ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ๑


ธรรมะเพื่อประชาชน : สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ๑

Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน

DhammaPP226_01.jpg
สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ๑


                การศึกษาทางโลกกับทางธรรมนั้น มีความแตกต่างกัน การศึกษาทางโลกต้องอาศัยการได้ยินได้ฟังได้อ่าน อาศัยการท่องจำการคิดค้นทดลอง จึงจะศึกษาได้สำเร็จ ซึ่งตรงกันข้ามกับการศึกษาในทางธรรม ที่ต้องอาศัยการทำใจหยุดใจนิ่งอย่างเดียวเท่านั้น จึงจะสำเร็จประโยชน์อันสูงสุด คือได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะหยุดเป็นตัวสำเร็จ ใช้เพียงหยุดนิ่งอย่างเดียว หยุดจนกระทั่งถูกส่วนไปตามลำดับ จนสามารถเข้าถึงพระธรรมกายภายใน เมื่อนั้นความรู้แจ้ง เห็นแจ้งภายในก็จะบังเกิดขึ้นจะเปลี่ยนจากผู้เรียนรู้ มาเป็นผู้รู้แจ้ง ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านก็อาศัยการหยุดนิ่งนี่แหละ จึงสามารถกำจัดกิเลสอาสวให้หมดสิ้นไปได้ 

 

 

DhammaPP226_02.jpg

                มีวาระพระบาลีที่ปรากฏในขุททกนิกาย พุทธวงศ์ว่า

                ที่พึ่งอาศัยของชนทั้งหลายในโลกนี้ หรือในโลกหน้าอย่างอื่น ที่เสมอด้วยศีลจะมีแต่ที่ไหน ศีลเป็นที่ตั้งสำคัญของคุณธรรมทั้งหลายเหมือนแผ่นดินเป็นที่ตั้งของสิ่งที่อยู่กับที่ และสิ่งที่เคลื่อนที่ได้ฉะนั้น 


                ศีลเป็นคุณธรรมพื้นฐานที่สำคัญที่สุด เปรียบเสมือนแผ่นดินที่ทำหน้าที่รองรับสรรพสัตว์และสรรพสิ่งเอาไว้ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม หากรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์แล้ว ก็จะเป็นทางมาแห่งคุณธรรมความดีทั้งมวล ผู้มีศีลคือผู้ที่พร้อมที่จะรองรับคุณธรรมทั้งภายนอกและภายใน ศีลที่เรารักษาไว้ดีแล้ว จะเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ นำความสุขที่เป็นโลกุตระมาให้และยังเป็นทางมาแห่งมหาสมบัติ ทั้งทางโลกและทางธรรม ทางโลกก็จะได้โลกียทรัพย์ เมื่อละโลกแล้วก็มีสุคติเป็นที่ไป ทางธรรมก็จะได้อริยทรัพย์คือได้เข้าถึงพระธรรมกาย ได้บรรลุมรรคผลนิพพานอย่างง่ายดาย

 

DhammaPP226_03.jpg


                สำหรับวันนี้หลวงพ่อมีตัวอย่างของผู้ที่รู้ว่า อีกไม่กี่วันตัวเองก็จะต้องตาย แต่ด้วยความที่ท่านได้ยอดกัลยาณมิตรมาแนะนำว่า ศีลเท่านั้นเป็นที่พึ่งทั้งในโลกนี้และโลกหน้า จึงมุ่งมั่นรักษาศีล ๕ ข้อให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ พร้อมกับหาโอกาสให้ทานควบคู่กันไปด้วย เรื่องราวการ เตรียมตัวไปสู่ปรโลกของอุบาสกท่านนี้จะเป็นอย่างไร เรามารับฟังกันเลยนะจ๊ะ

 


                เรื่องของท่านก็มีอยู่ว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พระมหากัจจายนะได้ไปบำเพ็ญสมณธรรม อยู่ในป่าแห่งหนึ่งในปัจจันตชนบท ซึ่งอยู่ชายแดนแห่งพระนครราชคฤห์ สมัยนั้นพระเจ้าอัสสกะครองราชอยู่ในแคว้นอัสสกะ อัครมเหสีของพระองค์ได้ประสูติพระราชกุมาร พระนามว่าสุชาตะ พระกุมารเป็นที่รักยิ่งของพระราชา ภายหลังเมื่อพระมเหสีสวรรคตแล้ว พระเจ้าอัสสกะจึงทรงแต่งตั้งพระอัครมเหสีองค์ใหม่ขึ้นมาแทน 

