หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๗๙)
ผู้ไขปัญหา (ตอนที่ ๒)
จากตอนที่แล้ว ได้พูดกันถึงเรื่องของคนดีไว้บางส่วน โดยสรุปว่า คนดีก็คือ คนที่รับผิดชอบ
บางนัยยะ เราอาจจะเคยได้ยินว่า คนดีที่โลกต้องการ ต้องมีคุณสมบัติคือ ไม่เป็นพิษเป็นภัย ไม่โง่ และไม่แล้งน้ำใจ ซึ่งคนที่จะมีคุณสมบัติอย่างนี้ได้ ต้องเป็นคนที่มีคุณธรรม คือ มีวินัย มีปัญญา และมีกรุณา ซึ่งก็คือ คุณธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นเอง
อาตมาเคยถามหลวงพ่อทัตตชีโวว่า ในเรื่องการจริงต่อความดี ในมุมมองของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน่าจะเป็นอย่างไร หลวงพ่อได้เมตตาให้คำแนะนำว่า
“ คนที่จริงต่อความดีในสายตาของพุทธองค์นั้น ต้องมีลักษณะสำคัญคือ
ประการแรก ขอให้รู้ว่าอะไรเป็นความไม่ดี เป็นความเลว จะไม่ทำ ต่อให้เอามีดจ่อคอ เอาปืนจ่อหัว ก็ไม่กลัว ตายเป็นตาย
ประการต่อมา คือ ขอให้รู้ว่าอะไรเป็นความดี จะทำ ต่อให้ใครเห็นหรือไม่เห็น ใครจะชมหรือไม่ชม ก็ช่าง จะทำ ”
“ กราบเรียนถามหลวงพ่อครับ ในเรื่องเกี่ยวกับความดีสากล เรื่องการล้างห้องน้ำ ทำไมหลวงพ่อจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากครับ ”
“ ความจริงแล้ว ผู้ที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้มากคือ คุณยาย ที่ท่านคอยเช็ดห้องน้ำให้แห้ง เพราะป้องกันอันตรายให้ผู้มาใช้ และผู้ที่ทำให้หลวงพ่อต้องฉุกคิดมาก ก็คือหลวงพ่อธัมมะ ที่ท่านได้บอกพวกเราแหละ ให้คนที่เขามาใช้ต่อจากเราเหมือนเป็นคนแรก ทำให้หลวงพ่อต้องมาตรองดู จึงเห็นว่าคนที่ทำความดีสากลจนเป็นนิสัยแล้ว จะไม่ได้คิดถึงแค่ตัวเอง แต่ใจจะขยายไปคิดถึงคนอื่น ”
“ กราบขอความเมตตาหลวงพ่อยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ หน่อยครับ ”
“ ก็ถ้าบ้านไหนคนในบ้านเขาฝึกกันมาดี ทั้งพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ลูกหลาน เวลาทำอะไรก็จะคิดถึงกัน เช่น ปู่ย่า ตายาย พอรู้ว่าลูกหลานจะมาเยี่ยม ก็จะล้างห้องน้ำ ขัดห้องน้ำ โดยคิดว่า เออ ทำให้มันสะอาดไว้ ลูกหลานจะได้ใช้ได้สะดวก ไม่ต้องกลัวลื่น
หรือฝ่ายลูกหลานพอรู้ว่า ปู่ย่า ตายาย จะมาเยี่ยม ก็รีบล้างห้องน้ำห้องท่า เช็ดพื้นให้แห้ง เพราะกลัวว่า ปู่ย่า ตายาย จะมาลื่น ผู้เฒ่ายิ่งต้องระมัดระวัง คอยดูแลอย่างดีเลย
ตรงกันข้าม อยู่ด้วยกันแต่ไม่ดูแลเรื่องนี้ให้ดี พระเณร ไม่ล้างห้องน้ำ ไม่เช็ดพื้นให้แห้ง เดี๋ยวเถอะ อุปัชฌาย์ตัวเองนั่นแหละจะลื่นหัวแตก ”
วันนั้นอาตมาได้กราบเรียนถามหลวงพ่อไปอีกหลายคำถาม แต่ที่จำขึ้นใจคือ สิ่งที่หลวงพ่อได้ตอกย้ำในเรื่องการฝึกตัวเรื่องความดีสากลว่า
“ จำไว้นะว่า หากเริ่มต้นแค่ของหยาบ ๆ เรายังไม่จริง แล้วคิดจะไปเอาอริยสัจจ์ ซึ่งเป็นของโคตรจริง อย่าไปหวัง ไม่มีทางหรอก ”
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๖ ต.ค. ๕๙
anacaricamuni.blogspot.ae