กำหนดการ
ภาคเช้า
06.40 น. พิธีตักบาตร ณ สภาธรรมกายสากล
ภาคสาย
09.30 น. ปฏิบัติธรรม
11.00 น. พิธีกล่าวคำถวายทองคำเพื่อหล่อรูปเหมือนพระมงคลเทพมุนี ฯ องค์ที่ 8
- พิธีกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน
ภาคบ่าย
12.15 น. รายการสู้ต่อไป
13.30 น. ริ้วขบวนอัญเชิญผ้าไตรเข้าสู่ศูนย์กลางพิธี
14.50 น. ปฏิบัติธรรม
15.15 น. พิธีทอดกฐินธรรมชัย
16.00 น. พิธีถวายปัจจัยร่วมบุญกฐินธรรมชัย / ประธานสงฆ์กล่าวให้โอวาท
ภาคเย็น ณ ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์
17.30 น. พิธีหล่อรูปเหมือนทองคำพระมงคลเทพมุนี ฯ องค์ที่ 8
- พิธีเจริญชัยมงคลคาถา และสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตนสูตร ประกอบพิธีทำเนื้อมนต์
- อฐิษฐานจิต แผ่เมตตา
20.00 น. พิธีมอบเนื้อมนต์แก่สาธุชนผู้มีบุญ
ภาคค่ำ
21.00 น. พิธีกรานกฐิน ณ อุโบสถ
หมายเหตุ
1. เปิดให้เข้าสักการะรูปหล่อทองคำฯ ณ มหาวิหารพระมงคลเทพมุนีฯ เวลา 11.00 - 12.30 น.
2. งดให้เข้าสักการะรูปหล่อทองคำฯ ณ มหาวิหารคุณยายฯ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย หรือหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นพระภิกษุที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรมและคุณวิเศษอย่างจะนับจะประมาณมิได้ ดังนั้น ศิษยานุศิษย์ ผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสท่านจากทั่วทุกมุมโลก จึงพร้อมใจกันหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำแท้การหล่อรูปเหมือนของหลวงปู่ด้วย ทองคำเป็นการประกาศให้โลกรับรู้ถึงคุณความดีของท่านด้วยวิธีอันชาญฉลาด เพราะการหล่อท่านด้วยทองคำ จะทำให้ชาวโลกต่างสงสัยและเกิดคำถามตามมาอย่างนับไม่ถ้วนว่า “ทำไมต้องหล่อท่านด้วยทองคำ?” และนั่นก็เป็นโอกาสที่เหล่าศิษยานุศิษย์จะได้เล่าถึงประวัติคุณธรรมคุณวิเศษและมโนปณิธานของท่าน และชักชวนให้บุคคลเหล่านั้นทำตามข้อวัตร ปฏิบัติอันดีงามของท่าน
อีกทั้งเมื่อระยะเวลาผ่านไปจน เข้าสู่ยุคที่ทองคำหายากและราคาสูงมากกว่านี้ หรืออีก ๑,๐๐๐ ปีข้างหน้า ก็จะเกิดคำถามให้โจษขานซ้ำๆ อย่างไม่รู้จบว่าทำไมชาวโลกยุคหนึ่งจึงเกิดมหาศรัทธาอย่างแรงกล้า ร่วมใจกันหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำแท้ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีมูลค่ามหาศาลขนาดนั้น และปริศนาตรงนี้เองจะตรึงให้ชาวโลกมุ่งค้นหาคำตอบว่าท่านเป็นใคร? สำคัญอย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่กำลังประสบความทุกข์และดิ้นรนเพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์อยู่ในขณะนั้น เมื่อได้มาพบรูปหล่อหลวงปู่ที่หล่อจากวัสดุที่มีค่าสูงสุด ก็จะสนใจหันมาศึกษาเรื่องราวของท่านจนเกิดความเลื่อมใสรู้สึกซาบซึ้งและหันมาปฏิบัติธรรม เพื่อหาทางพ้นทุกข์ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดังเช่นหลวงปู่
เหตุแห่งความยาก....
ในการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ การหล่อรูปเหมือนหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญไม่ใช่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นง่าย ๆ ดังนั้นสาธุชนผู้มีบุญทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสในการสั่งสมบุญนี้เพราะการหล่อ รูปเหมือนหลวงปู่วัดปากน้ำ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุแห่งความยากดังต่อไปนี้ คือ
๑. พระภิกษุที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม คุณวิเศษ และเป็นเนื้อนาบุญที่มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์เช่นหลวงปู่วัดปากน้ำ เป็นบุคคลที่บังเกิดขึ้นได้ยากมาก อีกทั้งท่านต้องมีบุญที่สั่งสมมาทางด้านนี้มาก หรือมีคุณธรรมมากพอที่จะดลใจให้มนุษย์ยุคนี้เกิดมหาศรัทธาอย่างแรงกล้า คิดหล่อท่านด้วยวัตถุธาตุอันเลิศ เช่น ทองคำแท้
๒. ทองคำเป็นวัสดุที่มีราคาสูงลิบ อย่าว่าแต่การหล่อพระด้วยทองคำจะเป็นเรื่องยากแสนยากเลยแค่จะหาบุคคลผู้ดำริ หรือคิดริเริ่มในการหล่อก็นับว่าเป็นการยากมากแล้ว ดังนั้น การหล่อพระด้วยทองคำแท้จึงเป็นโอกาสที่เกิดได้ยากยิ่ง
๓. ในโลกนี้มีน้อยคนนักที่สามารถเป็นศูนย์รวมใจในการรวบรวมทองคำแท้จำนวนมหาศาลมาหล่อพระ
๔. ผู้ที่คิดจะหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ ต้องมีบุญที่เคยสั่งสมมากับท่าน หรือแม้ไม่เคยสั่งสมบุญมากับท่าน ก็ต้องมีบุญพิเศษอื่นๆ ที่เคยสั่งสมมาในอดีตไปดลจิตดลใจให้เกิดปัญญาคิดสร้างบุญใหญ่เพื่อต่อบุญให้ กับตนเองได้
๕. หากเราเป็นผู้มีทรัพย์น้อย แต่เกิดมหาศรัทธาคิดอยากจะหล่อพระขนาดใหญ่ด้วยทองคำแท้ทั้งองค์ตามลำพัง ตลอดชีวิตนี้..เราก็คงหมดโอกาสที่จะได้บุญใหญ่นี้ไป เนื่องจากมีทรัพย์ไม่พอ
๖. แม้คนที่มีทรัพย์มาก สามารถหล่อพระทั้งองค์ตามลำพังด้วยทรัพย์ส่วนตัวได้ การหล่อก็จะไม่ทรงพลานุภาพเท่ากับการหล่อพระที่เกิดจากพลังของคลื่นมหาชน ที่มีกำลังศรัทธาอย่างแรงกล้ามารวมกัน อีกทั้งในอนาคตถ้าผู้มีทรัพย์มากนั้นสิ้นอายุขัยแล้ว ก็จะหาผู้ดูแลรักษาองค์พระที่หล่อขึ้นตามลำพังนั้นได้ยาก เพราะพระที่หล่อนั้นไม่ได้เป็นสมบัติของส่วนรวม และเมื่อเป็นดังนี้ ความรู้สึกร่วมจากการที่มหาชนต้องช่วยกันดูแลรักษาก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับการหล่อพระที่เกิดจากพลังของคลื่นมหาชน
๗. หากมีการหล่อองค์หลวงปู่เสร็จไปแล้วแต่เราเพิ่งเกิดศรัทธา หรือมาทราบข่าวบุญนี้ทีหลัง และเกิดจิตศรัทธาอยากจะหล่อขึ้นมาโอกาสนั้นก็หมดไปแล้ว
การหล่อรูปเหมือนทองคำพระมงคลเทพมุนี(สด จนฺทสโร)
บทความจากรายการ ข้อคิดรอบตัว : พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ (M.D.; Ph.D.)