 

DhammaPP226_04.jpg

                ต่อมาเมื่อพระอัครมเหสีองค์ใหม่ประสูตรพระโอรส พระเจ้าอัสสกะก็ทรงโปรดปรานพระโอรสองค์ใหม่มาก ถึงกับพระราชทานพรว่า ดูก่อนมเหสี เราจะให้พรอย่างหนึ่งแก่เธอ เธอจงถือเอาทุกสิ่งที่ตนปรารถนาเถิด พระอัครมเหสีทรงรับพรนั้นไว้ รอจนกระทั่งพระกุมารเติบใหญ่ จึงทวงถามถึงพรที่พระราชทาน โดยขอประทานราชสมบัติให้แก่พระกุมารของพระนาง ทำให้พระเจ้าอัสสกะอึดอัดพระทัยมาก แต่ด้วยศักดิ์ศรีของกษัตริย์ เมื่อตรัสแล้วก็ไม่คืนคำ ทำให้พระองค์ต้องจำยอมประทานราชสมบัติให้ 

 

 

DhammaPP226_05.jpg

                พระเจ้าอัสสกะทรงรับสั่งให้สุชาตกุมารเข้าเฝ้า พระกุมารเสด็จมาเข้าเฝ้าแล้ว ก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังด้วยความเศร้าพระทัย สุชาตกุมารเป็นคนมีปัญญา จึงกราบทูลด้วยอาการที่แจ่มใส เพื่อให้พระบิดาเบาพระทัยว่า ตนเองนั้นน่ะไม่ได้มีความปรารถนาในราชสมบัติแต่อย่างใด ขอให้เสด็จพ่อทรงสำราญพระทัยเถิด อีกทั้งเพื่อเป็นการเปิดทางให้กับ ผู้ที่จะมาสืบทอดราชสมบัติ ท่านจึงทูลขออนุญาตพระบิดาไปอยู่ที่เมืองอื่น พระเจ้าอัสสกะไม่ยอมจึงรับสั่งว่า จะสร้างเมืองใหม่ให้ เมื่อพระกุมารตรัสห้าม พระราชาจึงเสนอให้ไปอยู่กับพระสหาย พระกุมารก็ไม่ทรงประสงค์อีก แต่กราบทูลว่า หม่อมฉันปรารถนาจะไปอยู่ในป่าตามลำพังพระเจ้าข้า

 

 

DhammaPP226_06.jpg

                พระเจ้าอัสสกะทรงรู้สึกสับสนในการตัดสินพระทัยของพระกุมารเป็นอย่างมาก ครั้นจะห้ามปรามเป็นครั้งที่ ๓ ก็จะเป็นการบีบบังคับพระโอรสมากเกินไป จึงตรัสเป็นนัยว่าถ้าอย่างนั้นเมื่อพ่อสวรรคตแล้ว ลูกจงใช้ความสามารถกลับมาครองราชสมบัติ ในพระนครนี้ด้วยตัวเองเถิด พระกุมารรู้ว่าพระบิดาทรงรักพระองค์มาก จึงตรัสเป็นเชิงให้โอกาสมาเอาบัลลังก์จากพระอนุชาต่างมารดา แต่พระกุมาก็ไม่ได้ยินดีในราชสมบัตินั้นเลย ได้ถวายบังคมลาแล้วมุ่งหน้าเข้าป่าไป ทรงอาศัยอยู่กับพวกพรานป่าอย่างมีความสุข

 

DhammaPP226_07.jpg

                วันหนึ่งขณะที่พระกุมารกำลังล่าเนื้ออยู่นั้น มีเทพบุตรองค์หนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเพื่อนภิกษุในอดีตชาติ ได้แปลงเป็นเนื้อเพื่อเป็นเหยื่อล่อพระกุมาร โดยเนื้อนี้ได้วิ่งเข้าไปที่พักของพระมหากัจจายนะแล้วก็หายไป ส่วนพระกุมารคิดจะจับเนื้อตัวนี้ให้ได้จึงวิ่งไล่ตามไป เมื่อไปถึงก็ไม่เห็นเนื้อ เห็นแต่พระเถระนั่งอยู่ในบรรณศาลา

 

