรษาทางภาคอีสาน ซึ่งเป็นงานรวมใจชาวพุทธจานวนมากดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายเช่นกัน หากมีผู้มาปลุกกระแสต่อต้านว่าต้องปิดการจราจรทาให้รถติด ก็เป็นเรื่องน่าเสียใจที่ชาวพุทธไม่ควรหลงเชื่อไปกับคายุยงนั้นเช่นกัน
ปัจจุบันพระพุทธศาสนามีภัยคุกคามมาก ยิ่งในโลกออนไลน์ยิ่งไม่รู้เลยว่าตัวตนที่แท้จริงของผู้โพสต์ข้อความเรื่องราวต่างๆ นั้นเป็นใคร นับถือศาสนาไหน ดังนั้น ขอให้ชาวพุทธผู้รักพระพุทธศาสนาทุกท่านหนักแน่นตั้งใจทำความดีด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ไม่หลงเชื่อกลายเป็นเครื่องมือทาลายพระพุทธศาสนาของบุคคลผู้ไม่หวังดี
หากเป็นชาวพุทธที่รักพระพุทธศาสนาจริง อย่าเสียเวลามาโจมตีกันเองเลย หากคิดว่าการทากิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบไหนที่ดีมีประโยชน์ ก็ขอให้ทุ่มเทกาลังชักชวนกันมาทากิจกรรมนั้นเถิด จะเกิดผลดีต่อพระพุทธศาสนาโดยองค์รวมมากกว่า
การคิดโจมตีทำลายล้างมีแต่ทำให้เสื่อม
พลังสร้างสรรค์เท่านั้นที่จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่พระพุทธศาสนาและสังคมไทย