ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : ทำถูกเนื้อนาบุญในกาลเป็นที่สุด


ธรรมะเพื่อประชาชน : ทำถูกเนื้อนาบุญในกาลเป็นที่สุด

Dhamma for people
ธรรมะเพื่อประชาชน

DhammaPP_120.jpg

ทำถูกเนื้อนาบุญในกาลเป็นที่สุด

                    การปฏิบัติธรรมเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด ในการเกิดมาเป็นมนุษย์ ทั้งยังมีผลต่อมวลมนุษยชาติทั้งหลาย สุขทั้งหลายทั้งปวงบังเกิดขึ้นได้ ถ้าใจบริสุทธิ์หยุดนิ่ง การที่จะทำให้โลกของเราเข้าถึงยุคแห่งสันติสุขที่แท้จริงได้นั้นน่ะ ต้องเริ่มต้นด้วยการปฏิบัติธรรม ทำใจให้หยุด ใจให้นิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นทางเอกสายเดียวที่จะเข้าสู่ภายในได้ เพราะในตัวของมนุษย์ทุกๆ คนมีกายธรรมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติศาสนาไหน พูดภาษาอะไรหรืออยู่ส่วนใดของโลกก็ตาม สามารถที่จะเข้าถึงธรรมกายได้โดยการปฏิบัติที่ถูกต้องและทำอย่างถูกวิธี หากเรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะเข้าถึงธรรมกายแล้ว ก็ต้องลงมือปฏิบัติธรรมด้วยความสมัครใจ มีฉันทะ และก็ทำด้วยความอริยะอุตสาหะมีความเพียรที่สม่ำเสมอ ก็จะเข้าถึงพระธรรมกายได้อย่างแน่นอน

 

 

DhammaPP120_01.jpg

                    มีวาระแห่งสุภาษิตปรากฏอยู่ในสุภัททะเถราประธานที่ ๙ ความว่า

ผู้ใดเอาร่มกฤษณาและมะลิซ้อนบังร่มให้เรา ในการที่สุดเราจะพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว บุคคลผู้นี้เคลื่อนจากโลกนี้แล้ว จะไปสู่หมู่เทวดาชั้นดุสิต เขาได้เสวยราชสมบัติในชั้นดุสิตนั้นแล้วจะไปสู่ชั้นนิมมานรดี เขาถวายดอกมะลิซ้อนอันประเสริฐสุด ด้วยอุบายนี้แล้ว จักปรารภกรรมของตนเสวยสมบัติ บุคคลผู้นี้จะบังเกิดในชั้นดุสิตนั้นอีก เคลื่อนจากชั้นนั้นแล้วจักไปสู่ความเป็นมนุษย์ 

 

 

DhammaPP120_03.jpg

                    พลานิสงส์แห่งการบูชาพระรัตนตรัยนั้น มีอานิสงส์ไม่มีประมาณ ผู้มีศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม สร้างบุญถูกแหล่งแห่งเนื้อนาบุญ นับได้ว่าเป็นผู้ที่โชคดีที่สุด ในการเกิดมาเป็นมนุษย์ ดังถ้อยคำอันงดงามที่หลวงพ่อนำมากล่าวนี้ เป็นคาถาของพระอรหันต์เถระเจ้ารูปหนึ่ง ผู้ซาบซึ้งในผลแห่งการสร้างบารมี หลังจากได้บรรลุธรรมแล้ว ท่านได้ย้อนกลับไปดูบุพกรรมที่ได้ประสบมาด้วยตัวของตัวเอง แล้วท่านก็ได้กล่าวเอาไว้เป็นเครื่องยืนยันว่า ผลแห่งบุญนั้นน่ะมีจริงดีจริง และหากใครได้ทำก็เชื่อมั่นได้เลยว่า ต้องได้อานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ไพศาลจริงเช่นกัน

                    เมื่อครั้งที่ท่านยังสร้างบารมีอยู่นั้น ท่านก็เป็นสัมมาทิฐิ เชื่อเรื่องกรรม และผลของกรรม ได้สร้างบุญในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ตามวาระโอกาสในภพชาตินั้นๆ แต่ท่านยังไม่มีโอกาสที่จะสร้างบุญพิเศษอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าใดนัก ครั้นสั่งสมบุญแล้วก็ตั้งจิตอธิษฐาน มุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพาน ไม่ได้ทำตัวให้เปล่าประโยชน์อย่างโมฆะบุรุษ ที่ดูเบาละเลยในเรื่องการสร้างบารมีในภพชาตินั้นๆ เลย ท่านสั่งสมบุญมาเรื่อยๆ จนเป็นนิสัย รักในการสั่งสมบุญข้ามภพข้ามชาติ

 

 