เรื่องนี้ขอตอบเป็น ๒ ประเด็น ประเด็นที่ ๑ ทำไมต้องหล่อรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงปู่ ประเด็นที่ ๒ ทำไมต้องหล่อด้วยทองคำ
ประเด็นแรก เราจะเห็นว่าในประเทศต่าง ๆ ทั้งประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ตาม มีการหล่อ รูปบุคคลสำคัญในวงการต่าง ๆ อยู่มากมาย เช่น นักวิทยาศาสตร์เอก นักปกครองที่มีชื่อเสียง ฯลฯ มีทั้งหล่อด้วยบรอนซ์ หรือวัสดุต่าง ๆ บางทีก็ แกะสลักจากหินบ้าง ถามว่าเขาหล่อทำไม ก็เพื่อให้คนระลึกถึงคุณงามความดีที่บุคคลเหล่านั้นเคยสร้างไว้ จะได้เป็น แบบอย่างที่ดีให้คนดำเนินตาม คนเราพอเห็นแบบอย่างก็จะเกิดแรงบันดาลใจอยากจะเป็นอย่างนั้นบ้าง
การหล่อรูปเหมือนของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ก็เหมือนกัน หลวงปู่ท่านเป็นเสมือนประจักษ์พยานถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่ามีจริง คือ ถ้าอ่านพระไตรปิฎกเราจะเห็นว่ามีนรก-สวรรค์ มี การปฏิบัติธรรม มีการเข้าถึงธรรม และไปรู้ไปเห็นอดีตชาติได้ ระลึกชาติได้ แต่บางทีคนในปัจจุบันนี้แม้กระทั่งชาวพุทธก็ไม่เชื่อคำสอนเหล่านี้ บางคน ว่าเอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อ จะได้ไม่กล้าทำบาป ทำกรรม
ที่เป็นอย่างนี้เพราะเขารู้สึกว่า เรื่องในพุทธกาล มันไกลตั้ง ๒,๐๐๐ กว่าปีมาแล้ว แต่พระเดชพระคุณ หลวงปู่ถือว่าเป็นบุคคลร่วมสมัย คือก่อนหน้านี้ ราว ๆ ๕๐ ปี ท่านยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งถือว่าไม่ไกลจากเรามาก ตัวตนของท่าน ภาพท่าน เสียงท่าน เรายังได้เห็นได้ฟัง ลูกศิษย์ลูกหาที่ปฏิบัติตามที่ ท่านสอนก็สามารถเข้าถึงธรรมได้จริง ทำให้คนรู้ว่า บุปเพนิวาสานุสสติญาณ ในวิชา ๓ นั้นมีจริง คือคนที่ระลึกชาติได้มีจริง จุตูปปาตญาณ คือเห็นการ ไปเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เห็นชาติก่อนของคนอื่นว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำได้จริง ๆ การปฏิบัติธรรมจนกระทั่งเข้าถึงธรรมก็เป็นไปได้จริง ฌานสมาบัติมีจริง รูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ มีจริง ทุกอย่างประจักษ์ชัดให้เห็นตรงหน้าได้ และมีพยาน บุคคลถึงการมีตัวตนของท่านมากมาย คือศิษยานุศิษย์ ทั้งในยุคของท่านจนถึงยุคปัจจุบัน ส่วนผู้ที่ปฏิบัติ ตามที่ท่านสอนก็ยังมีประจักษ์พยานให้เราเห็น
ตรงนี้ต้องบอกว่ามีคุณค่ามหาศาลต่อความเป็น สัมมาทิฐิของชาวพุทธ ชาวพุทธทั้งหลายจะเชื่อมั่นว่าบุญบาปมีจริง พระพุทธเจ้ามีจริง การปฏิบัติธรรม จนเข้าถึงธรรมสามารถทำได้จริง ๆ นรกสวรรค์มีจริง อย่าไปทำบาป ให้ทำแต่บุญ ทำแต่ความดี พระคุณ ของท่านที่มีต่อเรานั้นเหลือล้น