DhammaPP226_08.jpg

                พระเถระมองดูพระกุมาร ก็รู้ความเป็นไปทั้งหมด ด้วยญาณทัศนะของท่านและเพื่อจะอนุเคราะห์พระกุมารจึงถามว่า ท่านผูกสอดธนูไว้มั่นยืนเล็งธนูไม้แก่นอยู่ ท่านเป็นใครเป็นราชกุมารหรือเป็นพรานป่า   พระกุมารตอบพระเถระว่า พระคุณเจ้าข้าพเจ้าเป็นโอรสของพระเจ้าอัสสกะ นามว่าสุชาตะ ข้าพเจ้านี้กำลังตามหาเนื้อ ซึ่งเข้ามาในบริเวณนี้อยู่

 

 

DhammaPP226_09.jpg

                พระเถระทำการปฏิสันฐานพระกุมารว่า ท่านเป็นผู้มีบุญมากที่ได้มายังสถานที่แห่งนี้ ฉะนั้นท่านจงไปล้างเท้าให้สะอาดก่อน แล้วดื่มน้ำเย็นที่อาตมาได้ตักมาจากซอกเขา เมื่อดื่มแล้วก็เชิญท่านมานั่งบนผ้ารองนั่งนี้เถิด พระกุมารเห็นจริยวัตรอันงดงาม และความมีใบหน้าที่อิ่มเอิบเบิกบานของพระเถระ รวมทั้งได้รับการต้อนรับเชื้อเชิญอย่างดีจึงรู้สึกอบอุ่น

 

 

DhammaPP226_10.jpg

                โดยสนทนากับพระเถระว่า ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เป็นปราชญ์ วาจาของพระคุณเจ้าน่าฟังยิ่งนักเป็นวาจาไม่มีโทษมีแต่ประโยชน์ ทั้งมีความไพเราะเสนาะโสต พระคุณเจ้ารู้จักกล่าวแต่สิ่งที่มีประโชน์ ข้าพเจ้าขอถามพระคุณเจ้าว่า เหตุไรพระคุณเจ้าจึงยินดีอยู่ในป่า ขอพระคุณเจ้า โปรดบอกด้วยเถิด ข้าพเจ้าได้ฟังด้วยคำอันเป็นมงคลของท่านแล้ว จะได้นำไปปฏิบัติตามท่านบ้าง 

 

 

                        พระเถระได้ให้ธรรมะ ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวันว่า ดูก่อนกุมาร อาตมาชอบใจการไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งปวง การงดเว้นจากการลักขโมย การงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม การงดเว้นจากการพูดเท็จ การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา การงดเว้นจากบาปธรรม การยินดีต่อการประพฤติสงบ ความเป็นพหูสูตร ความเป็นคนกตัญญู คุณธรรมเหล่านี้กุลบุตรต่างก็สรรเสริญในปัจจุบัน ทั้งวิญญูชนก็สรรเสริญ 

 

DhammaPP226_11.jpg

                เมื่อพระเถระกล่าวถึงสัมมาปฏิบัติของท่านแล้ว ก็ได้ตรวจดูอายุขัยของพระกุมารด้วยอนาคตังสญาณก็เห็นว่า พระกุมารมีอายุเหลืออีกเพียง ๕ เดือนเท่านั้น เพื่อจะให้พระกุมารเกิดความสลดพระทัยและตั้งอยู่ในสัมมาปฏิบัติอย่างมั่นคง จึงกล่าวเตือนว่า ดูก่อนกุมารท่านจงรู้ตัวเถิดว่าอีก ๕ เดือนต่อจากนี้ไป ท่านจะหมดอายุขัย ดังนั้นท่านจงเปลื้องตนออกจากทุกข์ในอบายเถิด พอพระกุมารฟังแล้วถึงกลับสดุ้ง จึงตรัสถามว่าข้าพเจ้าจะไป ณ ที่ไหนและจะทำอย่างไรถึงจะไม่แก่และไม่ตายครับ

 

 

                ส่วนว่าพระเถระจะแนะนำพระกุมารว่าอย่างไรนั้น เราคงต้องมาติดตามรับฟังกันในวันถัดไปแล้วนะจ๊ะ สำหรับเรื่องราวในวันนี้ เราจะเห็นว่าการทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดี คือการประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี แล้วนำสิ่งที่เราได้ประพฤติปฏิบัติไปแนะนำให้กับชาวโลก เขาจะได้เกิดแรงบันดาลใจ ในการที่จะทำความดีตามเราไปด้วย ดังนั้นให้ลูกๆ ทุกคนตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองทำความดีกันให้เต็มที่ทั้งทาน ศีล ภาวนาจะได้เป็นต้นบุญต้นแบบที่ดีให้กับชาวโลกกันนะจ๊ะ
 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล