แถลงข่าว คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย
วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๙
เนื่องด้วยนายไพบูลย์ นิติตะวัน และพระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการกดดันให้ดำเนินดคีกับพระเทพญาณมหามุนี เป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏจากการ shut down กรุงเทพฯ ตามสำนวนคดีพิเศษที่ ๒๖๑/๒๕๕๖
คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายจึงขอเรียนถามความคืบหน้าในการดำเนินคดีดังกล่าว และพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดังนี้
๑. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ต้องหาในข้อหาสนับสนุนการเป็นกบฏมีสถานภาพทางคดี คือ อัยการเห็นควรสั่งฟ้อง แต่ผู้ต้องหายังไม่รับทราบข้อกล่าวหา และทางกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ได้นำตัวส่งพนักงานอัยการ จริงหรือไม่
๒. ถ้าจริง นายไพบูลย์ได้มาพบเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อกล่าวหาและเร่งรัดคดีของพระเทพญาณมหามุนีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหลายครั้ง
ทำไมพนักงานสอบสวนคดีพิเศษไม่นำตัวนายไพบูลย์ นิติตะวัน มารับทราบข้อกล่าวหาซึ่งเป็นคดีร้ายแรงแล้วนำตัวส่งอัยการ เพื่อนำคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว
๓. พฤติการณ์ดังกล่าวของเจ้าพนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
๔. เอกสารแถลงข่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๙ ที่กล่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว คือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เสร็จสิ้นแล้ว เป็นข้อความอันเป็นเท็จหรือไม่
เพราะหากนายไพบูลย์ยังไม่ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ได้นำตัวนายไพบูลย์ ส่งมอบให้กับอัยการ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงยังสอบสวนนายไพบูลย์ นิติตะวันยังไม่เสร็จสิ้น มิใช่หรือ
๕. หากกรมสอบสวนคดีพิเศษไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายองอาจ ธรรมนิทา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยเหตุผลหลักฐานที่เป็นเท็จ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะมีความผิดฐานแจ้งความเท็จหรือไม่
๖. สถานภาพทางคดีของพระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย อยู่ในขั้นตอนใด ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ประสานการทำงานกับอัยการหรือไม่ จะส่งฟ้องต่อศาลอาญาได้เมื่อใด เพราะเหตุการณ์ได้ล่วงเลยมานานมาก
อัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาอื่นจำนวน ๔ ราย ต่อศาลอาญาไปกว่า ๒ ปีแล้ว คดีติดขัดอยู่ที่ขั้นตอนใด เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้เร่งติดตามต่อไป
จึงใคร่ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษกรุณาตรวจสอบข้อเท็จริงและแจ้งให้ทราบโดยเร็ว
นายพัฐจักร เทพษร
ที่ปรึกษากฏหมายคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย
๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๙