ประเด็นที่ ๒ ทำไมต้องใช้ทองคำ การหล่อรูปเหมือนของท่านด้วยทองคำ ทำให้คนที่มาเห็น นึกว่า ท่านสำคัญอย่างไร ทำไมถึงมีบุคคลจำนวน มากมาร่วมหล่อรูปท่านด้วยทองคำอย่างนี้ ทำให้ เขาเกิดแรงบันดาลใจมาศึกษาประวัติชีวิตของท่าน พอทราบแล้วจะได้ลงมือปฏิบัติให้เข้าถึงธรรมอย่างที่ท่านเข้าถึงบ้าง คุณประโยชน์จะเกิดขึ้นอย่าง มหาศาล เราไม่ได้ตั้งใจเพียงแค่หล่อไว้ให้ผู้คนมา กราบขอพรอันศักดิ์สิทธิ์จากท่านเท่านั้น แต่หัวใจหลักจริง ๆ คือ ตั้งใจให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำความดีตามอย่างท่านด้วย
ถ้าหล่อด้วยวัตถุอื่น บางคนก็ยังรู้สึกธรรมดา แต่พอเห็นหล่อด้วยทองคำหนักเป็นตัน ก็จะเกิด แรงบันดาลใจ อยากรู้ อยากศึกษาเรื่องราวของท่าน และจะมีคนมาศึกษา มาปฏิบัติธรรม เพราะเห็นรูปหล่อของท่าน ทั้งมาดู มากราบ มาไหว้ และมาศึกษา เป็นพัน ๆ ล้านคน
สมมุติว่าหล่อไปหนึ่งตัน สมมุติใช้งบเป็น พัน ๆ ล้าน แต่ถ้ามีคนเกิดแรงบันดาลใจทำความดี เพราะรูปหล่อของท่านเป็นพันล้านคน เหลือค่าใช้จ่าย คนละบาทเดียวเท่านั้น ใช้เงินบาทเดียวพลิกชีวิตคนให้เป็นคนดีคุ้มไหม สุดคุ้ม บางคนถามว่าจะถึง พันล้านคนจริงหรือ ถึงแน่นอน เพราะทองคำไม่ใช่ ของธรรมดา แต่เป็นโลหะแบบพิเศษ โลหะอื่น ๆ เช่น เหล็กก็มีสนิม ทองแดงก็มีสนิม เมื่อมีสนิมแล้วมันจะค่อย ๆ กร่อนไป แต่ทองคำไม่มีสนิม และแทบจะไม่ทำปฏิกิริยากับสารใด ๆ เลย ยกเว้น กรดกัดทอง ซึ่งในธรรมชาติก็ไม่เจออยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ทองคำจึงมีความคงทนมากไม่ใช่แค่พันปี สัมฤทธิ์อาจจะอยู่ได้พันปี แต่ทองคำอยู่ได้เป็น ล้าน ๆ ปี คือเหมือนอยู่ได้ชั่วกัลปาวสานเลย
ดังนั้น นับตั้งแต่หล่อรูปเหมือนของท่านเสร็จแล้ว สมมุติว่าแต่ละปีมีคนมาบูชาปีหนึ่งประมาณ ๒-๓ ล้านคน แค่พันปีก็ ๒-๓ พันล้านคนแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว นับวันจะมีคนมาบูชาท่านมากขึ้น ๆ ต่อไปจะไม่ใช่ปีละ ๒-๓ ล้านคน แต่จะมากกว่านี้ หนึ่งพันล้านคนเป็นตัวเลขขั้นต่ำ ความจริงอาจจะเป็นหมื่นล้าน แสนล้านคน เพราะอายุของทองคำ มันยาวมาก ดังนั้นการหล่อรูปท่านด้วยทองคำจึงคุ้มค่ามาก
การหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ด้วยทองคำนั้นนอกจากมีความคงทนถาวร และช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้ที่ได้รับทราบเกิดความรู้สึกอยากจะศึกษา อยากจะรู้ อยากจะมาพบท่าน และปฏิบัติตาม ปฏิปทาของท่านแล้ว ยังเป็นการที่เราได้ใช้วัตถุธาตุที่มีคุณค่าบูชาคุณท่าน การบูชาถ้าทำแบบไม่ตั้งใจ เช่น เด็ดดอกไม้ข้างทางมาบูชาก็มีอานิสงส์ระดับหนึ่ง แต่ถ้าทำด้วยความตั้งใจ หาสิ่งที่มีค่าสูง อานิสงส์ที่เกิดขึ้นย่อมมากไปตามส่วน
พูดถึงทองคำ มีสิ่งที่น่ารู้หลายอย่าง เรารู้ไหม ว่าทองคำเกิดมาจากไหน รู้ว่าอยู่ในดินแล้วเอามาถลุงใช่ไหม นั่นคือ ณ ปัจจุบัน จะได้ทองมาก็ต้องเอาดินมาถลุง กว่าจะได้ทองสักกะรัตหนึ่ง ต้องเอาดินมาเป็นตัน ๆ แต่เริ่มต้นจริง ๆ แล้ว ทองเกิดจากต้นไม้ เราเคยได้ยินชื่อทองชมพูนุทและชมพูทวีป ไหม ชมพูทวีปก็คือโลกของเราทั้งใบ ไม่ใช่แค่ประเทศ อินเดีย โลกทั้งโลกนี้คือชมพูทวีป คำว่าชมพูแปลว่า ไม้หว้า เป็นชื่อต้นไม้ ทวีปนี้ที่ชื่อชมพูทวีปเพราะว่ามีไม้หว้าเป็นไม้ประจำทวีป ไม้หว้าเป็นไม้ใหญ่มาก เกิดมาในยุคต้นกัป มีผลเป็นทองคำ ทองคำในโลกปัจจุบันนี้มาจากไม้หว้า ถือเป็นโลหะชนิดแรกของโลกก็ว่าได้ แล้วกระจายออกไปปนอยู่ในน้ำและในดินผสมผสานกันไป แหล่งทองที่มากที่สุดอยู่ในน้ำทะเล การที่ไปสกัดทองคำขึ้นมาแล้วเอามาหล่อหลวงปู่ ก็เสมือนกับว่าเอาต้นแห่งโลหะประจำทวีป ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าสูงมาหล่อรูปเหมือนของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ทองคำเป็นโลหะพิเศษ ที่ไม่ธรรมดา จะหล่อบุคคลที่ไม่ธรรมดา ก็ต้องใช้โลหะที่ไม่ธรรมดา ที่มีค่าสูง เพื่อทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ธรรมดา คือจะมีผลสะเทือนออกไปสู่ชาวโลกทั้งปวง จากองค์ของท่านที่หล่อสำเร็จแล้ว ข่าวจะแพร่หลาย ออกไป และจะมีผู้คนค่อย ๆ ทราบ แล้วหลั่งไหลมาบูชาท่าน ศึกษาเรื่องราวของท่าน และปฏิบัติตาม ปฏิปทาของท่าน คนดี ๆ จะเกิดขึ้นในโลกมากมาย จากการหล่อรูปเหมือนทองคำของท่านในครั้งนี้
ทำไมต้องหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ?
เพราะท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีคุณวิเศษอันไม่มีประมาณจนเป็นที่รู้จักและมีคนเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมหาศาลมายาวนานกว่าร้อยปีแล้ว ซึ่งแม้ปัจจุบันท่านมรณภาพไปนานแล้ว ก็ยังมีลูกศิษย์ลูกหาเจออานุภาพและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านราวกับท่านยังมีชีวิตอยู่อย่างตลอดต่อเนื่อง และที่สำคัญยังขาดรูปหล่อของท่านอีก ๑ องค์เพื่อประดิษฐานในเส้นทางพระผู้ปราบมารจึงจำเป็นต้องหล่อท่านขึ้นมา
ทำไมต้องหล่อหลวงปู่องค์ที่ ๘ในเมื่อหล่อมาตั้ง ๗ องค์แล้ว?
เพราะจะอัญเชิญไปประดิษฐานยังอนุสรณ์สถานแห่งสุดท้ายในเส้นทางพระผู้ปราบมาร ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิต เมื่อครั้งที่ท่านอายุ ๑๙ ปีเส้นทางพระผู้ปราบมาร ก็คือ เส้นทางที่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญที่เกี่ยวกับชีวประวัติของหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญมีทั้งหมด ๗ แห่ง คือ ๑. สถานที่เกิดด้วย รูปกายเนื้อ ๒. สถานที่ตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิต ๓. สถานที่เกิดในเพศสมณะ ๔. สถานที่เกิดด้วยกายธรรม ๕. สถานที่เผยแผ่วิชชาธรรมกายครั้งแรก ๖. สถานที่ค้นคว้าและเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ๗. สถานที่ขยายวิชชาธรรมกาย ซึ่งทุกแห่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงปู่ทองคำ (หลวงปู่ทองคำองค์ที่ ๗ เป็นองค์ที่หล่อไว้สำหรับอัญเชิญนำขบวนธุดงค์ในเส้นทางพระผู้ปราบมารในทุก ๆ ปี)
มีถึง ๘ องค์ มากเกินไปหรือเปล่า?
การหล่อพระทองคำแค่ ๘ องค์ ในยุคนี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับยุคพุทธกาลหรือยุคโบราณกาล อย่างในยุคของพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสร้างมหาวิหารไว้ถึง ๘๔,๐๐๐ แห่งหรือที่เมืองพุกาม ประเทศพม่า ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ ในสมัยรุ่งเรืองยังมีเจดีย์ที่สร้างติด ๆ กันมากถึง ๔,๔๔๖ องค์
ที่สำคัญปัจจุบันวัดหรือพระพุทธรูปในพระพุทธศาสนามีจำนวนน้อยมาก ทำให้คนไม่สะดวกเดินทางไปวัดหรือไปสักการะพระพุทธรูป อีกทั้งเมื่อเอามาเทียบกับแหล่งอบายมุขที่ทวีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวันจนทำให้คนทำชั่วได้สะดวกทุกหย่อมหญ้าซึ่งมีผลให้ศีลธรรมเสื่อมลงอย่างรวดเร็วดังนั้นถ้านาน ๆ ครั้ง จะมีชาวพุทธหล่อหลวงปู่ด้วยทองคำเพิ่มขึ้นสักองค์ เพื่อเป็นศูนย์รวมใจและเป็นต้นแบบให้คนทำความดี จะไม่ได้เชียวหรือ ??
การประดิษฐานรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ณ สถานที่ที่ท่านตั้งมโนปณิธานว่าจะบวชตลอดชีวิตมีข้อดีอย่างไร?
เมื่อคนได้มาสักการะ ก็จะเกิดคำถามว่า.. “ท่านสำคัญอย่างไร ทำไมต้องหล่อท่านด้วยทองคำ?” จากนั้นก็จะหันมาศึกษาประวัติคุณธรรม คุณวิเศษ มโนปณิธานของท่านว่า..ทำไมหลวงปู่ถึงตั้งความปรารถนาที่จะบวชตลอดชีวิต? การบวชดีอย่างไร? และเมื่อศึกษาจนซาบซึ้งแล้ว ก็จะคิดทำตามข้อวัตรปฏิบัติอันดีงามของท่าน หรืออยากบวชตามอย่างท่านบ้าง
ที่สำคัญ การสร้างพยานทางวัตถุและหลักฐานในพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งสำคัญมากซึ่งตอนนี้เราอาจจะมองไม่ออก แต่ถ้าอีกพัน ๆ ปีผ่านไป หลักฐานเหล่านี้จะกลายเป็นเครื่องยืนยันว่า บุคคลเช่นท่านมีอยู่จริง และท่านสามารถปฏิบัติตามอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้จริง เหมือนพระเจ้าอโศกมหาราช ถ้าท่านไม่สร้างมหาวิหาร ๘๔,๐๐๐ แห่ง ที่เห็นเป็นซากปรักหักพังในปัจจุบัน หลายคนอาจไม่เชื่อว่ากษัตริย์ที่เลื่อมใสและทุ่มเทเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างพระเจ้าอโศกมหาราชมีอยู่จริง เพราะในยุคปัจจุบัน อยู่ ๆ จะมาบอกลอย ๆ ว่า ในอดีตเคยมีกษัตริย์ที่สร้างมหาวิหารถึง ๘๔,๐๐๐ แห่งถ้าไม่มีหลักฐานเด่นชัด ก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะมหาวิหารที่สร้างนั้นมีเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่เราจะเชื่อว่าท่านได้สร้างไว้จริง ๆ
อานิสงส์ผลบุญจากการเอาทองคำมาถวายไว้ในพระพุทธศาสนา ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ไหม มีอะไรบ้าง?
๑. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวาย แผ่นอิฐทองคำ ทำเป็นฐานเจดีย์ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ พระมหากัจจายนะ มีผิวพรรณวรรณะละเอียดผุดผ่องดังทองคำ
๒. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวาย อาสนะแก้วผลึกที่ฉาบทาด้วยทองชมพูนุท อันเป็นทองคำบริสุทธิ์ เพื่อเป็นที่นั่งประทับของพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ภพชาติในอดีตของ พระมหากัจจายนะ ได้ไปเกิดเป็นเทพราชาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ มีรัศมีแผ่ไปโดยรอบไกลถึง ๑๐๐ โยชน์ ได้บังเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีฤทธิ์มาก มีรัตนะ ๗ ประการ สว่างโชติช่วงทั้งกลางวันกลางคืนประดุจดวงอาทิตย์อุทัย และเวียนว่ายตายเกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิยาวนาน
๓. ด้วยอานิสงส์ที่ทำ หม้อดอกไม้ทองคำ ๓ ใบ บรรจุไว้ในเจดีย์ทองคำที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อกราบขอขมาและระลึกถึงคุณของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ชฎิลเศรษฐี เป็น ๑ ใน ๕ ของเศรษฐีที่รวยที่สุดในสมัยพุทธกาล มีภูเขาทองคำสูง ๘๐ ศอกเกิดขึ้นหลังบ้าน
๔. ด้วยอานิสงส์ที่เคยถวาย บัลลังก์ทำด้วยทองคำมีค่าแสนหนึ่ง แด่พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ภพชาติในอดีตของพระภัททิยเถระ ได้ไปเกิดเป็นท้าวสักกเทวราช ๗๔ ครั้ง เป็นพระเจ้าประเทศราชครอบครองพสุธา ๑,๐๐๐ ครั้ง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๑ครั้ง เกิดในตระกูลสูง สมบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติและรูปสมบัติอันเลิศ ได้บวชและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด
๕. ด้วยอานิสงส์ที่ปลด เครื่องประดับทองคำ จากคอ แล้วมอบให้ช่างทองนำไปทำอิฐทองคำ เพื่อสร้างเจดีย์ทองคำสูง ๑ โยชน์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ อุบาสิกาเสสวดี ละโลกแล้วไปเกิดในสวรรค์ มีวิมานทองที่สว่างไสวใหญ่โตวิจิตรตระการตา
๖. ด้วยอานิสงส์ที่ เอาเครื่องประดับมาทำเป็นอิฐทองคำ สร้างเจดีย์บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่งผลให้ไปตัดรอนวิบากกรรมเก่าของ พระภัททกาปิลานีเถรี ที่ทำให้มีกลิ่นตัวเหม็นเหมือนส้วม ให้กลับกลายเป็นกลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกายและมีกลิ่นดอกบัวออกจากปากในภพชาตินั้นเลย และในภพชาติสุดท้ายพระภัททกาปิลานีเถรีได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และยังได้รับการยกย่องจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เป็นเลิศในด้านเป็นผู้มีความสามารถในการระลึกชาติได้เป็นเยี่ยม
ถ้าชวนญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมบุญนี้ ด้วย จะมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง
บุญยิ่งเพิ่มทับทวี สำหรับตัวบุคคลที่ได้มาร่วม บุญด้วย เขาก็ได้บุญ ผู้ชวนก็ได้บุญ เคยมีผู้ถามพระสารีบุตรว่า ทำไมคนบางคนเกิดมาแล้วรวยทรัพย์ แต่จนเพื่อน บางคนรวยเพื่อนแต่จนทรัพย์ บางคนรวยทั้งเพื่อนรวยทั้งทรัพย์ บางคนจนทั้งเพื่อนจนทั้งทรัพย์
ท่านบอกว่า คนที่รวยทรัพย์แต่จนเพื่อน เพราะ ว่าเวลาทำบุญทำเองแต่ไม่ชวนใคร เกรงใจเขา กลัว จะรบกวนเขา ถึงเวลาเลยไม่มีเพื่อน ถ้าจะมีบ้างก็มีแต่เพื่อนเกเร เพื่อนดี ๆ ไม่มี เพราะไม่เคยชวนใครทำความดี มีแต่ชวนกันไปกินเหล้า ซึ่งมีแต่เพื่อน เกเรมาเต็มเลย บางคนรวยเพื่อนแต่จนทรัพย์ เพราะ ว่าชวนเขาทำบุญแต่ตัวเองไม่ทำ เลยมีเพื่อนเป็นมหาเศรษฐีแต่ตัวเองจน คนไหนที่รวยทั้งทรัพย์รวยทั้งเพื่อนก็เพราะว่า ตัวเองทำด้วยและไปชวนคนอื่น เขาทำด้วย แต่คนที่จนทั้งทรัพย์จนทั้งเพื่อน เพราะว่าตัวเองก็ไม่ทำ ไม่ชวนใครด้วย แถมบางทีเห็นเขา ทำบุญยังไปว่าเขาอีก
เพราะฉะนั้น การชวนคนทำความดีมีผลมาก ถ้าเขาทำแล้วเราก็ยังมีส่วนในบุญด้วย เหมือนกับเป็น ปัตตานุโมทนามัยส่วนหนึ่ง คือนึกชื่นชมสิ่งที่เขาทำ เขาไปทำบุญเพราะเรามีส่วน ถึงคราวเราจะทำอะไร จะมีคนอำนวยความสะดวกให้หมด ติดต่อเจรจาธุรกิจการงานทุกอย่างราบรื่นหมด
ทำบุญหล่อทองแล้ว อยากจะรู้หลักการอธิษฐานจิต ว่าอธิษฐานอย่างไรจึงจะได้บุญมาก
เราต้องรู้ถึงสิ่งที่เราจะทำอย่างชัดเจนว่า เรามาทำบุญในครั้งนี้ เราจะมาหล่อหลวงปู่ ให้นึกถึงความสำคัญของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ศึกษาให้เข้าใจลึกซึ้ง รู้ตั้งแต่ว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างไร ยิ่งเข้าใจความสำคัญของท่านลึกซึ้งมากเท่าไร ความศรัทธาของเรายิ่งเพิ่มพูน เสร็จแล้วก็นึกถึงคุณประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการหล่อในครั้งนี้ว่าหล่อแล้วจะเกิดคุณประโยชน์ มหาศาลอย่างไร พอเราทราบทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำอย่างนี้ ความปีติศรัทธาจะเกิดขึ้นในใจ ยิ่งเกิดมากบุญก็ยิ่งเพิ่ม แล้วก็นึกอธิษฐานว่า ด้วยบุญนี้ เมื่อข้าพเจ้าเกิดภพใดชาติใด ให้ถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ให้สามารถเข้าถึงธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าถึงพระธรรมกายเหมือนที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเข้าถึง และได้ทำความดี ตลอดไปทุกภพทุกชาติ อธิษฐานกำกับไปอย่างนี้เลยแล้วจะดีมากๆถูกหลักวิชชา
ดังนั้น จึงขอเชิญผู้มีบุญ ศิษยานุศิษย์และลูกหลานหลวงปู่ทั่วโลก ร่วมพิธีหล่อรูปเหมือนทองคำองค์ที่ ๘ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในวันพุธที่ ๒๕พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อสั่งสมบุญใหญ่ติดตัวไป เพราะไม่แน่ว่าจะมีสักกี่ชาติ สักกี่ครั้งที่เราจะได้สร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ที่บริสุทธิ์บริบูรณ์เช่นนี้
สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02-831-1772 และ 02-831-1000