นี่แหละ...ละคร
ถ้าจะอยู่นอกปกครองเขา ต้องไปให้ถึงที่สุดสายธาตุสายธรรมของตัว ไปถึงที่สุดสายธาตุสายธรรมของตัวละก็ ในที่สุดนั้นไม่มีใครปกครองเลยเราปกครองของเราเอง
เราไม่ต้องรับความแก่ ความเจ็บ ความตายก็ได้ เพราะเรามีอำนาจพอแล้ว เราไม่อยู่ในปกครองก็ได้ตามความปรารถนา แต่ว่าต้องไปให้สุดสายธาตุสายธรรมของตัว ถ้าให้สุดสายธาตุสายธรรมของตัวไม่ได้ละก็ ถ้าให้สุดสายธาตุสายธรรมของตัวไม่ได้ละก็ เลี้ยงเอาตัวรอดไม่ได้
บัดนี้เราเป็นภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกาในพระพุทธศาสนา เมื่อมาฟังอุทานคาถา รู้ว่าธรรมของพระศาสนาลึกซึ้งอย่างนี้ขนาดนี้ และก็อุตส่าห์อย่าประมาท อย่าเลินเล่อ อย่าเผลอตัว อย่างคนมีปัญญา อย่างคนรู้ดีรู้ชั่วอย่าเอาเล่นเอาอย่างเด็ก ถ้าเมื่อเล่นอย่างเด็กแล้วก็เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นฝุ่นเล่นทรายอยู่ล่ะก็ ชีวิตจะไม่พอใช้
เพราะเขาเล่นละครกันเป็นบ้านๆโรงๆกัน ในโลกนี้เขาเรียกว่า ละครโรงใหญ่ เล่นฝุ่น เล่นทราย เล่นแปลกๆ ไปตามหน้าที่ เอาจริงๆ แท้ๆ ไม่ได้สักคนหนึ่ง ขึ้นไปแล้วก็ตายกันหมด เอาจริงเอาแท้เหลือสักคนหนึ่งก็ไม่มี
เพราะเหตุอะไรเล่า เพราะเหตุว่าเผลอตัวไป เลินเล่อเผลอตัวไป มนุษย์โลกนี้เราผ่านไปผ่านมาเข้าใจว่าเป็นบ้านของเราเมืองของเราเสียใหญ่โตมโหฬารทีเดียว เข้าใจเสียอย่างนั้นก็เข้าใจผิดไป นี่แหละละคร กายเรานี่นะโตกว่าบ้านเมืองเรานี้มากนัก ให้ไปจงดูเถิด แต่ว่าต้องไปให้ถึงที่สุดให้ได้นะ
ไปที่สุดของกายเหล่านี้ได้ ก็จะเอาตัวรอดได้เป็นแท้
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง "พุทธอุทานคาถา"
๑๐ ธันวาคม ๒๔๙๗