ฝ่ายเผยแผ่
กองทัพธรรมมีความจําเป็นต้องเผยแผ่เพราะงานสู้รบกับพญามารจะประสบความสําเร็จได้ง่ายขึ้นก็ต่อเมื่อมนุษย์ทุกคนในโลกได้รู้ว่าตนเองมีพระธรรมกายอยู่ภายในตัว เป็นพระรัตนตรัยภายในซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันแท้จริง สามารถเข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้
หากมนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงพระธรรมกายแล้วจะพบว่า มนุษย์แตกต่างกันอยู่แต่เพียงเฉพาะภายนอก แต่สิ่งที่อยู่ภายใน คือพระธรรมกายนั้น
เหมือนกัน เพราะพระธรรมกายมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันทั้งหมด และอยู่ในอิริยาบถเดียวกัน คือท่านั่งขัดสมาธิเจริญภาวนา
เมื่อมนุษย์เข้าถึงพระธรรมกายแล้ว จะสามารถศึกษาวิชชาเพิ่มเติมจนกระทั่งจักขุ ญาณปัญญา วิชชา และแสงสว่างเกิดขึ้น จากนั้นจึงจะสามารถเรียนวิชชาที่ 1 คือ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ทําให้ระลึกชาติได้และรู้ว่าเราเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อใด วิชชาที่ 2 คือ จุตูปปาตญาณ ทําให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งการกระทําหรือกฎแห่งกรรม และวิชชาที่ 3 คือ อาสวักขยญาณ คือการขจัด กิเลสซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาทั้งปวงในชีวิต
หากฝ่ายเผยแผ่สามารถทําให้มนุษย์ทุกคนเข้าถึงพระธรรมกาย แล้วปฏิบัติธรรมไปพร้อมๆ กัน เพื่อมุ่งไปสู่จุดหมายเดียวกัน คือภายในศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ก็จะเกิดการรวมตัวกันของพระธรรมกายซึ่งพระธรรมกายของแต่ละบุคคลจะซ้อนรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อทับทวีกําลังส่งเราไปให้ถึง ที่สุดแห่งธรรมได้อุปมาได้กับเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งที่มีกําลังหนึ่งแรงม้า เมื่อนํามาผนวกเข้าด้วยกันกับอีกเครื่องหนึ่งก็เพิ่มแรงเป็นสองแรงม้า หากรวมกัน นับพันล้านเครื่องก็จะเป็นพลังทวีคูณยิ่งๆ ขึ้นไปเป็นการช่วยย่นระยะเวลาและหนทางในการปราบพญามาร เพราะต้องอาศัยกําลังบารมีมาก สมมติว่าจากปกติถ้าทํากันเองในกลุ่มเล็กๆ อาจใช้เวลานับพันปีกว่าจะไปถึง ณ จุดนั้นได้ แต่ถ้ารวมพลังกันมากขึ้นเป็นหมู่ใหญ่ ก็สามารถย่นระยะเวลาให้เหลือเพียงแค่ 100 ปีได้ฝ่ายเผยแผ่จึงสําคัญมากในเรื่องนี้