สองสหายใจหนักแน่น

วันที่ 14 มค. พ.ศ.2559

สองสหายใจหนักแน่น

         สาเหตุที่ตรัสชาดกสมัยหนึ่ง พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะคิดกันว่า จักพอกพูนการอยู่ป่าตลอดพรรษา ได้ทูลลาพระทศพลแล้วละหมู่คณะออกจากพระเชตวันไปอาศัยอยู่ป่า มีบุรุษคนหนึ่งเข้ามาทำการอุปัฏฐากพระเถระทั้งสอง คิดว่าพระเถระทั้งสองอยู่พร้อมเพรียงกันเหลือเกินเราจะทำพระเถระให้แตกกันได้ไหมหนอ จึงทดลองยุพระเถระทั้งสองให้ระแวงกัน พระเถระทั้งสองจึงขับไล่บุรุษนั้นไป เมื่อออกพรรษาแล้วได้มาเฝ้าพระทศพลกราบทูลเรื่องนั้นให้ทรงทราบพระทศพลตรัสว่า มิใช่บัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อนคนนี้ก็คิดจะทำลายพวกเธอ เมื่อพระเถระทั้งสองทูลอาราธนา จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาสาธกดังนี้..

 

         สมัยหนึ่ง ราชสีห์กับเสือโคร่งอยู่ด้วยกันในถ้ำแห่งหนึ่ง ยังมีสุนัขจิ้งจอกอีกตัวหนึ่งคอยรับใช้สัตว์ทั้งสองอยู่ แต่ละวันสุนัขจิ้งจอกคอยกินเดนอาหารของราชสีห์และเสือโคร่งผู้เป็นนาย อยู่มาวันหนึ่งสุนัขจิ้งจอกอุตริคิดขึ้นว่า..

"เราไม่เคยได้กินเนื้อราชสีห์กับเสือโคร่งมาก่อนเลย เราจะทำสัตว์ทั้งสองนี้ให้แตกคอกันก่อนแล้วค่อยรอกินเนื้อมัน"


สุนัขจิ้งจอกเข้าไปหาราชสีห์แล้วถามด้วยสีหน้าเป็นทุกข์เป็นร้อนว่า..
"นายท่าน! นายท่านไปทำอะไรเสือโคร่งเข้าหรือ"
"มีอะไรรึ" ราชสีห์ถามอย่างฉงน
"เมื่อตอนที่ข้าพเจ้าเดินผ่านมา เสือโคร่งนั่นพูดดูถูกท่านเหลือเกินว่า ราชสีห์ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเราหรอก ทั้งร่างกาย ทั้งความสูงใหญ่ ทั้งพละกำลัง เราเหนือกว่าเยอะ!"


ราชสีห์ข่มอารมณ์ไว้ ไม่รีบเชื่อเสียทีเดียว กล่าวว่า..
"เออ เจ้าจงไปก่อนเถอะ เสือโคร่งคงไม่ได้กล่าวอย่างนั้นหรอกน่า"


สุนัขจิ้งจอกเข้าไปหาเสือโคร่ง กล่าวใส่ความราชสีห์โดยอุบายเดิมเสือโคร่งฟังดังนั้นก็ไม่ลุแก่โทสะ ยังไม่รีบด่วนสรุป ไล่จิ้งจอกไปก่อนแล้วเข้าไปหาราชสีห์ถามให้แน่ใจจึงได้ทราบความจริง แล้วขอขมาโทษต่อราชสีห์ ทั้งสองปรึกษากันว่า เจ้าจิ้งจอกตัวนี้มันแสบมากสมควรไล่มันไปที่อื่น ทั้งสองเข้าไปหาจิ้งจอกแล้วกล่าวว่า..

"เจ้าจิ้งจอกเอ๋ย! เจ้าคิดร้ายต่อเราผู้อยู่กับเจ้าถึงเพียงนี้ พวกเราก็ไม่ยินดีอยู่ร่วมกับเจ้าอีกต่อไป เจ้าจงไปอยู่ที่อื่นเสียเถอะ!"


แล้วทั้งสองก็ไล่สุนัขจิ้งจอกไปที่อื่น เสือโคร่งโล่งใจที่รักษามิตรไว้ได้ หวาดเสียวที่เกือบจะหุนหันพลันแล่นทำผิดพลาดลงไปเสียแล้ว ได้เปล่งอุทานว่า..
"ผู้ใดเชื่อคำพูดคนอื่นเป็นจริงเป็นจัง ผู้นั้นอาจต้องแตกแยกจากมิตร และประสบเวรกรรมอย่างมาก ผู้ใดมุ่งความแตกร้าวคอยแต่จับผิด ผู้นั้นไม่ชื่อว่าเป็นมิตรส่วนผู้ที่ผู้อื่นยุให้แตกกันไม่ได้ไม่รังเกียจในมิตร นอนได้อย่างปลอดภัยเหมือนบุตรนอนแอบอกมารดา ผู้นั้นนับว่าเป็นมิตรแท้"


..แล้วสัตว์ทั้งสองก็อยู่พร้อมเพรียงกันสืบต่อไปอีกยาวนาน

 

ประชุมชาดก
          พระทศพลทรงประชุมชาดกว่าสุนัขจิ้งจอกในกาลนั้นมาเป็นคนกินเดนนี้ ราชสีห์มาเป็น
          พระสารีบุตร เสือโคร่งมาเป็นพระโมคคัลลานะ รุกขเทวาผู้เห็นเหตุการณ์มาเป็นตถาคตแล

-----------------------------------------------

SB 405 ชาดก วิถีนักสร้างบารมี

กลุ่มวิชาพุทธวิธีในการพัฒนานิสัย

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0010246356328328 Mins