หลวงพ่อสอนอะไร

หลวงพ่อสอนอะไร (ตอนที่ ๑๑๗)
ทัศนคติที่ดี
 

     ในภาวะที่พระพุทธศาสนาในประเทศไทยกำลังถูกกระทำย่ำยีอย่างหนักทั้งจากภัยภายนอกและภัยภายใน ก็ยังมีสิ่งที่ทำให้อาตมาได้ชื่นใจและภาคภูมิใจอยู่ นั่นคือ ความปีติใจที่มีครูบาอาจารย์ที่ดี ที่คอยแนะนำทางสว่างของชีวิตให้

    หากใครที่ติดตามข่าวคราวจากโซเชียลต่าง ๆ ก็คงจะได้เห็นมีบุคคลบางท่านที่ได้อ้างตัวว่าเป็นอดีตศิษย์วัดพระธรรมกายได้ออกมาให้ข้อมูลต่าง ๆ นานา ที่ทำให้คนที่ไม่ทราบความจริงคล้อยตามไปได้ ซึ่งในเรื่องนี้อาตมาเคยไปกราบหลวงพ่อทัตตชีโวได้ปรารภเรื่องนี้กับท่าน หลวงพ่อท่านไม่ได้เอ่ยปากตำหนิใครแม้แต่เพียงคำเดียว ตรงกันข้ามท่านกลับบอกอาตมาว่า “อย่าไปโทษเขาเลย หากจะโทษก็ต้องโทษหลวงพ่อเอง ที่สอนเขามาได้แค่นั้น ”

     ไม่เฉพาะแต่หลวงพ่อทัตตชีโว หลวงพ่อธัมมชโยก็เช่นเดียวกัน กล่าวคือเมื่ออาตมาบวชได้ไม่กี่พรรษา มีเหตุการณ์ที่มีพระบางรูปออกไปจากวัด แล้วก็กล่าวโจมตีหลวงพ่อ โจมตีวัด ก็มีผู้มาเล่าเรื่องนี้ให้ท่านฟัง วันนั้นอาตมาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยังอดทึ่งไม่ได้ว่า หลวงพ่อท่านมีทัศนคติที่ดีต่อคนอื่นเสมอ พอเขาเล่าไม่กี่ประโยค หลวงพ่อท่านก็ยกมือห้าม แล้วก็กล่าวว่า “พอแล้ว หลวงพ่อไม่อยากฟังเรื่องนี้ หลวงพ่ออยากจำแต่สิ่งที่ดีๆ ที่เคยสร้างวัดมาด้วยกัน และหากใครพบท่าน ช่วยถามท่านด้วย หากมีอะไรเดือดร้อนจะให้หลวงพ่อช่วย ก็ขอให้บอก ” 

     แม้แต่ในเรื่องของการทำงาน หลายครั้งที่อาตมาเคยหงุดหงิดเวลาทีมงานทำอะไรไม่ได้ดังใจ พอเล่าเรื่องให้หลวงพ่อทัตตชีโวฟัง ท่านก็จะให้โอวาทเลยว่า “สิ่งที่ผู้บริหารมักจะเป็นกัน แล้วก็ไม่ค่อยรู้ตัว คือ โรคเจ้าโทสะ เมื่อไม่ได้ดังใจก็จะหงุดหงิด โมโหง่าย เอ็งคิดดูสิ หากเขาทำได้อย่างเอ็ง เขาก็เป็นเอ็งแล้ว หรือหากเขาเก่งกว่าเอ็ง เขาก็เป็นหัวหน้าเอ็งแล้ว มีคนมาให้ใช้ดีเท่าไรแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่ฝีมือของเอ็งหล่ะที่จะฝึกเขาได้แค่ไหน ” 

    จากตัวอย่างที่ยกมานี้ ทำให้อาตมาได้หลักในการดูแลหมู่คณะ คือ จะไม่โทษคนอื่น แต่จะกลับมาพิจารณาที่ตัวเราเองก่อน 

    นึก ๆ แล้วก็สงสารผู้ที่กล่าวร้ายหลวงพ่อทั้งสอง ในขณะที่เขาเหล่านั้น คิดเรื่องร้าย ๆ ด้วยใจที่ขุ่นมัว แต่หลวงพ่อทั้งสองกลับมีใจที่ผ่องใส ไม่คิดร้ายต่อใคร

    อาตมาก็ได้แต่อธิษฐานจิต ให้เขาเหล่านั้น กลับมาเป็นสัมมาทิฏฐิ มีทัศนคติที่ดีต่อกัน จะได้ช่วยกันเผยแผ่งานพระพุทธศาสนาให้กว้างไกลยิ่ง ๆ ขึ้นไป 

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก
อาสภกันโต ภิกขุ 
๑๙ มิ.ย. ๖๑ 
http://anacaricamuni.blogspot.com