Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน
ตอน ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
คุณค่าของความเป็นคนไม่ได้อยู่ที่การมีทรัพย์มากหรือการมีเกียรติยศชื่อเสียงมีคนนับหน้าถือตา แต่คุณค่าของความเป็นคนอยู่ที่ว่าใครได้ทำความดีและได้ใช้เวลาทุกอนุวินาทีที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด ด้วยการขัดเกลากิเลสอาสวะให้เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง
เพราะผู้ไม่ประมาทย่อมขัดเกลาจิตใจของตนให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน เพราะฉะนั้นพึงอย่าได้ประมาทมัวเมาในชีวิต มัวเมากับลาภยศสรรเสริญ อันไม่ใช่สาระแก่นสารของชีวิต ให้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในกันให้ได้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในขุททกนิกายธรรมบท ว่า
ผู้ใดประทุษร้ายผู้ไม่ประทุษร้ายตนเป็นคนบริสุทธิ์ไม่มีความผิดเลย บาปย่อมกลับมาถึงคนพาลผู้นั้นเอง เหมือนกับละอองฝุ่นที่บุคคลซัดไปทวนลมฉะนั้น
การไปประทุษร้ายผู้บริสุทธิ์ก็เหมือนการถ่มน้ำลายรดฟ้า ปาธุลีทวนลม รังแต่จะทำให้ผู้นั้นได้รับความทุกข์ร้อนใจ มีเรื่องเล่าว่าที่บ้านของชาวกาสีตำบลหนึ่ง มีแม่น้ำที่มีจระเข้อาศัยอยู่หลังบ้านของตระกูลตระกูลหนึ่ง
และตระกูลนั้นก็มีลูกชายคนเดียวเท่านั้น เมื่อบิดาเสียชีวิตลงลูกชายก็ได้ปฏิบัติดูแลมารดาเป็นอย่างดี มารดาได้ขอร้องให้ลูกชายแต่งงานจะได้มีผู้สืบทอดตระกูล แต่ลูกชายไม่ปรารถนาจะแต่งงาน
ครั้นพอนานวันเข้ามารดาเห็นว่าลูกชายไม่ยอมแต่งงานแน่แล้วจึงไปหากุลธิดาคนหนึ่งมาเป็นคู่ครองของลูกชาย ทั้งๆที่ลูกชายไม่ปรารถนา
สมัยแรกๆลูกสะใภ้ก็รักใคร่ดูแลแม่สามีเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันนางก็ถือโอกาสขออนุญาตไปนำแม่แท้ๆของตนมาอยู่ด้วย
ต่อมาเมื่อลูกสะใภ้ให้กำเนิดบุตรชาย บุตรสาวอย่างละคนแล้วก็อยากจะขับไล่แม่สามีซึ่งแก่ชรามากแล้วให้ไปอาศัยอยู่ที่อื่น
นางจึงวางแผนใส่ร้ายต่างๆนานาว่าทำบ้านให้สกปรกบ้าง ชอบรังแกหลานๆบ้าง ฝ่ายสามีครั้นถูกภรรยาฟ้องบ่อยเข้าก็ ประกอบกับตัวเองกำลังเห่อลูกชายลูกสาวที่กำลังน่ารักก็คล้อยตาม
ฝ่ายมารดารู้ดีว่าลูกชายกำลังหลงใหลภรรยาและบุตรธิดา ก็เลยไม่ได้โต้ตอบ ได้แต่คิดว่าสักวันหนึ่งลูกชายคงจะคิดได้
แต่ภรรยาผู้มีใจเหี้ยมโหดไม่ยอมหยุดอยู่แค่นั้น นางได้ยุให้สามีฆ่ามารดาเสีย เมื่อสามีทัดทานว่าการฆ่าแม่บังเกิดเกล้าเป็นอนันตริยกรรม จะฆ่าแม่ได้อย่างไร
นางจึงออกอุบายว่าในเวลาที่แม่หลับเราก็ช่วยกันหามทั้งเตียงไปโยนลงในแม่น้ำหลังบ้านและจระเข้ก็จะฆ่าเองโดยที่เราไม่ต้องฆ่า
