เด็กชายกับหวี
ในวันเกิดของเด็กชายคนหนึ่ง แม่ของเขาได้ซื้อหวีให้เป็นของขวัญ เขาจึงทะนุถนอมหวีอันนั้นเป็นอย่างมาก และไม่ยอมให้มันอยู่ห่างจากตัวเขาเลย
เด็กชายยังคิดว่าหวีนี้เป็นหวีมหัศจรรย์ เพราะทุกครั้งที่เขาหวีผม หวีนี้ก็ไม่เคยดึงผมของเขาให้หลุดออกมาเลยแม้แต่เส้นเดียว
วันหนึ่งเด็กชายออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน ทันใดนั้นก็เกิดฝนพายุตกหนัก แต่เขากลับลืมหวีไว้ที่บ้าน ลมพายุได้พัดผมของเขาจนพันกันยุ่งเหยิง
เมื่อเด็กชายกลับถึงบ้าน เขาใช้หวีอันเดิมหวีผม หากแต่ครั้งนี้หวีนั้นกลับทำให้หวีของเขาหลุดล่วงออกมาหลายเส้น เขาจึงโมโหและสถบออกไปว่า "เจ้าหวีใจร้าย! ทำไมถึงแกล้งข้าแบบนี้"
เจ้าหวีจึงตอบว่า "ข้าทำหน้าที่เช่นเดิม ผิดที่เจ้าปล่อยให้หวีเปียกโชกและพันกัน ตอนนี้คงไม่มีหวีเล่มไหนในโลกที่จะช่วยเจ้าได้หรอก"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
สิ่งของหรืออุปกรณ์ใด ๆ ย่อมมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อเราใช้งานมันในสภาพที่เหมาะสมและดูแลรักษาให้ดี หากเราปล่อยปละละเลยหรือไม่ใช้สิ่งของนั้นอย่างถูกวิธี เมื่อถึงเวลาที่ต้องการใช้งานจริง สิ่งของนั้นอาจไม่สามารถช่วยเราได้ หรือทำให้เกิดปัญหาแทน การตำหนิสิ่งของภายนอกเป็นการมองข้ามความรับผิดชอบของตัวเอง
The Boy and the Comb
On the birthday of a young boy, his mother bought him a comb for his birthday present. The boy treasured the comb greatly, and never let it out of his sight.
The boy also believed that the comb was magical, because ech time he comb his hair eitj it, the comb never pulled out any of his hairs.
One day, the boy was playing outside of the house when the rainstorm approached suddenly, but the boy had left his comb at home. The storm brew his hair around wildly, leaving it badly tangled.
When the boy reached home, he used his comb, only this time, the comb pulled out many strands of his hair. The boy grew angry, and cursed the comb, saying, "You wicked comb! Why are you doing this to me?"
The comb repiied, "I did my job just as I always have, it is your fault for letting your hair get wet and tangled! No comb in the world could help you now!"
This story teaches us that
Any object or device is useful only if we use it in the right condition and take good care of it. If we neglect or do not use the object properly, when the time comes to actually use it, the object may not be able to help us or may cause problems instead. Blaming external objects is ignoring our own responsibility.
สอดคล้องกับหลักพระพุทธศาสนา