DhammaPP120_02.jpg

                    จนกระทั่งมาถึงในสมัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตร ในภพชาตินี้ผลแห่งบุญเก่าที่ท่านได้สั่งสมมา ส่งผลให้ท่านลงมาเกิดในเรือนที่มีชื่อเสียง และฐานะดีตระกูลหนึ่งในยุคนั้น กล่าวได้ว่าท่านเกิดมาอย่างผู้มีบุญ เพราะเกิดมาท่ามกลางความสมบูรณ์พร้อม ทั้งทางรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและก็คุณสมบัติ ที่ผู้มีบุญจะพึงได้ 

 

 

DhammaPP120_06.jpg

                    ตัวของกุลบุตรนี้ก็เป็นผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยศรัทธา มีความเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้ายิ่งนัก เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว ทางบิดามารดา และญาติพี่น้องก็ตบแต่งให้มีเย้าเรือนตามประเพณีของชาวโลกทั้งหลาย แม้จะอยู่ครองเรือนมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ แต่ก็ไม่เคยว่างเว้นจากการสร้างบุญเลย ความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ไม่เคยลดน้อยถอยลงไปแม้แต่นิดเดียว แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสที่จะสร้างบุญพิเศษ ที่ควรค่าแก่การจดจำเท่าใดนัก 

 

 

DhammaPP120_07.jpg

                    จนกระทั่งพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประกาศพระศาสนาไปทั่วชมพูทวีป ยังสัตว์โลกทั้งหลายให้มีดวงตาเห็นธรรมมา มาถึงยุคปลายแห่งพระชนม์ชีพ พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ในวันสุดท้ายก่อนจะเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น ก็ได้มีพระสาวกทั้งที่เป็นคฤหัสถ์และทั้งที่เป็นบรรพชิต ต่างก็มาประชุมกันมากมาย กุลบุตรนี้มองเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบรรทมบนพระแท่น ซึ่งเป็นที่ปรินิพพาน และเห็นเทวดาในหมื่นจักรวาลมาประชุมกัน ก็บังเกิดความอัศจรรย์ใจในพุทธานุภาพ 

 

 

DhammaPP120_08.jpg

                    จึงเข้าไปใกล้ ได้น้อมบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยดอกไม้ มีกลิ่นหอมมีดอกคนทีสอ ดอกลำเจียกและดอกอโศกเขียว ขาวเป็นต้น พร้อมกับก้มลงถวายบังคมด้วยความเลื่อมใสอันไม่มีประมาณ ได้มองเห็นพระวรกายอันผุดผ่อง สว่างไสวด้วยฉับพลันรังสี ท่ามกลางดอกไม้หอมที่ตนเองมอบถวาย ก็ยิ่งเกิดมหาปีติ รำพึงอยู่ในใจว่า นับว่าเป็นบุญลาภอย่างไม่มีที่เปรียบ ที่เราได้สร้างบุญกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ 

 

 

DhammaPP120_09.jpg

                  พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตรผู้ยอดเยี่ยมในโลก ทรงทราบความดำหริของกุลบุตรผู้มีบุญท่านนี้ ขณะบรรทมอยู่นั้นเอง ทรงปรารถนาที่จะให้กุลบุตรนั้น บังเกิดมหาปีติยิ่งยิ่งขึ้นไป จึงได้ตรัสชื่นชมอนุโมทนาและพยากรณ์ว่า ดูก่อนพุทธบริษัททั้งหลาย ผู้ใดเอาร่มกฤษณาและมะลิซ้อนบังร่มให้เราในการที่สุด เราจะพยากรณ์ผู้นั้น 

 

 

DhammaPP120_10.jpg

                    ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว บุคคลผู้นี้ได้สร้างบุญใหญ่อย่างไม่มีประมาณ เคลื่อนจากโลกนี้แล้ว จักไปสู่หมู่เทวดาชั้นดุสิต เขาจะได้เสวยสมบัติอันเป็นทิพย์ในชั้นดุสิตนั้น ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน หมดอายุของชาวสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว จักไปสู่สวรรค์ชั้นนิมมานรดี เขาถวายดอกมะลิซ้อนอันประเสริฐสุด ด้วยอุบายนี้แล้ว มองเห็นมหาสมบัติทิพย์ก็บังเกิดมหาปีติ มองเห็นกรรมที่ตนเองได้กระทำ จักปรารภกรรมของตน เสวยสมบัติ ผู้นี้จะกลับมาบังเกิดในชั้นดุสิตนั้นอีก เสวยมหาสมบัติทิพย์อยู่อย่างนั้น จึงจะเคลื่อนจากชั้นนั้นไปสู่ความเป็นมนุษย์ 

 

 