แต่เนื่องจากแม่ของนางกับแม่ของสามีนอนอยู่เตียงใกล้กัน ยากจะแยกแยะออกว่าใครเป็นใครในเวลากลางคืน สามีจึงให้นางนำเชือกไปผูกที่ปลายเตียงของแม่ตัวเองเพื่อทำเป็นเครื่องหมาย ตกดึกจะได้แอบเข้าไปยกได้ง่ายแต่ไม่ผิดพลาด
แต่ด้วยความกตัญญู เมื่อภรรยานอนหลับเอาแรงอยู่นั้น สามีก็แอบแก้เชือกและนำเอาไปผูกที่ปลายเตียงของแม่ภรรยาแทน พอได้เวลาเมื่อแม่ของทั้งสองนอนหลับสนิทก็ช่วยกันยกเตียงที่ผูกเชือกทำเป็นเครื่องหมายเอาไว้โยนลงไปในแม่น้ำ
โดยที่ภรรยาไม่มีโอกาสรู้ความจริงว่าเชือกได้ถูกเปลี่ยนมาผูกที่เตียงของแม่ตัวเองแล้ว ฝูงจระเข้รู้ว่ามีเหยื่อมาถึงต่างก็ยื้อแย่งเคี้ยวกินทันที
วันรุ่งขึ้นทันทีที่นางเห็นแม่สามีเดินออกจากห้องนอนก็รู้ว่าได้ฆ่าแม่ตัวเองเสียแล้ว ทำให้นางเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่สำนึกแต่กลับคิดว่าผู้ที่เป็นต้นเหตุให้มารดาของนางตายก็คือแม่สามี ดังนั้นนางจึงตั้งใจมั่นที่จะฆ่าแม่สามีให้ด้วย
วันหนึ่งนางก็ได้ประจบประแจงสามีจนลุ่มหลงและปรึกษาว่าแม่ของฉันก็ถูกฆ่าแล้ว ต่อไปนี้พี่ก็จงฆ่าแม่ของพี่เถิด เมื่อสามีตอบตกลงนางก็ออกอุบายว่า ตอนกลางคืน จะนำมารดาซึ่งนอนหลับอยู่บนเตียงไปเผาที่เชิงตะกอนในป่าช้าจะได้ไม่มีคนเห็น
ครั้นตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ตอนกลางคืนสองสามีภรรยาก็พากันยกมารดาไปที่ป่าช้า แต่พอจะลงมือเผาโชคก็เข้าข้างแม่สามี เพราะทั้งสองลืมเอาไฟไปด้วย หากจะให้สามีกลับไปเอาไฟจากบ้านมา ภรรยาก็ไม่กล้าอยู่คนเดียว ครั้นจะให้สามีเป็นคนเฝ้า ภรรยาก็ไม่กล้าเดินทางไปคนเดียวอีก ในที่สุดทั้งสองจึงกลับไปเอาไฟที่บ้านพร้อมกัน
ฝ่ายมารดาผู้แก่ชรารู้สึกตัวตื่นขึ้นเพราะอากาศตอนค่ำคืน เมื่อพิจารณาโดยรอบก็รู้ว่าบัดนี้ตัวเองไม่ได้นอนอยู่ในห้องแต่มานอนอยู่ป่าช้า ครั้นพิจารณาใคร่ครวญถี่ถ้วน ก็รู้ว่าสองสามีอกตัญญูผู้นี้ประสงค์จะเผาตนทั้งเป็น
ด้วยความที่นางผ่านร้อนผ่านหนาวมามากก็ไปแบกซากศพศพหนึ่งมาวางบนเตียงแทน จากนั้นก็เอาผ้าเก่าคลุมข้างบน ส่วนตัวเองรีบหนีเข้าไปอยู่ในถ้ำซึ่งอยู่ใกล้ป่าช้า
ฝ่ายสองสามีภรรยาได้ไฟมาแล้วก็เผาทันทีโดยที่ไม่ได้พิจารณา ในคืนนั้นเองที่ถ้ำลับแห่งนั้นมีโจรคนหนึ่งได้เข้ามาเอาสิ่งของที่ตนเองขโมยไปเก็บไว้
ครั้นเข้ามาในถ้ำก็เห็นหญิงชรามีผมเผ้ารุงรัง ทำให้เข้าใจว่าเป็นยักษิณี จึงรีบไปตามหมอผีให้มาขับไล่
เมื่อหมอผีเดินร่ายมนต์เข้าไปในถ้ำก็ไม่เห็นว่าหญิงชราจะเกิดอาการกิริยาเล่าร้อนอย่างไรเหมือนที่เคยไปขับไล่อมนุษย์ที่อื่น เมื่อหญิงชราบอกว่าตนเองไม่ใช่ยักษิณีหมอผีจึงลังเลขึ้นมาและถามว่าจะให้เชื่ออย่างไร หญิงชราคิดอุบายและได้บอกว่า ถ้าอย่างนั้นท่านจงเอาลิ้นของท่านวางบนลิ้นของเรา หมอผีก็พาซื่อ ได้ทำตามนั้น
ทันใดนั้นเองหญิงชราก็กัดลิ้นของหมอผีจนขาด ทำให้หมอผีคิดว่าหญิงชรานี้ต้องเป็นยักษิณีที่มีฤทธิ์แก่กล้าแน่ๆ จึงวิ่งหนีออกจากถ้ำหนีไปด้วยความเจ็บปวด ฝ่ายโจรเมื่อเห็นหมอผีวิ่งออกไปอย่างนั้นก็วิ่งหนีออกไปบ้างด้วยความกลัวตาย
ครั้นวันรุ่งขึ้นหญิงชราผู้เรืองปัญญารู้จักเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสก็ถือเอาสิ่งของที่มีค่ามากมายกลับไปบ้านด้วยความเบิกบานใจ ฝ่ายลูกสะใภ้เห็นแม่สามีเดินเข้าบ้านมาก็ตกใจกลัว เพราะนึกไม่ว่าแม่สามีรอดตายมาได้อย่างไร แถมยังมีสมบัติติดมือกลับมาบ้านอีกด้วย
จึงแสร้งไตร่ถามว่าแม่จ๋า แม่ได้สิ่งของนี้มาจากไหน นางคิดว่าลูกสะใภ้คนนี้ช่างมีจิตใจเหี้ยมโหดนัก สามารถเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายลุ่มหลงถึงขนาดฆ่าแม่ผู้บังเกิดเกล้าได้ การอยู่ร่วมกับหญิงสะใภ้คนนี้รังแต่จะนำทุกข์มาให้ทั้งแก่ตนเองและลูกชาย
นางจึงบอกลูกสะใภ้ว่า ลูกเอ๋ย ใครก็ตามถูกเผาทั้งเป็นที่ป่าช้าในเวลากลางคืน บุคคลนั้นจะมีชีวิตเป็นอมตะ นอกจากจะไม่ตายแล้วยังได้ทรัพย์สมบัติเป็นเครื่องตอบแทนอีกด้วย คืนนี้ถ้าเธอกล้าที่จะให้คนเผาทั้งเป็นในเวลาเที่ยงคืนก็จะได้สมบัติอย่างที่แม่ได้รับมา
เพราะความโลภเป็นเหตุไม่ได้พิจารณาถึงความเป็นจริง นางจึงขอร้องให้แม่ของสามีเผาตนเองโดยที่ไม่ได้ลังเล และยังบอกให้สามีไปช่วยเผาตนในป่าช้าอีกด้วย สามีก็พาซื่อ ได้เผาภรรยาตนเองทั้งเป็นจริงๆ ครั้นในวันรุ่งขึ้นสามีไม่เห็นภรรยากลับมาถึงถามมารดาว่า ทำไมป่านนี้ภรรยาถึงยังไม่มา
หญิงชราได้ฟังแล้วจึงตวาดลูกชายว่า เจ้าคนเขลาคนที่ตายแล้วจะมาได้อย่างไร จากนั้นก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างให้ลูกชายฟังพร้อมกับสอนลูกชายให้รู้เท่าทันคนจะได้ไม่ทำตนและมารดาให้เดือดร้อน ฝ่ายลูกชายก็กราบขอขมามารดาที่ถูกอกุศลเข้าสิงจิต และตั้งใจเลี้ยงดูมารดาเป็นอย่างดีจนตลอดชีวิต
จะเห็นได้ว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว วิบากกรรมของคนอกตัญญูนั้นมักจะส่งผลเร็วและแรง แม้จะส่งผลเพียงเศษกรรมก็ตามแต่ก็เป็นกรรมหนักเพราะไปทำกับบุพการีผู้มีพระคุณ ฉะนั้นให้มีสติให้ดีอย่าหลงมัวเมาจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
ในฐานะที่เราเป็นลูกเราก็ต้องตระหนักถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ อีกทั้งผู้ที่เคยทำคุณงามความดีให้เราแม้เพียงเล็กน้อยก็ให้จดจำเอาไว้และหาโอกาสตอบแทนคุณท่าน คุณธรรมของเราจะได้เจริญขึ้น และจะได้เป็นคนดีที่โลกต้องการ