เป็นหนี้
ปัจจัยสันนิสสิตศีล พิจารณาปัจจัยทั้ง ๔ คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัย ไม่บริโภคด้วยตัณหา นี่ก็เป็นศีลอีกอันหนึ่ง
ปัจจัยสันนิสสิตศีลนั้นแหละเป็นข้อสำคัญนัก ถ้าเป็นอิน (อิ-นะ) บริโภค บริโภคด้วยความเป็นหนี้ ไม่ได้พิจารณาปัจจัยให้เต็มส่วนเต็มที่ในจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัยแล้วละก็ ได้ชื่อว่าภิกษุบริโภคด้วยความเป็นหนี้
ตายไปจะต้องเป็นวัวให้เขาใช้ เป็นควายให้เขาขี่ เป็นมาให้เขาขี่ เป็นช้างให้เขาขี่ สูงขึ้นไปกว่านั้น ไกลไปกว่านั้น ตายไปเป็นบ่าวเป็นทาสเขา เป็นมนุษย์มาเป็นบ่าวเป็นทาสเขา มาเป็นคนใช้เขา เขาไม่ใช้ก็อยากให้ใช้นัก ไปทำอาสาเขาเฉยเท่านั้นแหละ เพราะเป็นหนี้เขาแล้ว บริโภคด้วยความเป็นหนี้เข้าแล้ว นี่อย่างนี้เป็นบ่าว
จีวร เมื่อเวลาจับจีวรที่เขาถวายเข้า จีวรนี้สักแต่ว่าเป็นธาตุ เป็นปัจจัยสักแต่ว่าธาตุ ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเขาเราใดๆ แล้วก็เป็นของว่างเปล่าไป จีวรนี้เป็นของไม่เน่าไม่เปื่อยน่าดูน่าชม ไม่สกปรกเปรอะเปื้อนใดๆ เป็นของดีมาก พอถูกต้องร่างกายกลายเป็นของเสียหายไปได้ ไม่น่าดูน่าชมไปได้
พิจารณาจีวรอีก จีวรเมื่อเวลาจะนุ่งเข้าไม่ได้นุ่งเพื่ออื่น นุ่งเพื่อจะป้องกันเสียซึ่งกายหนาวแลร้อน เพื่อกันเหลือบยุงตะเขบ ตะขาบต่างๆ เพื่อจะไม่ให้กามกำเริบเท่านั้น พิจารณาดังนั้นก็นุ่งห่มไป ห่มไปแล้วก็พิจารณาแบบเดียวกันอีก ซ้ำอีก เรียกว่า อภิณหปัจจเวก พิจารณาจีวรนุ่งห่มพร้อมด้วยองค์คุณ
ธาตุปัจจเวก ก็แบบเดียวกัน นั่งนอนเสนาสนะเราบริโภคหยูกยา ก็พิจารณา ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่ง ปัจจัยสันนิสสิตศีล ไม่บริสุทธิ์เป็นอินบริโภคบริโภคด้วยความเป็นหนี้เขา อย่างนี้ต้องได้รับทนทุกข์ต่างๆนานาเพราะเหตุว่าเป็นหนี้เขา
ต้องบริสุทธิ์ ถ้าไม่บริสุทธิ์ ต้องมีหิริโอตตัปปะ อาย ไม่ได้
เป็นพระศีล ๒๒๗ ไม่บริสุทธิ์ อาย
อินทรีย์สังวรศีลไม่บริสุทธิ์ ก็อาย สะดุ้งกลัวอีกเหมือนกัน
ปัจจัยสันนิสสิตศีลไม่บริสุทธิ์ก็อาย
อาชีวปาริสุทธิศีลไม่บริสุทธิ์ก็อาย สะดุ้งกลัวอีกเหมือนกัน
ปัจจัยวิสุทธิศีลไม่บริสุทธิ์ก็อาย สะดุ้งกลัวเหมือนกัน แบบเดียวกัน
เหมือนเราท่านในบัดนี้ ไม่ได้ศีลบริสุทธิ์สมบูรณ์บริบูรณ์ พระเณรศีลไม่บริสุทธิ์บริบูรณ์ อุบาสกอุบาสิกาศีลไม่บริสุทธิ์บริบูรณ์
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง "หิริโอตตัปปะ"
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๗