สะอาด ประหยัด ขยัน
คุณยายให้ความสําคัญกับความสะอาดของสถานที่และสิ่งต่างๆ ภายในวัดเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ “ห้องน้ำ” ท่านอธิบายว่าห้องน้ําคือห้องรับแขก วัดจําเป็นต้องดูแลรักษาห้องน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อเป็นการต้อนรับและให้เกียรติแขกผู้มาเยือน คุณยายทําความสะอาดห้องน้ำ โดยล้วงคอห่านและขัดถูทุกซอกทุกมุมจนสะอาดเกลี้ยงเกลา นอกจากนี้ท่านยังแยกประเภทผ้าขี้ริ้วที่นํามาใช้งานอีกด้วย เช่น ผ้าผืนนี้สําหรับเช็ดเท้าผืนนี้สําหรับล้วงคอห่าน ผ้าผืนนี้ถ้าเปียกจะต้องเช็ดอย่างนี้ถ้าแห้งต้องเช็ดอีกแบบ ส่วนรองเท้าที่ถอดไว้ต้องจัดวางให้เป็นระเบียบ คุณยายสอนทุกคนไปเรื่อยๆ พร้อมกับทําให้ดูเป็นตัวอย่าง
นอกจากความสะอาดแล้ว คุณยายยังสอนให้ทุกคนรู้จักประหยัด เริ่มตั้งแต่การใช้ไฟฟ้าภายในวัดหลอดไฟทุกดวงต้องมีกําหนดเวลาในการเปิดปิดที่แน่นอน ผู้ใช้ต้องรู้ว่าควรเปิดปิดหลอดไฟเวลาใดควรเปิดปิดดวงไหนบ้าง หากหลอดไฟดวงไหนไม่ใช้แล้วต้องรีบปิดทันที ทุกคนต้องรู้หน้าที่อยู่เสมอไม่ต้องรอให้คุณยายเดินมาเตือน
ในขณะที่คุณยายยังมีชีวิตอยู่ ท่านออกตรวจตราบริเวณวัดเพื่อดูแลความเรียบร้อยอยู่เสมอแม้ท่านละสังขารไปแล้ว ท่านก็ยังคงสอดส่องดูแลความเรียบร้อยของสิ่งต่างๆ ภายในวัดอยู่เช่นเดิมยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่ง คนงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เข้ามาทํางานภายในพื้นที่วัดพระธรรมกายได้บังเอิญเห็นแม่ชีท่านหนึ่ง มาตรวจงานในช่วง ตี 1 ตี 2 เป็นเวลาหลายคืนติดต่อกัน พวกเขาไม่เคยเข้าวัดพระธรรมกายมาก่อน จึงไม่รู้จักคุณยาย ได้แต่คุยกันว่าแม่ชีวัดนี้ขยันมากจริงๆ ร่ําลือกันจนรู้ไปถึงวิศวกรที่เป็นหัวหน้าควบคุมงานก่อสร้าง วิศวกรจึงมาถามเจ้าหน้าที่ของวัดว่าจะไปพบแม่ชีที่มาตรวจงานท่านนี้ได้ที่ไหน เจ้าหน้าที่ได้แต่ตอบว่าวัดพระธรรมกายมีแม่ชีประจําอยู่ท่านเดียว คือคุณยายอาจารย์ซึ่งท่านละสังขารไปแล้ว คํากล่าวนี้ทําให้วิศวกรตกใจมากนับตั้งแต่นั้นมาทุกคนจึงตั้งอกตั้งใจทํางานกันอย่างขยันขันแข็งยิ่งกว่าเดิม