DhammaPP120_11.jpg

                    ในสมัยของพระสมณโคดม พระมหานาคศากยบุตร ผู้เลิศในโลกพร้อมทั้งเทวโลก ผู้มีพระจักษุ ทรงยังสัตว์ให้ตรัสรู้เป็นอันมากแล้ว จักเสด็จนิพพานในกาลนั้น กุลบุตรนี้อันกุศลกรรมตักเตือนแล้ว จักเข้าไปเฝ้าพระสมณโคดม ในวันเป็นที่ปรินิพพาน เหมือนการเข้ามาเฝ้าเราในวันนี้ 

 

 

DhammaPP120_12.jpg

                    ครั้นเข้าไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จักทูลถามปัญหา ในการนั้นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นนายกของโลก ทรงให้ร่าเริง ทรงทราบบุพกรรม จักทรงเปิดเผยสัจจะทั้งหลาย เขายินดีว่าปัญหานี้น่ะ พระบรมศาสดาทรงปรารภแก้แล้ว มีใจชื่นชม ถวายบังคมพระบรมศาสดา แล้วจักทูลขอบวช พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นทรงฉลาดในธรรมอันเลิศ ทรงเห็นว่าเขามีบารมีเต็มเปี่ยม เหมาะสมที่จะบรรลุธรรมได้ ทั้งมีใจเลื่อมใสอย่างเต็มเปี่ยม ยินดีด้วยกรรมของตน จักทรงให้บวช 

 

 

DhammaPP120_04.jpg

                    บุคคลผู้นี้หลังบวชไม่นาน ตั้งใจปฏิบัติธรรม ก็จะกำหนดรู้อาสวะทั้งปวงได้ แล้วจะเข้าถึงนิพพานในศาสนาของพระสมณโคดมพระพุทธเจ้า กุลบุตรผู้มีศรัทธาท่านนี้ พอได้ฟังพุทธพยากรณ์อย่างนั้น มหาปีติก็แผ่ขยายไปทั่วสารพางค์กาย ภาพแห่งการสร้างบุญและคำพยากรณ์ในครั้งนั้น ได้ประทับอยู่ในความทรงจำตลอดชีวิต ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านดำรงค์อยู่จนสิ้นอายุขัยละจากอัตภาพนั้นแล้ว ก็ไปเสวยทิพยสมบัติในภพชั้นดุสิต และนิมมานรดีดังคำพยากรณ์ 

 

DhammaPP120_13.jpg

                    จากนั้นก็เสวยมนุษย์สมบัติในหมู่มนุษย์ เวลาที่ลงมาเกิด ไม่ว่าจะย่างก้าวไปที่ใด ก็จะเป็นผู้ที่เขาบูชาด้วยดอกไม้ทั้งหลาย ในที่ที่ตนเกิดแล้ว จนกระทั่งมาถึงพุทธุปบาทการนี้ บังเกิดในตระกูลที่สมบูรณ์ด้วยสมบัติตระกูลหนึ่ง ถึงแม้ท่านจะเห็นโทษในกามทั้งหลาย ก็ไม่สามารถออกบวชได้ 

 

 

DhammaPP120_05.jpg

             จนกระทั่งวันเสด็จดับขันธปรินิพพานของพระผู้มีพระภาคเจ้าของเรา จึงมีโอกาสได้เข้าเฝ้า แล้วทูลถามปัญหาพระบรมศาสดา พระองค์ก็ตอบปัญหาให้กระจ่าง และทรงประทานการบรรพชาอุปสมบท ให้เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์

 

 

DhammaPP120_15.jpg

                          ท่านได้บำเพ็ญเพียรไม่นานก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ จริงดังพุทธพยากรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าพระปทุมุตรทุกประการ เห็นไหมจ๊ะว่า ในชีวิตการสร้างบารมีของนักสร้างบารมีนั้น ต่างก็มีชีวประวัติการสร้างความดีกับเนื้อนาบุญทั้งสิ้น ท่านจะได้โอกาสทำบุญกับเนื้อนาบุญ และผลแห่งการบูชาเนื้อนาบุญนั้น  ก็มีมหานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาล บังเกิดเป็นผลอย่างน่าอัศจรรย์ เหมือนชีวิตของพระสุภัททะเถระเจ้านั้น เป็นตัวอย่างที่ลูกๆ ควรจะนำไปปฏิบัติตาม ยิ่งถ้าเราบูชาทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชาด้วยแล้ว มหานิสงส์นั้นก็จะยิ่งทับทวีคูณไม่มีประมาณ ดังนั้นให้ตั้งใจมั่นทีเดียวว่า เราจะเอาบุญทั้งสองอย่างนี้ให้เต็มที่เต็มเปี่ยมบริบูรณ์กันนะจ๊ะ

พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล