ตรงนี้เป็นเรื่องไม่ง่าย ถ้าหากจำเป็นต้องอยู่ด้วยกันล่ะก็ ต้องอดทน ในเรื่องนี้ขอฝากหลักปฏิบัติเอาไว้ 4 ประการ
ตามหลักสังคหวัตถุ 4 ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้นั่นเอง คือหนึ่ง ทาน (การให้) ให้แสดงความมีน้ำใจโดยเริ่มจากในใจของเราเอง พยายามทำใจให้เรารู้สึกไม่มีปฏิปักษ์กับใครเขา ไม่รู้สึกเป็นลบ อคติกับเขา เขาจะไม่ชอบเรามันเรื่องของเขา แต่เราทำใจของเราอย่างน้อยให้กลางๆ เฉยๆ ไม่ได้ผูกโกรธ ไม่ได้เกลียด ไม่ได้ไม่ชอบหน้า ทำใจสบายๆ แล้วถ้าเกิดทำใจได้แล้วก็เริ่มทำใจเหมือนกับว่าให้รู้สึกดีกับเขานิดๆ ยิ่งดีใหญ่ แล้วมีอะไรก็แบ่งปันมีน้ำใจกันไปเรื่อยๆ จากใจเราสุดท้ายจะสื่อถึงใจเขา ประการที่สองคือปิยวาจา ให้พูดดีๆ นะ สังเกตน้ำเสียงเราเองว่าอย่าไปแข็งกระด้าง มันจะเป็นไปโดยไม่รู้ตัวนะ พอรู้สึกว่าเขาไม่ชอบเรา เราก็ฮึดขึ้นมาบ้าง เดี๋ยวเราจะพูดกับเขาให้เขารู้สึกไม่ค่อยชอบบ้าง มันก็เลยแบบไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นเราต้องสังเกตน้ำเสียงให้มีความนุ่มนวล พูดจาให้เกียรติ อย่างนี้ล่ะก็มันไม่เติมเชื้อแต่จะค่อยๆ ดับไฟ ประการที่สามคืออัตถจริยา ทำตนเป็นประโยชน์ ได้แก่ ถ้าเราเป็นคนที่มีประโยชน์กับเขา
ความรู้สึกไม่ชอบของเขาจะลดลง เช่น อยู่ในครอบครัวเดียวกันบ้านเดียวกัน อาจเป็นญาติพี่น้องของฝ่ายสามีหรือภรรยาก็ตาม เขาอาจจะไม่ชอบหน้าเรา แต่ถ้าเกิดเราเป็นคนมีประโยชน์ ทำงานทำการมีฐานะมีทรัพย์สิน หารายได้เข้าครอบครัวได้ เขาต้องพึ่งเราในบางอย่าง ความรู้สึกเกรงใจ ความรู้สึกดี เดี๋ยวจะค่อยๆ เกิดขึ้นมา ฉะนั้นเราเองอย่าเป็นคนที่ว่าไร้ค่านะ ต้องทำตัวเองให้เป็นคนมีค่า แล้วประการที่สี่คือสมานัตตตา ได้แก่
การวางตัวเหมาะสมกับฐานะบทบาทอย่างสม่ำเสมอด้วย อ่อนเกินไปก็ไม่ได้นะ ทำตัวต่ำเกินไปเขาข่มตายเลย มันต้องพอดีๆ สูงเกินไปก็เป็นที่หมั่นไส้ต้องพอดีๆ สุดท้ายแล้วความเกรงใจจะเกิดขึ้น ให้ครบทั้งสี่ข้อล่ะก็เดี๋ยวเราจะคลี่คลายปัญหาทั้งหมดได้แน่นอน แล้วกลับกลายเป็นคนที่เขาทั้งรักแล้วก็ทั้งเกรงใจ แม้จะใช้เวลาบ้างก็ตาม อดทน สำเร็จแน่